ตอนที่ 4
อวี้เหลียน
วันแต่งงาน
วันนี้คือวันแต่งงานของข้าออกเรือนเด็กหนุ่มอย่างฟางเทียนเจ๋อ ผู้อายุน้อยกว่าข้าหลาย 100 ปี วันนี้ค่าทำพิธีอยู่เกือบทั้งวันจนสุดท้ายพิธีเสร็จก็มืดค่ำไปเสียแล้วอาหารยังไม่ตกถึงท้องข้าวเลยแม้แต่นิดเดียวหลานชายของข้าก็มานั่งข้างกายข้าคอยดูแลข้าอยู่เสมอทั้งในก่อนในวันที่ก่อนแต่งงาน และในวันที่แต่งงานในตอนนี้ก็ด้วย
"ท่านพี่ท่านอยากจะเปลี่ยนใจหรือไม่"
"เจ้าไม่ได้ดีใจหรือที่ข้าจะออกเรือน"
"ข้าเองก็คิดถึงท่านไม่อยากให้ท่านออกเรือหรอกนะ แต่ท่านเลยไว้ออกเดือนมาหลายปีแล้ว"
"หลังแต่งงานเจ้ากับข้าก็ต้องย้ายมาอยู่ที่นี่อยู่แล้วเจ้าไม่ต้องกลัวว่าข้าจะทิ้งเจ้าไปที่ใดข้าไม่ปล่อยให้เจ้าโดดเดี่ยวลำพังหรอกนะ"
"ท่านแม่คงดีใจที่ท่านแต่งงานออกเรือนแล้วในตอนนี้"
ใช่น้องสาวของข้าคงดีใจที่ข้าได้แต่งงานมีตอนนั้นเมื่อหลายปีก่อนข้าวและน้องสาวเดินทางไปท่องเที่ยวทั่วหล้า กันเพียงลำพังกันสองคนถ้าในตอนนั้นยังคงเป็นบุรุษและดูแลน้องสาวของข้าเป็นอย่างดีน้องสาวของข้าเป็นเด็กน้อยวัย 2 ขวบปี และค่าเน็ตตอนนั้นก็อยู่มาร้อยกว่าปีแล้ว น้องสาวข้านั้นเป็นบุตรของท่านพ่อที่แต่งงานกับมารดาของน้องสาวคาดซึ่งเป็นภรรยาใหม่ส่วนตัวข้าเป็นลูกติด ของอดีตภรรยาคนแรกของท่านพ่อตัวของท่านพ่อข้านี้ก็มีอายุมากกว่าข้าหลายร้อยปีมากนักและก็มีลูกเพียงแค่สองคนเท่านั้น สมัยก่อนครอบครัวของข้ายึดถือธรรมเนียมปฏิบัติหนึ่งภรรยาหนึ่งสามี แต่หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียไปแล้วก็สามารถแต่งงานได้ แต่ว่าในตอนที่ท่านพ่อแต่งงานกับภรรยาใหม่ท่านแม่ของข้าก็ยังไม่ได้สิ้นใจไปหลังจากที่ท่านแม่ของข้ารับรู้ถึงปัญหานี้นางจึงจำใจจากไปโดยไม่ลา ป่านนี้นางคงขึ้นสวรรค์ไปแล้ว
"หลินอู่ เจ้าต้องดูแลน้องสาวของเจ้าให้ดีๆ พ่อฝากด้วย พ่อเองก็อาจจะคงอยู่ไม่ถึงวันนั้นวันที่นางเติบโต เจ้าต้องรักและดูแลนางเช่นเป็นคนในครอบครัวพ่อขอฝากเจ้าไว้"
และนั่นคือคำพูดสุดท้ายของท่านพ่อ ท่านพ่อของข้าเป็นปรมาจารย์อยู่ขั้นสูงสุดเกือบจะได้เป็นจอมปราชญ์แต่ว่าก็มีเรื่องที่ต้องทำให้ท่านพ่อของข้าสิ้นอายุขัยไปโดยไม่ทันได้สั่งลาผู้ใดเลย
ตัวข้าเองฝึกตน จากบุรุษกลายเป็นสตรี ดูแลน้องสาวข้าจนถึงวันที่นางอายุ 16 ปี ตัวของนางก็ได้แต่งงานออกเรือนกับคุณชายผู้หนึ่งและนางก็ตั้งครรภ์หลานชายของข้า จนหลานชายของข้าได้ 3 เดือนน้องสาวของข้าก็ถูกสังหารและข้าก็ตามไปช่วยเหลือไม่คาดคิดเลยว่าสิ่งสุดท้ายที่ข้าเหลืออยู่ก็คือหลานชายผู้นี้
"ท่านพี่...ท่านต้องช่วยเหลือลูกชายของข้าให้ได้นะข้ารักท่านพี่....มากข้าขอบคุณท่านพี่ที่ดูแลข้ามาโดยตลอดจนกระทั่งตอนนี้...อึก!!!"
"วาสนาข้ามีน้อยยิ่งนัก... ข้าขอนำท่านพี่ไปพักผ่อนก่อน...ลาก่อน..."
เป็นครั้งที่สองที่ข้าต้องหลั่งน้ำตาข้ามองน้องสาวของข้าสิ้นใจไปคนที่สังหารน้องสาวของข้า ฆ่าสังหารพวกมันจนหมดสิ้นแม้ว่าตัวข้าเอง ก็บาดเจ็บสาหัสเนื่องจากคนหนึ่งคนต้องสู้กับอีก 200 คนที่เป็นจอมยุทธ์ แม้ว่าตัวข้าจะชนะแต่อย่างไรก็บาดเจ็บสาหัสแม้จะไม่แสดงออกให้ผู้ใดเห็นแต่ข้า ก็ยังดันทุรังเพื่อที่จะไปช่วยชีวิตหลานข้าทั้งชีวิตนี้เพื่อหลานของข้าแล้วข้ายอมทำได้ทุกอย่าง
"ท่านพี่ขอรับ"
"ท่านพี่!"
"มีอะไรหรือ"
"ข้าคนถามท่านมากกว่านะขอรับทำอะไรท่านถึงมือขนาดนี้ตอนนี้ได้เวลาที่เจ้าบ่าวจะมาเข้าหอแล้วข้าขอส่งท่านพี่เพียงเท่านี้ข้าขอตัวก่อน"
"เจ้าเองก็ไปพักเถิด"
เจ้าบ่าวเข้ามาภายในห้องหอแล้วและนั่งลงที่ข้างเตียง ตอนนี้ เข้ากลับมาคิดดูแล้วในตอนนั้นน้องสาวของข้าบอกให้ข้าแต่งงานออกเรือนกับสตรีเป็นคำพูดคำเดียวกันกับท่านแม่ที่เคยบอกก่อนหน้านั้นแต่ตอนนี้ข้ากลายเป็นสตรีเช่นนี้แล้วจำต้องแต่งให้กับบุรุษอยู่แล้วน้องสาวของข้าคงดีใจมากที่ข้าได้แต่งงานเสียที
"อวี้เหลียนเจ้างดงามยิ่งนัก"
"ถอยห่างๆ"
"คืนนี้เป็นคืนเข้าหอ ข้าดีใจยิ่งนักที่เจ้าแต่งงานกับข้า"
"ข้ายังไม่แน่ใจว่าจะสามารถรับเจ้าได้หรือไม่ ในวันนี้แม้เราจะเป็นการเข้าหอตามประสาสามีภรรยา แต่ข้าในตอนนี้ไม่อาจหลับนอนกับเจ้าได้"
"ข้าไม่บังคับขืนใจเจ้าหรอกนะ คืนนี้อาบน้ำแล้วเข้านอนกัน เจ้าคงเหนื่อยมาทั้งวัน"
ข้าหันไปมองอีกฝ่ายที่ส่งรอยยิ้มอันอบอุ่นมอบให้แก่ข้ารอยยิ้มที่ไร้เดียงสาของเด็กผู้นี้ทำให้ข้าต้องยกยิ้มออกมา
หลังจากที่ข้าอาบน้ำชำระร่างกายจนเสร็จก็มานอนสบายใจจนถึงตอนเช้าของวันใหม่ของการเป็นสะใภ้ในตระกูลฟาง ข้าเรียนรู้การทำตัววางตัวกับคนสูงศักดิ์แต่ข้าคิดผิดนอกจากท่านพ่อ( ที่อายุน้อยกว่าข้าหลายปี ) ที่ตื่นเช้ามาฝึกกระบวนท่าร่ายรำเพลงกระบี่แต่เพียงผู้เดียวไม่เห็นแม้แต่เงาของคนอื่นๆในจวน สร้างความแปลกประหลาดในใจข้ายิ่งนัก ข้าได้ยินมาว่าสตรีควรตื่นนอนก่อนบุรุษผู้เป็นสามีต้องตื่นมาคอยดูแลทุกอย่างในบ้านของตนดูแลเหล่าคนใช้ทั้งหมด ข้าไม่คิดว่าผู้ที่เป็นถึงฮูหยินของแม่ทัพ จะนอนตื่นสายเช่นนี้แปลกประหลาดจริงๆ
"ลูกสะใภ้"
"คารวะท่านพ่อเจ้าค่ะ"
"เหตุใดเจ้าถึงตื่นเร็วเช่นนี้ เจ้าฝึกยุทธเป็นหรือไม่ มาประลองดาบกันดีหรือไม่"
"ขออภัยที่เสียมารยาท ข้าไม่ได้ฝึกวรยุทธเจ้าค่ะ"
"แล้วเหตุใดจึงตื่นเช้านักเล่าเมื่อคืนเพิ่งเข้าหอไปคงจะเหนื่อยล้าไม่ใช่น้อยเจ้ากลับไปนอนพักผ่อนต่อเถอะ"
"ข้าไม่ได้เหนื่อยอะไรขนาดนั้นเจ้าค่ะ"
"ที่นี่สตรีจะนอนนานเท่าใดก็ได้คนในตระกูลฟางไม่เคร่งครัดขนาดนั้นหรอกไม่ต้องมาพิธีรีตองอะไรขนาดนั้น"
ข้าเพียงส่งยิ้มให้กับท่านพ่อเพียงเท่านั้นข้ารู้สึกแปลกประหลาดและรู้สึกปวดเศียรเวียนเกล้ากับคนตระกูลนี้จริงๆข้าเดินดูครัวว่าคนรับใช้เขาทำงานกันอย่างไร
"คาราวะฮูหยินน้อยห้าเจ้าค่ะ"
"เจ้าคือผู้ใด"
"เรียนฮูหยินน้อยห้าบ่าวเป็นสาวใช้ประจำตัวของฮูหยินน้อยห้าเจ้าค่ะ"
"เช่นนั้นน่ะหรือผู้ใดส่งเจ้ามากัน"
"ฮูหยินฟางเจ้าค่ะ"
ข้าพยักหน้าตอบรับ แล้วก็ไม่ได้สนใจอะไรอีกก่อนจะเดินไปยังโรงครัว แล้วก็เดินกลับมายัง เรือนของฟางเทียนเจ๋อ
"เทียนเจ๋อ"
"อือ..."
"เทียนเจ๋อ"
"อือออ!..."
"ฟางเทียนเจ๋อเจ้าจะลืมตาตื่นเมื่อใด!"
"ข้าตื่นแล้ว เจ้าจะได้โกรธข้าไปเลยข้าตื่นแล้วจริงๆ"
"ตื่นแล้วก็ดีแต่งกายให้เรียบร้อยทำธุระส่วนตัวของเจ้าภายใน 2 เค่อ แล้วไปพบข้าที่ลานฝึกประจำจวนของเจ้า"
"เหตุใดข้าต้องไปด้วย"
"ข้ากำลังสั่งเจ้าอยู่"
"จะว่าอย่างไรข้าก็ว่าตามนั้นรอข้าสักพักเดี๋ยวข้าจะไป"
"2เค่อ"
"ได้ๆ"
.........
.........
........