การตั้งครรภ์
“ตายังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”
“เมื่อไหร่จะเลิกทำนิสัยพาลแบบนี้สักทีฮะ!” ธราเทพไม่มีทางเชื่อคำพูดแก้ต่างของลลิตา สันดานเธอเป็นอย่างไรเขารู้ดี เชื่อถือได้ที่ไหนกันเล่า
“พี่เทพคะ ตายังไม่ได้ทำอะไรนันเลยนะ นันล้มลงไปเอง…” ไม่ทันอธิบายด้วยซ้ำ เสียงหวานก็หายกลับสู่ลำคอ ธราเทพใช้มือหนาผลักหัวไหล่เธอจนตัวเซ แผ่นหลังบางกระแทกข้างประตูรถยนต์อย่างแรง
“เธอจะแก้ตัวน้ำขุ่น ๆ ไปถึงเมื่อไหร่ ทำไมไม่รู้จักยอมรับความจริงเสียบ้าง ขนาดฉันมาเห็นเองกับตายังหน้าไม่อายโบ้ยความผิดมาให้นันอีก!”
“เอาเถอะค่ะยังไงพี่เทพก็คงไม่เชื่อตาอยู่ดี”
เธอพูดปากแข็ง ทั้ง ๆ ที่ขณะนี้ปวดท้องขึ้นเรื่อย ๆ
“ถ้ารู้ว่าผิดก็ขอโทษนันซะ”
“พี่เทพคะ นันไม่เป็นไรค่ะ อย่าทำถึงขั้นนั้นเลย” หล่อนรีบออกตัวสีหน้ารู้สึกผิดเสัยเต็มประดา
“ไม่ได้ ยังไงลลิตาก็ต้องขอโทษนันที่ทำนันเจ็บตัว”
หากธราเทพไม่ยอมปล่อยเรื่องให้ผ่านพ้นไปเหมือนทุกครั้ง เมื่อก่อนเขายอมปล่อยผ่านเพราะเห็นแก่หน้าบิดา และมารดาของลลิตา แต่ในตอนนี้เขาไม่ไว้หน้าใครแล้ว เธอทำตัวผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเขาเอือมระอา
“พี่เทพ ตาบอกแล้วไง ตาไม่ได้ทำ นันล้มลงไปเอง ตายังงงอยู่เลยว่าเกิดอะไรขึ้น ตากับนันก็ตัวเท่า ๆ กันจะเอาแรงที่ไหนไปผลักคนทั้งคนจนล้ม”
“เพราะดื่มจนเมาไงถึงทำอะไรขาดสติ!”
ลลิตาอยากตอบออกไปว่าคืนนี้เธอมาเที่ยวผับก็จริง แต่ไม่ได้แตะเหล้าเลยสักแอะเพราะเป็นห่วงลูกในท้อง คุณหมอวนิดาเตือนว่าห้ามดื่มเด็ดขาด
“พี่เทพจะเอาผิดกับตาให้ได้เลยใช่ไหม”
“ก็ในเมื่อเธอผิด ฉันก็ต้องสั่งสอนให้เธอรู้จักผิดแล้วขอโทษ ทำไมเธอถึงชอบทำตัวหน้ามึนบอกยากแบบนี้ฮะ!” เขาเกรี้ยวกราดขึ้นอีกหน
“จะให้ตายอมรับอะไรคะ ตาไม่ใช่คนผิด ตาไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น”
ลลิตายืนกราน ปากแข็งเกินกว่าจะปริปากพูกคำว่าขอโทษออกไป อีกอย่างเธอไม่ใช่คนผิด ธราเทพอคติจนลำเอียงเลือกข้างต่างหากล่ะ
ธราเทพยังไม่ทันอ้าปากต่อว่า เพื่อนทั้งสองของเธอก็เดินมาถึง
“เกิดอะไรขึ้นแก” เรืองรอง
“เปล่าหรอก เรารีบกลับกันเถอะ”
“แน่ใจนะตา” อานนท์
“จริง” เธอยืนยัน ก่อนลลิตาจะขึ้นรถไป หูกลับได้ยินเสียงทุ้มที่ดังแว่วมาเข้าหู
“ผู้หญิงอะไรกระด้างกระเดื่องเหลือทน…ไม่เจ็บตรงไหนใช่ไหมนัน พี่ขอโทษนะที่พาเรามาเจ็บตัว ดูแลนันได้ไม่ดีพออย่างที่รับปากคุณแม่ของนันไว้”
“นันไม่เป็นอะไรจริง ๆ ค่ะพี่เทพ”
อาการปวดท้องหนักขึ้นในตอนเช้าของวันถัดไป เสียจนลลิตาไม่สามารถลุกจากที่นอนได้ เธอเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ข้างหัวเตียงแล้วกดโทร.ขอความช่วยเหลือจากเพื่อนสนิทอย่างเรืองรอง
“รอง!” เสียงหวานที่สั่น และอ่อนระโหยกรอกไปเมื่ออีกคนรับสาย
“เกิดอะไรขึ้นยัยตา” ปลายสายทางนั้นตกใจไม่น้อย
“ช่วยมารับพาฉัรไปโรงพยาบาลที ฉันปวดท้อง โอ๊ย!”
มือกุมหน้าท้องด้วยความทรมาน ลลิตาตาเบิกโพลงกว้างครั้นก้มลงไปดูใต้หว่างขาแล้วพบเลือดค่อย ๆ ไหลออกมาเปื้อนผ้าปูที่นอน
“ได้ ๆ ฉันจะรีบไป ตอนนี้ แกรออีกนิดนะ” เรืองรองไม่รอช้ารีบไปตามความต้องการของลลิตาทันที แม้จะสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
ผ่านไปสองชั่วโมง คุณหมอวนิดาก็สั่งเจ้าหน้าเข็นเตียงผู้ป่วยไปพักยังห้องรับรอง
เรืองรองตามไป ก่อนถามอาการ “เกิดอะไรขึ้นคะคุณหมอ เพื่อนของฉันเป็นอะไร!”
ในขณะนั้นอานนท์ก็เดินทางมาถึงโรงพยาบาลพอดี เนื่องจากหล่อนโทร.ไปบอก
ใครจะไม่ตกใจบ้างล่ะ เลือดไหลท่วมตัวลลิตาขนาดนั้น
“คุณลลิตาปลอดภัยดีแล้วนะคะ ลูกในท้องก็ปลอดภัยเช่นกันค่ะ คราวหลังต้องระมัดระวังกว่านี้ ไม่อย่างนั้นอาจเสี่ยงแท้งได้ พยายามอย่าให้อะไรกระทบกระเทือนถึงลูกนะคะ”
“ละ ลูก ลูกใครคะ” เรืองรองมึนงง พอ ๆ กับอานนท์
“คุณลลิตาตั้งครรภ์ได้สี่เดือนกว่าแล้วค่ะ” คุณหมอวนิดากล่าวด้วยรอยยิ้ม กาอนขอตัวไปทำงานต่อ ซึ่งคนในห้องยังยืนอึ้งกันอยู่เลย
หากได้ยินไม่ผิด ลลิตากำลังท้องอย่างนั้นเหรอ?
เพื่อนทั้งสองรอให้ลลิตาฟื้น ทันทีที่เธอได้สติคำถามแรกจากอานนท์ก็โพล่งขึ้น
“เธอมีลูกเหรอตา มีตั้งแต่เมื่อไหร่ กับใคร!”
“พะ พวกแกรู้แล้วเหรอ” ความลับไม่มีในโลกจริง ๆ
“บอกฉันมานะยัยตา แกไปท้องกับใคร!” เรืองรองคาดคั้นเอาความ
“คะ คือ…” ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องปกปิดเพื่อนสนิททั้งสองคน เธอสูดหายใจลึก ๆ เข้าปอดแล้วเอ่ยเสียงนิ่ง “กับพี่เทพ คืนนั้นที่ฉันกับเขาพลาดมีอะไรกัน คืนที่ฉันวางแผนจะจับเขา…”
“ยัยตา!!!”
ทำเอาพ้องเพื่อนแทบช็อคอีกครั้ง ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ ทุกอย่างมันได้เกิดขึ้นแล้ว และที่ผ่านมาลลิตาไม่ได้สานสัมพันธ์กับผู้ชายคนไหนเลย นอกเสียจากธราเทพ
ผู้ชายที่เธอรักเขาอย่างเทิดทูน แต่เขาก็เกลียดเธอราวกับตัวเชื้อโรค
พอเรืองรองรู้ว่าเพื่อนสาวกำลังตั้งครรภ์จึงสั่งห้ามไม่ให้ลลิตาออกไปขายของทำงานหนักแบบนั้นอีก มีเรื่องเงินหากทุกข์ร้อนใจก็หันมาพึ่งพาหล่อนได้ อีกทั้งอานนท์ก็พร้อมจะช่วยเหลือ ทำให้กิจการขายหมูปิ้งต้องพักเอาไว้สักระยะ