ตอนที่ 5 ไม่ได้เต็มใจช่วย
“กูเอง”
เสียงเข้มดังขึ้นท่ามกลางความมืด ทิชากรค่อยๆโผล่หน้าขึ้นมาเห็นเงาของชายร่างสูงยืนอยู่กลางถนน ด้วยความที่บริเวณนี้ค่อนข้างมืดทำให้เธอมองไม่เห็นว่าเขาคนนั้นเป็นใคร
“กล้าดียังไงมาทุบกระจกรถกู มึงอยากตายใช่ไหม ไปจับมันมาสิวะ!!” ไอ้หมีควายตะเบงเสียงแล้วสั่งลูกน้องไปตามจับตัวผู้ชายคนนั้น แต่ยังไม่ทันจะวิ่งไปถึงตัว เสียงปืนก็ดังขึ้นหลายนัดติด
ปัง!ปัง!ปัง!
“เฮ้ย! มะ...มันมีปืนครับเฮีย” ลูกน้องสองคนวิ่งกลับมา ลูกตะกั่วเฉียดหัวไปแค่นิดเดียว
“บัดซบเอ้ย! มึงเป็นใครวะ!!”
“…เราเคยเจอกันแล้ว” เตวิชญ์ก้าวออกมาจากความมืดทำให้พวกมันเห็นใบหน้าได้อย่างชัดเจน
“มะ..มึง!”
“ปล่อยผู้หญิงคนนั้นซะ”
“แต่มึงเป็นคนบอกให้กูเอาอีนังนี่ไปต้มยำทำแกงไม่ใช่หรอ!”
“กูเปลี่ยนใจแล้ว” ชายหนุ่มใบหน้าคมเข้มตอบเสียงเรียบ
“แล้วถ้ากูไม่ให้ล่ะ”
ปัง!
เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัดพร้อมร่างของไอ้หมีความทรุดฮวบลงกับพื้น เลือดสีแดงสดไหลทะลักออกจากต้นขา
“อ๊ากกก!! มะ..มึงยิงขากูทำไม!”
“ถ้าไม่อยากให้กูยิงหัวมึง....ปล่อยผู้หญิงคนนั้นซะ!”
“ไปปล่อยมันสิวะ! ไม่เห็นหรอปืนจ่อหัวกูอยู่เนี่ย!” ไอ้หมีควายรีบหันไปสั่งลูกน้องสองคนที่กลัวจนตัวสั่นเหมือนผีเข้า
“คะ...ครับๆๆ”
“ฮึก...มะ..มึงเป็นใคร!”
“เป็นใครไม่สำคัญหรอก แต่ถ้ามึงยังทำเรื่องบัดซบพวกนี้ในผับของกูอีกล่ะก็...” ปลายกระบอกปืนกดเข้าไปที่หน้าผากของมัน ไอ้หมีควายรีบหลับตาปี๋ “สมองมึงเละแน่!”
“ผะ..ผมขอโทษครับ ไม่คิดว่าคุณ..เอ่อ...เป็นเจ้าของผับ”
“รีบไสหัวไปซะ!”
“ฮ้ะ!!? ”
“รีบไสหัวไปซะ ก่อนที่กูจะฆ่าพวกมึงทิ้ง!!”
ทั้งสามคนเผ่นหนีป่าราบก่อนที่เสียงกัมปนาทจะดังตามไล่หลังหลายนัดติดจนหมดกระสุน มือใหญ่ยัดปืนไว้ในสีข้างแล้วเดินไปที่รถตู้ เห็นหญิงสาวรายหนึ่งกำลังควานหาเสื้อผ้ามาสวมใส่ เนื้อตัวของเธอเต็มไปด้วยบาดแผลเพราะโดนเศษกระจกรถ
“ไง…”
“กรี๊ดดด!!!”
“ร้องทำบ้าอะไร!”
“คะ...คุณ!” หน้างามเจิ่งนองไปด้วยหยาดน้ำตาเงยขึ้นสบตา ทันทีที่เห็นน้ำตาของเธอเขาก็กระตุกยิ้มด้วยความสะใจพร้อมเค้นเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ
“กลัวหรอครับคุณหนูทิชากร”
“...” ทิชากรไม่ตอบ เธอยกมือกอดเรือนร่างไว้แน่น ร่างเล็กสั่นระริกเพราะยังอยู่ในอาการอกสั่นขวัญผวา คิดว่าจะโดนไอ้หมีควายรักแร้เหม็นข่มขืนไปแล้วซะอีก
“ไง...ทำไมไม่ตอบ”
“ขะ...ขอบคุณ”
“อะไรนะ”
“ขอบคุณที่ช่วยฉัน”
“ตอนแรกก็ไม่ได้กะว่าจะช่วยหรอก ถ้าเรื่องมันไม่ได้เกิดที่ผับของฉัน” ชายหนุ่มตอบเสียงเรียบ แต่ดวงตาจ้องมองใบหน้างามไม่วางตา
แม้ว่าเวลาจะผ่านมานานหลายปีแต่เขาก็ยังจำหน้าผู้หญิงใจเหี้ยมคนนี้ได้ เธอเคยส่งคนมาดักทำร้ายคนที่เขาชอบ แถมยังจ้างคนไปดักข่มขืน ‘รมิดา’ อีก เขาไม่บีบคอให้ตายก็บุญหัวเท่าไหร่แล้ว
ใครก็ตามที่บังอาจทำร้ายคนที่เขาชอบ จะไม่มีวันญาติดีด้วยเด็ดขาด!
รมิดาทั้งสวยทั้งน่ารัก แถมยังเป็นคนจิตใจดี ตัดภาพมาที่ผู้หญิงคนนี้...ต่อให้สวยหยาดเยิ้มเหมือนนางฟ้าเขาก็ไม่มีทางชอบหรอกเพราะเนื้อแท้เน่าเฟะยิ่งกว่าอะไร
“ถึงคุณจะไม่ได้เต็มใจช่วย แต่ฉันก็อยากขอบคุณ” ทิชากรหลบตาคมแทบไม่ทัน ค่อยๆดันกายลุกขึ้นแต่ก็รู้สึกเจ็บแปลบที่ข้อเท้าจนล้มลงเหมือนเดิม “โอ้ยยย!!”
“สำออย!”
“ปะ...เปล่านะ ฉันเจ็บข้อเท้าจริงๆ”
“อยากให้ฉันอุ้มงั้นหรอ”
ทิชากรสบตากับร่างสูง...
ทันใดนั้นเขาก็เดินเข้ามากระชากร่างของเธอลงจากรถทั้งๆที่ยังเจ็บข้อเท้าอยู่ ทำให้หัวเข่าสวยกระแทกพื้นถนนจนเลือดออก สร้างความเจ็บปวดให้กับร่างเล็กจนน้ำตาแทบไหล
“โอ้ย!! ฉันเจ็บ!”
“เจ็บหรอครับคุณหนู” เตวิชญ์ย่อเข่าลงใช้สองมือเชยคางมนขึ้น
แวบแรกที่เห็นใบหน้าในระยะใกล้ทำให้ทั้งสองเผลอสบตากันอย่างไม่ได้ตั้งใจ จนเกิดเป็นความเงียบ เตวิชญ์ยอมรับว่าทิชากรเป็นคนสวยมาก ยิ่งโตก็ยิ่งสวย แต่ใบหน้าของเธอค่อนข้างเฉี่ยว จมูกโด่งเชิดขึ้นเล็กน้อยออกแนวดื้อรั้น ใบหน้าเรียวยาวมีแก้มป่องๆเล็กน้อย ดูน่ารักจิ้มลิ้มและดูสวยในเวลาเดียวกันเพราะเธอมีดวงตาที่ค่อนข้างกลมโตแต่หางตาเชิดขึ้น ดูเป็นสาวที่มีความมั่นอกมั่นใจสูง เพราะใบหน้าออกแนวเย่อหยิ่ง
นี่ล่ะหนาที่เขาว่า...สวยเริดเชิดหยิ่ง!
แต่ความงดงามของผู้หญิงคนนี้ทำอะไรไม่ได้หรอก เพราะเขามีคนที่ชอบอยู่แล้ว
“คะ...คุณก็รู้ว่าฉันเจ็บขา!”
เสียงเรียกดึงสติของเตวิชญ์กลับมา รีบปรับเปลี่ยนสีหน้าเมื่อรู้ตัวว่าเผลอมองหน้าหญิงสาวนานเกินไป
“แล้วไง...ทีเมื่อก่อนเธอยังส่งคนไปดักทำร้ายคนอื่นเลย”
“…” ทิชากรไม่ตอบ ทำได้เพียงกัดริมฝีปากเข้าหากันเพราะสิ่งที่เขาพูดมันคือเรื่องจริง
“ทีอย่างนี้ทำมาเป็นรักตัวกลัวตายทั้งๆที่เมื่อก่อน...เธอก็ไม่ได้ต่างอะไรจากพวกมันหรอก”
“ฉันรู้...” หน้าเฉี่ยวสลดลง รู้สึกผิดกับสิ่งที่เคยทำ “ตะ...แต่นั่นมันก็เป็นอดีตไปแล้ว ฉันไม่ได้มีเจตนา”
“ไม่ได้มีเจตนาแต่ส่งคนไปดักข่มขืนดางั้นหรอ! รู้ไหมว่าเธอกับฉันไม่ควรกลับมาเจอกันด้วยซ้ำ เพราะสิ่งที่เธอเคยทำ...ฉันจำไม่เคยลืม....เธอมันก็แค่ผู้หญิงน่ารังเกียจ!”
“ฉะ...ฉัน” ทิชากรเสียงสั่นสำลักข้อกล่าวหา แต่มันก็คือเรื่องจริง เธอเป็นคนทำ...เป็นคนทำทั้งหมด!
ชายหนุ่มรีบหยัดกายลุกขึ้นด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิด เขาไม่อยากเห็นหน้าผู้หญิงคนนี้แม้แต่วินาทีเดียว เพราะกลัวอดใจไม่ไหว จับมาบีบคอให้ตายคามือ
“หลังจากนี้หวังว่าฉันคงไม่เห็นผู้หญิงจิตใจสกปรกแบบเธออีกนะ เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่ฉันเจอเธอ...” ดวงตาวาวโรจน์จ้องไปที่หน้างาม ทิชากรกลัวจนตัวสั่นก่อนที่ดวงตาจะเหลือบไปเห็นบางสิ่งบางอย่างเหน็บอยู่ที่สีข้าง “ฉันฆ่าเธอแน่ทิชากร!”