05 นอนบ้านเพื่อน
#บนรถ
"ทำไมเธอถึงคิดจะไปกับไอ้หมอนั่น!?"
"ก็คุณหายไปไหนก็ไม่รู้ฉันจะกลับบ้าน เขาก็เลยอาสาไปส่ง"
"...."
"แล้วคุณหายไปไหนมาคะ ฉันรอคุณตั้งนาน"
"ไปคุยเรื่องงานมาธุระส่วนตัวน่ะ"
"...." รชานั่งเงียบ มันก็เป็นแบบนี้ตลอดอยู่แล้ว ทุกครั้งที่เธอถามหรืออยากรู้อะไรจากเขาก็มักจะได้รับคำตอบที่ไม่ค่อยน่าพึงพอใจเท่าไร จริงอยู่ที่มันเป็นเรื่องส่วนตัว แต่บางครั้งก็ไม่เห็นต้องปิดบังกันเลย
"คราวหน้าให้มาตามฉัน ถ้าไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนก็เดินตามหา อย่าไปไหนกับใครให้คนอื่นมองไม่ดี ฉันไม่อยากถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ชายหน้าโง่!"
"พูดเกินไปหรือเปล่าคะ?" เธอหันหน้าไปพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงที่ขุ่นเคือง เธอไม่พอใจที่เขาใช้คำพูดแบบนี้กับเธอ "คุณหายไปไหนฉันยังไม่รู้เลย ครั้งล่าสุดที่ฉันเห็นคือคุณยืนคุยอยู่กับเพื่อนผู้หญิงคนนึง ฉันพยายามโทรหาคุณแล้วแต่ก็โทรไม่ติด พอฉันรอไม่ไหวเพื่อนก็เลยจะอาสาไปส่ง แต่ดันมาเจอคุณซะก่อน นี่เหรอคะสิ่งที่ฉันได้รับ ฉันเป็นคนผิดเหรอ?"
"...." จอมทัพลงน้ำหนักเท้าที่คันเร่งทำให้รถแล่นออกไปเร็วมากขึ้น ทำเอารชาถึงกับเหลียวมองหน้าเขาพลางมองไปที่ถนนด้านหน้าด้วยความกลัว
"คะ คุณจอม!"
"เธออยากให้คนอื่นมองฉันว่าเป็นผู้ชายหน้าโง่เหรอ เมียไปไหนต่อไหนกับผู้ชายแต่ผัวไม่รู้เรื่องอะไรเลย นี่เหรอสิ่งที่เธออยากให้ฉันได้ยิน!?"
"ทำไมคุณต้องพูดจาแบบนี้กับฉันด้วย อยู่กันมาตั้งเท่าไรคุณไม่เคยมีความเชื่อใจฉันเลยแม้แต่น้อย!" รชาหันไปตะคอกใส่คนข้างๆ ด้วยอารมณ์ที่น้อยใจมากและโกรธที่เขาใช้คำพูดดูถูกเธอ ไม่เคยเชื่อใจเธอเลยสักนิด
"...." จอมทัพถอนหายใจออกมายาวๆ ก่อนที่เขาจะเหยียบคันเร่งให้รถแล่นไปเร็วมากกว่าเดิม ไม่นานก็มาถึงยังบ้านของเขา
รชาเปิดประตูลงจากรถด้วยสภาพที่โซซัดโซเซเพราะเวียนหัว ทว่าจอมทัพกลับถอยรถออกไปด้านนอกและเขาก็ขับรถออกไปเลยปล่อยให้เธอยืนงงและก็ไม่รู้ว่าเขาจะไปไหน
แต่แบบนี้เธอเองก็ไม่ต้องคิดมากอะไรเลย เพราะเขาก็คงจะไปนอนค้างที่บ้านเพื่อนหรือไม่ก็ออกไปดื่มกับเพื่อนต่อ เพราะเขาทำแบบนี้เป็นประจำอยู่แล้ว
หญิงสาวหันหลังเดินกลับเข้าไปในบ้าน ก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำและไปนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง
NumNum ได้แท็กคุณและเพื่อนอีก15คนในโพสต์
มันเป็นการโพสต์รูปธรรมดานั่นแหละ เพราะนานๆ จะได้มารวมตัวกันแบบนี้ แต่ภายในภาพมันมีสิ่งที่ทำให้รชาต้องจดจ่อไปอยู่กับภาพนั้น คือจอมทัพกำลังยืนคุยอยู่กับเพื่อนผู้หญิงคนนึงด้วยท่าทางสนิทสนม รูปที่สองเริ่มมีการแตะเนื้อต้องตัวกัน และรูปที่สามทั้งสองพากันเดินออกไปตรงมุมมืด มันเป็นช่วงจังหวะที่กล้องของเพื่อนสนิทเธอจับภาพได้ ว่าสองคนนั้นหายไปด้วยกัน
รชากำโทรศัพท์เอาไว้ในมือแน่น พยายามให้กำลังใจตัวเองว่ามันคงไม่มีอะไรหรอก ทั้งสองอาจจะเป็นแค่เพื่อนสนิทกันและนานได้เจอกันก็เลยพูดคุยกันตามประสาเพื่อนทั่วๆ ไปแค่นั้น
#เช้าวันต่อมา
รชา Talk
ฉันตื่นมาแต่งตัวเตรียมที่จะไปทำงานตามปกติ แต่ก็ยังไม่เห็นคุณจอมกลับมาเพราะไม่เห็นรถของเขา แสดงว่าเขายังไม่กลับตั้งแต่เมื่อคืน ฉันพยายามติดต่อหาเขาแต่ก็โทรไม่ติดเลย มือถือของเขาโทรไม่ติดตั้งแต่เมื่อคืนตอนที่ฉันจะกลับบ้าน
ตู๊ดๆๆๆ ( ไม่มีสัญญาณตอบรับ )
ฉันขมวดคิ้วเข้าหากันจ้องมองหน้าจอมือถือที่กำลังโทรออกไปหาคุณจอม ฉันแค่อยากรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนเพราะถ้าฉันเก็บอาหารเช้าไว้ให้แล้วเขาไม่มากินก็กลัวว่ามันจะเสีย เพราะกว่าฉันจะกลับก็ตอนเย็นเลยถ้าไม่ได้ทำโอที
ตู๊ดๆๆๆๆ
เมื่อมั่นใจว่าไม่สามารถติดต่อคุณจอมได้ฉันเลยไม่โทรหาเขาอีกแล้วรีบขับรถไปทำงานที่บริษัท
#เวลาผ่านไป
“หวัดดีรชา”
“หวัดดีจ้ะ มาเช้าจัง” ฉันทักทายเพื่อนสนิทที่ทำงานกลับ
ปกติฉันจะมาทำงานก่อนแต่วันนี้มาสายเพราะมัวแต่พยายามโทรคุณจอม เขาคงยังไม่มีงานที่ไหนหรอก เพราะเพิ่งออกจากงานเก่าและก็ไม่รู้ว่าจะได้งานใหม่ตอนไหน
“ฉันน่ะมาปกติ เธอนั่นแหละทำไมมาสายได้”
“อืม ตื่นสายน่ะ เมื่อคืนไปงานเลี้ยงมาเลยกลับดึกนิดหน่อย” ฉันพูดส่งๆ ไป เพราะเหนื่อยจะพูดเรื่องน่าปวดหัว ไม่อยากเก็บเอามาคิดด้วย
“ถามจริง…คนอย่างรชาเนี่ยนะไปงานเลี้ยง ตั้งแต่รู้จักกันมาฉันยังไม่เคยเห็นเธอเที่ยวกลางคืนเลยนะ”
“ทำงานกลับไปก็เหนื่อยละเลยไม่อยากไป แต่วันนั้นหยุดพอดี อีกอย่างเพื่อนๆ ก็กลับมาจากต่างประเทศเยอะด้วย” จะไม่ไปก็ไม่ได้เนาะ เพราะเพื่อนที่เป็นเจ้าของงานอุตส่าห์มาชวนเองเลย
รู้สึกว่าจะพิเศษเลยมั้ง เพราะคนอื่นๆ ชวนกันในไลน์กลุ่ม แต่ฉันไม่ได้อยู่ในนั้นด้วย
“ว่าแต่หน้าหงอยอีกแล้วนะ”
“ดูออกขนาดนั้นเลยเหรอ?” ฉันพูดพลางวางมือบนแก้มเบาๆ มันดูออกขนาดนั้นเลยจริงดิ
“แหมรชา เรื่องแค่นี้เองทำไมจะไม่รู้ สีหน้าของคนมีความสุขกับสีหน้าคนกำลังอมทุกข์ทำไมจะดูไม่ออกล่ะ”
“สงสัยจะแฮงค์น่ะ เมื่อคืนดื่มเยอะเหมือนกัน แถมนอนดึกด้วย”
“เอาน้ำหวานมะเดี๋ยวสั่งมาให้”
“ไม่ชอบน้ำหวานอะ” ฉันปฏิเสธเพราะไม่ค่อยกินน้ำหวานเท่าไร นอกจากกาแฟชีวิตนี้ฉันก็ไม่รู้จักอะไรแบบนั้นอีกเลย
“งั้นเอาน้ำผึ้งมะนาว เปรี้ยวๆ หวานๆ จะได้หายแฮงค์”
“อื้ม ขอบใจมากนะ ฉันจะรีบทำงานก่อนล่ะ”
“อะเค เดี๋ยวจะเอามาให้นะ”
“จ้า”
จากนั้นฉันก็รีบเคลียร์งานที่กองมโหฬารอยู่ตรงหน้าของตัวเอง และจะได้เอาไปส่งให้กับผู้จัดการอีกที
ที่ฉันเคยบอกว่าไม่มีงานที่ไหนไม่มีปัญหาหรอกมันจริงนะ เพราะฉันอยู่ที่นี่มาก็เจอปัญหาสารพัดเหมือนกัน มันขึ้นอยู่กับว่าเราจะรับมือกับมันยังไง
ปัญหากับเพื่อนร่วมงาน ปัญหากับงานที่ทำ ปัญหาสารพัดอย่างที่จะต้องเจอ
ฉันเข้าใจดีว่าความรู้สึกตอนที่เจอปัญหามันเป็นยังไง เพียงแต่ฉันไม่ได้ใจร้อนเหมือนเขา
#ผ่านไปสักพัก
กึกๆๆๆ ( เสียงเคาะโต๊ะ )
“น้ำผึ้งมะนาวแก้แฮงค์มาแล้วจ้ะ”
“ขอบใจมากนะ”
“ไม่เอากาแฟจริงดิ”
“อืม ปวดหัวน่ะ ขอบใจมากนะ”
“จ้า กินให้อร่อย ฉันไปทำงานก่อนล่ะ”
“อื้ม…”