ตอนที่ 3 ช่วยฉันด้วย
“มาคนเดียวหรอครับคุณเตวิชญ์”
กึก~
เสียงของบาเทนเดอร์หนุ่มที่เรียกใครบางคนส่งผลให้ทิชากรชะงักเท้า หน้าหวานค่อยๆหันกลับไปมอง ในความมืดสลัวของแสงไฟเธอได้หรี่ตามองใครบางคน ชายชุดดำสวมหมวกแก๊ปสีดำกำลังนั่งหันหลังให้ เป็นผู้ชายที่ตัวสูงเอามากๆ ไม่อ้วนไม่ผอมจนเกินไป โดยรวมดูไม่ต่างจากนายแบบเลย
หรือเขาเป็นดารา?
แต่สิ่งที่ทำให้ชะงักไม่ใช่รูปร่างอันแสนเพอร์เฟคของผู้ชายคนนั้น ถ้าหากชื่อของเขาไม่เหมือนกับ...ใครบางคนที่เธอเคยชอบ ตั้งแต่เรียนจบมาเธอก็ไม่เคยเจอผู้ชายคนนั้นอีกเลยเพราะเขาไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ ยังจำสีหน้าและแววตาแสนเกลียดชังได้ดีเพราะผู้ชายคนนั้นเกลียดเธอยิ่งกว่าอะไร ทั้งถ้อยคำด่าทอสารพัดสุดแสนจะหยาบคายที่เคยหลุดออกมาจากปากของเขา แถมยังประกาศชัดเจนว่าชาตินี้จะไม่มีวันญาติดีกับเธอ เหตุผลเพราะเธอทำร้ายผู้หญิงที่เขาชอบ ผู้หญิงคนนั้นเป็นต้นเหตุทำให้พี่ชายของเธอกับแม่ทะเลาะกันจนถึงขั้นตัดแม่ตัดลูก จากครอบครัวที่เคยมีความสุขกลับต้องมามีปัญหากันเพราะผู้หญิงคนนั้น
แต่ทุกอย่างมันก็เป็นอดีตไปแล้ว...เวลาเปลี่ยนจิตใจของคนก็เปลี่ยน เมื่อก่อนเธออาจจะทำอะไรโดยไม่ทันคิดเพราะตอนนั้นยังเป็นเด็กวัยรุ่นใจร้อน ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากเพื่อน เพราะสมัยนั้นมักเอาเพื่อนเป็นใหญ่ เลยทำอะไรโดยไม่คำนึงถึงผลที่จะตามมา
“คงไม่ใช่เขาหรอกมั้ง” หญิงสาวเลิกสนใจผู้ชายคนนั้นเพราะคิดว่าอาจจะแค่คนชื่อเหมือน
แล้วจะไปอยากเจอเขาทำไมก็ในเมื่อเขาเกลียดเธอยิ่งกว่าอะไร
ปึก!
เพล้งง!!
“อ้ะ!” ในระหว่างที่ทิชากรกำลังจะหมุนตัวเดินไปเข้าห้องน้ำจู่ๆก็ไปชนเข้ากับใครบางคนที่ลุกขึ้นมาพอดี ทำให้เหล้าหกเลอะเสื้อราคาแพงแสนแพงของเขา “ขะ..ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
ผู้ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นพร้อมแววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ ร่างอ้วนท้วมเดินเข้ามากระชากข้อแขนของเธอ
“รู้ไหมเสื้อตัวนี้ราคากี่แสน!”
“ดะ...เดี๋ยวฉันซื้อให้ใหม่ค่ะ”
“เสื้อตัวนี้อั๊วสั่งผลิตพิเศษมีแค่ตัวเดียวในโลก ลื้อจะชดใช้ยังไง!” แววตาดุร้ายของมันเริ่มไม่น่าไว้ใจ ทิชากรพยายามแกะมือหยาบออกแต่มันกลับกระชากร่างเข้าหาตัว
“ว้ายยย! ปะ..ปล่อยฉันนะ!!” ทิชากรทั้งทุบตีทั้งร้องให้คนบริเวณนั้นมาช่วย แต่ก็ไม่มีใครหน้าไหนกล้าเข้ามาแม้กระทั่งพนักงานเสิร์ฟ “ช่วยด้วยค่ะ! ช่วยฉันด้วย!!”
“ไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วยหรอกเพราะอั๊วคือหุ้นส่วนของที่นี่!” แววตาหื่นกระหายไล่มองทั่วร่างบางซึ่งอยู่ในชุดเดรสรัดรูปสีดำ ความจริงมันเห็นทิชากรนานแล้ว มันนั่งมองจนกระทั่งได้จังหวะเลยลุกยืนขึ้นตั้งใจให้ทิชากรชน
“ตะ...แต่ฉันจำได้ว่าเสื้อตัวนี้พี่ชายของฉันก็มี เพราะฉะนั้นกรุณาปล่อยฉันค่ะ ไม่งั้นฉันจะแจ้งตำรวจ!”
“ตำรวจจะทำอะไรอั๊วได้” มันใช้มือโอบเอวของทิชากรแล้วพยายามลากเธอไปยังห้องวีไอพี แต่ทิชากรไม่ยอม เธอก้มกัดต้นแขนของมันอย่างแรงแล้วอาศัยจังหวะที่มันเจ็บวิ่งหนีเอาชีวิตรอด “มึงกล้ากัดกูหรออีเวร!!”
ด้วยความที่ทิชากรใส่ส้นสูงทำให้วิ่งลำบากแต่เธอก็วิ่งหนีเอาเป็นเอาตาย เพราะดูท่าไอ้หมีควายนั่นน่าจะเป็นพวกมีอิทธิพล แต่ที่น่าเจ็บใจที่สุดนั่นก็คือทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ไม่มีใครกล้าช่วยเธอเลยแม้กระทั่งพนักงานในร้าน คอยดูนะ เธอจะแจ้งตำรวจมาจับพวกมันให้ดู!
ปึกก!!
“โอ้ยย!!”
ในขณะที่กำลังวิ่งหนีไอ้หมีควายอย่างเอาเป็นเอาตาย จู่ๆร่างก็วิ่งไปชนกับใครบางคนอย่างแรงจนหงายหลังก้นกระแทกพื้น ชายคนนั้นยืนนิ่งทันทีเมื่อเห็นหน้าผู้หญิงที่วิ่งมาชน ดวงตาคมเข้มฉายแวววาวโรจน์ดุดันจนดูน่ากลัว
แต่ยังไม่ทันที่ทิชากรจะเงยหน้าขึ้นมอง ไอ้หมีควายก็ตามมาทันพอดี ทำให้เธอรีบวิ่งไปหลบหลังของผู้ชายคนนั้น
“ชะ...ช่วยด้วยค่ะ! ผู้ชายคนนั้นเขาจะทำร้ายฉัน”
“…” ไร้เสียงตอบจากชายร่างสูง
“หลีกไปไอ้หน้าหล่อ อั๊วมีเรื่องจะเคลียร์กับอีนังนั่น!”
“มีปัญหาอะไรกันหรอครับ” เขาถามกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา ในขณะที่ทิชากรหลบอยู่ข้างหลัง ได้แต่ภาวนาว่าขอให้ผู้ชายคนนี้ช่วย แล้วเธอจะไม่ลืมบุญคุณเลย
“อีนังนั่นมันทำเสื้ออั๊วเลอะ รู้ไหมเสื้อตัวนี้ราคาเท่าไหร่!”
“ก็ฉันบอกจะโอนเงินชดใช้ค่าเสื้อให้แกแล้วไง!!” ทิชากรที่หลบอยู่ข้างหลังตะคอกกลับ
“แต่เสื้อตัวนี้มันมีตัวเดียวในโลก!”
“ตัวเดียวบ้าบออะไร เสื้อตัวนี้พี่ชายของฉันก็มี แกตั้งใจจะหาเรื่องฉันไอ้หมีควาย!”
“หนอย...อีปากกรรไกร! มึงด่าว่ากูเป็นหมีควายหรอ! หลีกไปสิวะ...กูจะไปจัดการมัน!!”
“คุณอย่าหลีกนะ..ชะ...ช่วยฉันก่อน~”
“…” เขาหันหน้ากลับมามองแค่ครึ่งเสี้ยวหน้า มุมปากร้ายแสยะยิ้มเมื่อเห็นหญิงสาวกลัวจนตัวสั่น “ได้...ผมจะช่วยคุณเอง”
พลัก!
“ว้ายย!! คะ..คุณทำอะไร!” คนถูกผลักออกมารีบหันกลับไปมอง แต่เมื่อเห็นใบหน้าของชายร่างสูงชัดๆ ดวงตาเฉี่ยวถึงกับเบิกโพลงด้วยความตกใจสุดขีด
ผู้ชายคนนี้เขาเพิ่งเดินสวนกับเธอตอนออกมาบาร์ ไม่คิดว่าโลกจะกลมขนาดนี้ เป็นเขาจริงๆด้วย!
“ตะ...เตวิชญ์!!”
ไม่จริง...มันเป็นไปไม่ได้! ทำไมต้องเป็นเขา ทำไมต้องเป็นผู้ชายที่เกลียดเธอเข้าไส้
“จะเอาผู้หญิงคนนี้ไปต้มยำทำแกงอะไรก็เชิญเลยครับ อ้อ! แต่ถ้าจะให้ดี…” ดวงตาแสนดุดันหยุดอยู่ที่หน้างาม “ยิงทิ้งเลยก็ได้ครับ”
พูดจบเขาก็เดินจากไปด้วยท่าทีเย็นชา ไม่คิดแม้แต่จะช่วยเลยด้วยซ้ำ
“ดะ...เดี๋ยวก่อนสิ! มาช่วยฉันก่อน...อย่าทิ้งฉันไว้แบบนี้!!”