บทย่อ
พรหมาณฑ์รชา คือชื่อของฉัน แต่คนส่วนใหญ่จะเรียกแค่คำสุดท้ายคือ รชา ฉันอายุ 28ย่าง29 แล้วล่ะ แน่นอนฉันเรียนจบมีงานทำเรียบร้อยแล้ว ฉันมีแฟนอยู่หนึ่งคน [ ย้ำว่าแฟน เพราะเรายังไม่ได้แต่งงานกัน แต่อยู่กินแบบผัวเมีย ] วันวานแต่ก่อนมันก็ดีอยู่แล้ว แต่พอนานเข้ามันเริ่มมีกลิ่นตุออกมา เพราะเขาชอบกลับบ้านดึก ชอบหาข้ออ้างไปนอนบ้านเพื่อน สารพัดงานที่เขาจะพูดเพื่อให้ฉันอนุญาต ที่ผ่านมาฉันก็ยอมตลอดแหละ เพราะแม่ของฉันเคยบอกเอาไว้ว่า ชีวิตคู่จะยืนยาวก็ต่อเมื่ออีกคนเป็นไฟ อีกคนเป็นน้ำ แต่พอเอาเข้าจริงๆ มันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย ฉันพยายามรักษาทุกอย่างทุกทางเพื่อให้ชีวิตคู่มันยืนยาว แต่เขากลับไม่ร่วมมือกับฉันเลย
01 เจ้าชีวิต
@บ้านรชา
“รชา รชา” เสียงของชายหนุ่มดังมาจากทางบันได ก่อนที่เจ้าของเสียงจะเดินลงมาด้วยท่าทางที่เร่งรีบ พร้อมกับเสื้อสีขาวในมือ
“ฉันอยู่นี่ คุณมีอะไร?” รชาขานรับสามีที่ตะโกนเรียกเธอเสียงดังอ้าว
“เธอซักเสื้อยังไงให้มีรอยด่าง เธอไม่เห็นเหรอว่ามันเป็นผ้าขาว?” สามีของเธอชูเสื้อสีขาวในมือให้เธอดู ตรงชายเสื้อมันมีรอยด่างสีดำจุดเล็กๆ อยู่จุดนึง
“คุณก็เอาตัวอื่นใส่ไปก่อนสิ”
“เสื้อตัวนี้ราคาเท่าไหร่ เธอรู้หรือเปล่า?”
“….” หญิงสาวถอนหายใจออกมาอย่างแรงเมื่อได้ยินแบบนั้น ราคาแพงแล้วไง มีราคาแล้วไง เธอเองก็ต้องทำงานนอกบ้านเหมือนกัน มีเวลาซักผ้าทำความสะอาดบ้านทำกับข้าวให้เขากินก็ดีเท่าไหร่แล้ว “เดี๋ยวฉันจะจ้างแม่บ้าน”
“มันเปลืองเงิน!”
“แล้วคุณจะให้ฉันดูแลทุกสิ่งทุกสิ่งอย่างในบ้านคนเดียวได้ยังไง ฉันก็ต้องทำงานเหมือนกันนะ”
“เธอเป็นภรรยา หน้าที่แม่บ้านก็หน้าที่ของเธอไง” คำพูดของเขาเหมือนพยายามทำให้เธอคิดว่าหน้าที่นี้คือหน้าที่ของเธอ แต่สำหรับเธอหน้าที่นี้คือหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบร่วมกัน เหมือนกับงานที่ทำเหมือนกัน
ต่างคนต่างรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเอง อย่างน้อยมีอะไรก็ควรจะช่วยเหลือกันบ้าง ไม่ใช่ปล่อยทิ้งทุกอย่างให้เป็นหน้าที่ของเธอคนเดียว
“งั้นคุณทำงานคนเดียวมั้ยล่ะ คุณคิดว่าคุณทำงานคนเดียวมันพอใช้เหรอ?”
“อย่ามากดฉันนะ! เธอมีเงินเดือนมากกว่าแล้วคิดจะข่มใครก็ได้อย่างนั้นเหรอ!?”
“ฉันเปล่าข่มคุณ แต่ฉันอยากให้คุณคิดบ้าง กลับบ้านมาฉันก็ต้องทำงานบ้านต่อ ส่วนคุณก็เที่ยวเตร็ดเตร่ไปเรื่อย บ้านเพื่อน เดี๋ยวไปข้างนอก เดี๋ยวมีนัด คุณช่วยอะไรฉันบ้าง?”
“….” เขาไม่เถียง แน่นอนว่าไม่ได้ช่วยอะไรเลย “เธอไม่ใช่เจ้าชีวิตฉัน ฉันจะไปทำอะไรมันเรื่องของฉัน ฉันมีเพื่อนฝูงเธอจะให้ฉันเอาแต่สนใจเธอได้ยังไง?”
“….” รชาเงียบไม่ตอบอะไร มันก็จริงอยู่ที่เขามีเพื่อนฝูงและต้องได้เที่ยวบ้าง แต่เธอแค่อยากให้มาสนใจและช่วยเหลือกันเหมือนตอนแรกๆ ที่คบกัน
“เอาล่ะฉันต้องรีบไปทำงาน ไม่มีเวลามาเถียงกับเธอหรอก ไม่ต้องจัดอาหารเผื่อฉันนะ ฉันจะไปกินที่บริษัท”
“….”
สามีของเธอเดินกลับขึ้นไปด้านบนทันที เรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องปกติในบ้านของเธอไปแล้ว มีปากเสียงกันบ้างดีกันบ้างจนเธอคิดว่ามันอาจจะเป็นบททดสอบของชีวิตคู่ที่เธอต้องเผชิญ
#เวลาต่อมา
“รชา!”
“อือ..”
“หน้าแบบนี้ เสียงแบบนี้ ทะเลาะกับหลัวมาอีกล่ะสิ?”
“ไม่เชิง แค่มีปากเสียงกันนิดหน่อย”
“แล้วมันต่างกันยังไง?”
“ก็แค่เกือบ ยังไม่ทันได้ทะเลาะ” เธอบอกกับเพื่อนสนิท
“เฮ้อ…หลัวแกนี่ก็เกินไปนะ ติดเพื่อน ติดเที่ยว”
“ช่างเขาเถอะ มันอาจจะเป็นบททดสอบชีวิต”
“ขอให้แกผ่านมันไปได้ด้วยดีนะ”
“ขอบใจมากนะ ว่าแต่แกเถอะเมื่อไหร่จะมีล่ะ”
“พูดแบบนี้เจ็บจี๊ดเลย เธอเป็นเพื่อนฉันนะ เพราะฉะนั้นอย่าพูดแบบนี้กับเพื่อน”
“จ้าๆ ไม่พูดแล้ว”
“ฉันไปทำงานก่อนนะ เดี๋ยวถูกบ่น”
“อื้ม…”
รชาตั้งใจทำงานของเธอเป็นอย่างดี เงินเดือนของเธอมากกว่าสามีก็จริง แต่ก็ไม่เท่าไรเพราะเธอนั้นได้โบนัสจากการทำงานได้เบี้ยเลี้ยงได้ค่าอย่างอื่น แต่ก็แลกมาด้วยการทำงานอย่างหนักหน่วงเหมือนกัน
#เวลาผ่านไป
หลังเลิกงานเธอขับรถกลับบ้านมาตามปกติเหมือนอย่างเคย และหน้าที่ของเธอหลังจากนั้นก็คือหน้าที่แม่บ้าน เก็บกวาดทำความสะอาดและทำอาหารเย็น พร้อมกับซักเสื้อผ้าของตัวเองและของสามี ซึ่งในเวลานี้สามีของเธอยังไม่กลับมาเลย
ครืด ครืด ครืด
สายเรียกเข้า >>> หนึ่ง
"ฮัลโหลว่าไงหนึ่ง" เธอกดรับสาย เมื่อเห็นว่าปลายสายที่โทรมาเป็นเบอร์ของเพื่อนสนิทที่ทำงาน
( อยู่ที่ไหนเนี่ย )
"อยู่บ้านมีอะไรหรือเปล่า"
( ฉันเห็นหลัวของแกเเวะเข้าร้านเหล้าไปเมื่อกี้ )
"คงไปดื่มกับเพื่อนเขาอีกละมั้ง" เธอบอก
( อย่าบอกนะว่าหลัวของแกยังไม่กลับบ้านเลย )
"ยังเลย พรุ่งนี้เป็นวันหยุดเขาจะกลับหรือเปล่าก็ไม่รู้ ฉันชินแล้วล่ะปล่อยเขาเถอะ"
รชาพูดอย่างไม่ใส่ใจเธอจะตามหรือคิดมากไปให้มันได้อะไรขึ้นมา เพราะต่างคนต่างก็โตกันแล้ว จะคิดได้เหรอคิดไม่ได้มันก็ขึ้นอยู่กับตัวของคนคนนั้นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับอีกคนเลย
อีกอย่างเธอก็ไม่ใช่ภรรยาที่จะตามโวยวายใส่สามีทุกครั้งที่เขาออกไปไหน ทำงานของเธอมีเรื่องที่ต้องทำ เธอไม่อยากเอาเวลาที่มีค่าไปแลกกับการตามแบบนั้น เพราะถ้าเขาอยากกลับเมื่อไหร่เขาก็คงจะกลับมาเอง
( แล้วพรุ่งนี้จะไปทำงานหรือเปล่า หรือว่าหยุดด้วยอีกคนนึง )
"น่าจะไม่ได้ทำนะ เพราะฉันต้องทำงานบ้านอีก เสื้อผ้าก็ยังซักไม่หมดเลย" เธอบอก
( แกน่ะหยุดพักบ้างก็ได้ ไม่ใช่ว่าวันหยุดแล้วจะทำงานอย่างเดียว ร่างกายคนนะเว้ยไม่ใช่เครื่องจักรทำงานอย่างเดียวก็ตายน่ะสิ )
"ทำไงได้วะ ค่าใช้จ่ายในบ้านก็หนักขึ้นเรื่อยๆ นี่หว่า ไหนจะค่าบ้านค่าผ่อนรถค่าน้ำค่าไฟค่ากับข้าวที่กินอยู่ทุกวันอีก"
( ถ้าฉันเป็นแกนะ ฉันจะเอาไม้หน้าสามตีหัวผัวของแกแม่งเลย )
"แต่ฉันว่าถ้าแกได้มายืนอยู่จุดเดียวกับฉัน ได้มีความรู้สึกเหมือนกับฉัน แกก็จะไม่ทำเหมือนกัน"
( ทำไม? )
"ครอบครัวถ้ามันมีความรุนแรงเกิดขึ้น มันก็จะเกิดขึ้นอยู่แบบนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า แกคิดว่ามันดีเหรอ?"
( ..... )
"สำหรับฉันนะ ทะเลาะกันได้ถกเถียงกันได้มีปากเสียงกันได้ เพราะมันก็เป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวเหมือนลิ้นกับฟันก็ต้องมีกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่ตราบใดที่คำว่าครอบครัวมีการใช้กำลังต่อกันฉันจะไม่ยอมทน"
( ต้องรอให้ถึงแบบนั้นเลยเหรอ )
"ฉันคบกับคุณจอมมานานนะ ตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัยด้วยกันจนถึงตอนนี้ก็ตั้งหลายปีแล้ว"
( ก็จริงนะ คบกันมานานจะให้ตัดขาดกันเลยโดยที่ไม่รู้สึกอะไรคงจะเป็นไปไม่ได้ )
"อย่างน้อยเราก็มีเรื่องดีๆ ที่เคยทำด้วยกัน อย่าเอาแค่เรื่องไม่ดีไม่กี่เรื่องเองมาตัดสินชีวิตทั้งชีวิตคน"
( อือๆ ฉันแค่โทรมาบอกแกแค่นี้แหละ หยุดแล้วก็พักผ่อนให้เต็มที่นะแล้วเจอกัน )
"ขอบใจมากนะที่โทรมาบอก"
( จ้า )