ตอนที่ 3
ข้าส่งสายตาเครียดแค้นชิงชังก็ยังบุรุษตรงหน้าแต่อีกฝ่ายกลับทำสีหน้ายิ้มระรื่นใส่ตัวข้าแทนเหมือนไม่สะทกสะท้านมีคำด่าภายใต้สายตาของข้าเลยแม้แต่น้อย
และเป็นเช่นนี้อยู่เกือบ 3 เดือนที่อีกฝ่ายมาตามตื๊อข้า คอยหาสิ่งมาเอาอกเอาใจเอาเสื้อผ้าของข้าที่ข้าตัดเย็บแล้วก็ช่วยขนไปขายให้ที่ร้านขายเสื้อผ้า ทำอย่างนี้ถึง 3 เดือนก่อนที่ข้าจะมองตัวของคนพูดนี้เปลี่ยนไป
"แม่นาง ข้าตามตื๊อเจ้ามาสามเดือนแล้วยังไม่ได้ใจอ่อนอีกหรือ"
"ตัวข้าไม่ได้ขอร้องให้เจ้าช่วยเหลือข้าเสียหน่อยเป็นเจ้าเองที่มาคอยเป็นคนรับใช้ข้าเช่นนี้"
"เวลา 3 เดือนแล้วยังไม่ได้พิสูจน์ตนเองให้กับท่านได้รับรู้เลยหรือ"
"กลับบ้านไปเสียบิดามารดาคงจะรออยู่แล้ว อยากได้เตร็ดเตร่อยู่ข้างนอกนานเลย"
"ไม่กลับจนกว่าเจ้าจะแต่งงานกับข้า"
"ฟังมิรู้ความ โตถึงเพียงนี้ยังต้องให้คนอื่นพูดซ้ำสองไม่สมควรที่จะได้ผู้ใดมาเป็นภรรยาหรอก"
"ถ้าหากข้ากลับไปยังจวนเจ้าจะแต่งงานกับข้าไหม"
ข้าจ้องมองอีกฝ่ายอยู่เนิ่นนาน ตั้งแต่อยู่มาหลายร้อยปีจากบุรุษกลายเป็นสตรีได้เช่นนี้มันก็นานมากแล้วแต่ไม่เคยมีใครที่จะกล้าทำเช่นนี้เลย แต่เจ้าเด็กนี่มันช่างเป็นคนกล้าดียิ่งนักบังอาจ จุมพิตข้าก่อนแถมยังตามตื๊อข้าไม่เลิกเช่นนี้มา 3 เดือน ไม่คาดคิดว่าแม้กระทั่งความรู้สึกดีๆยังถูกขโมยไปช่างน่าละอายใจยิ่งนักขออภัยท่านแม่ที่อยู่บนสวรรค์ที่ข้าไม่อาจหาภรรยามาแต่งงานได้แต่ข้าจะหาบุรุษที่ดีมาเป็นสามีให้จงได้
เมื่อกล่าวเสร็จขออภัยท่านแม่บนสวรรค์ข้าก็เพียงต้องมองอีกฝ่ายอยู่นิ่งๆเช่นเดิมเสียงนุ่มทุ้มชวนน่าฟังของบุรุษตรงหน้าก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง
"แต่งกับข้าเถอะนะ"
"ข้า..."
"แต่งเถอะนะ"
"ถ้าข้าแต่งด้วยสิ่งที่ข้าจะขอจากเจ้าคือทุกอย่างข้าต้องเป็นใหญ่ข้าบอกอะไรกับเจ้าต้องทำตามทุกอย่างถ้าเจ้ากล้าสาบานข้าก็พร้อมที่จะแต่งด้วย"
"ข้าสาบานไม่ว่าเจ้าจะพูดอะไรใครจะเชื่อเจ้าหมดทุกอย่างจะไม่ทรยศหักหลัง ข้าจะรักเจ้าเพียงผู้เดียวจะไม่มีผู้อื่นเข้ามาในชีวิตคู่ข้าจะไม่แต่งงานกับผู้อื่นเด็ดขาดไม่ว่าเจ้าจะพูดอะไรจะทำอะไรข้าจะเคารพการตัดสินใจของเจ้า ทุกอย่าง"
"ได้แต่งก็แต่งเจ้ากลับไปได้แล้วข้ารำคาญลูกกะตายิ่งนักเห็นเจ้ามา 3 เดือน ระคายเคืองตายิ่งนัก"
"ตกลงข้าต้องคุยคุยกับท่านพ่อและท่านแม่ก่อนข้าไปแล้วนะ"
"ใครขอให้เจ้ารั้งรออยากไปก็ไป"
ข้ามองอีกฝ่ายที่เดินไปด้วยท่าทางอารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัด ในเมื่อแต่งได้ข้าก็หนีเจ้าได้เช่นเดียวกันหากเจ้าทำตัวไม่ดีแล้วก็ข้าจะหักคอเจ้าเหมือนหักคอเป็ดคอไก่เลยคอยดู
ฟางเทียนเจ๋อ
วันนี้ช่างเป็นวันที่มีความสุขหลังจากที่ข้าต้องพยายามตามตื๊อสตรีที่ข้าหลงรักถึง 3 เดือนวันนี้ถ้ามีโอกาสได้เดินทางกลับจวนจนทำให้บิดามารดารู้สึกตกใจเลยทีเดียวข้าเดินทางไปร่วมรับประทานอาหารเย็นกับครอบครัวในรอบ 3 เดือนที่ข้าไม่ได้พบเจอพวกเขา เพราะมัวแต่สนใจเอาใจสตรีอยู่อย่างนั้นถึง 3 เดือน
"วันนี้ลมอะไรหอบมา ถึงได้มาร่วมรับประทานอาหารเย็นพร้อมกับครอบครัวได้"
"แล้ววันนี้เหตุใดท่านพี่ใหญ่ถึงมาได้เล่า"
"ครบกำหนด 3 เดือนที่กลับบ้านได้ แต่กลับบ้านได้ 2 วันแต่กลับไม่เห็นน้องชายของตน ช่างน่าประหลาดแท้ไปติดสตรีที่ใดมาเหตุใดถึงไม่กลับบ้านกลับช่อง"
"แล้วนั่นยิ้มอันใดน่ากลัวพิลึก"
พี่หญิงรองเลยถามด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นค่ายิ้มแย้มตั้งแต่เข้ามาภายในจวน
"ข้าเองก็มีความสุขเป็นธรรมดา"
"มีความสุขเรื่องใดไหนเล่ามาซิ"
"ข้ากำลังจะมาบอกท่านพ่อกับท่านแม่ว่าข้าอยากจะแต่งงานกับสตรีผู้หนึ่ง"
"ห่ะ!!!!!"
"เกิดอะไรขึ้นถึงได้อยากแต่งงานเร็วถึงปานนี้เจ้าเพิ่ง 17 เองนะ ทำไมถึงรีบร้อนขนาดนั้น"
"ข้าเจอสตรีที่ข้าอยากแต่งงานแล้วข้าแน่ใจว่าข้าอยากแต่งงานกับนางเพราะข้าใช้เวลาถึง 3 เดือนกว่าที่นางจะยอมใจอ่อนแต่งงานกับข้า"
"ข้านี่ตกใจไปเลยเมื่อรู้ว่าเจ้าอยากที่จะแต่งงาน แล้วเจ้าอยากแต่งงานกับผู้ใด"
"เรียนท่านพี่ตามตรงสตรีผู้นี้งดงามยิ่งนักเป็นเจ้าของลายปักผ้าที่งดงามมีลวดลายที่อ่อนช้อยนามว่าอวี้เหลียนอย่างไรล่ะท่านพี่"
"อะไรนะเจ้าจะแต่งงานกับช่างเย็บผ้าอย่างนั้นหรือนั้นยิ่งไม่คู่ควรยิ่งนักเหตุใดต้องคว้าสตรีที่มีฐานะต่ำต้อยกว่าเจ้าด้วยสตรีตระกูลใหญ่มากมายต่างรอคอยให้เจ้าไปสู่ขอเหตุใดต้องเลือกสตรีเช่นนี้"
"ต่อให้พวกท่านพูดอย่างไรข้าก็จะแต่งงานกับนางและข้าาสัญญากับนางเอาไว้แล้วและอย่าคิดว่าจะให้ข้าไปแต่งงานกับสตรีอื่นเพราะถ้าพวกท่านไม่ยอมให้ข้าแต่งงานกับนางข้าจะหนีตามนางออกไป"
"บังอาจ!!!"
"ท่านพ่อ!!"
"เจ้าอยากให้ตระกูลของเราเสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างนั้นหรือ!!!"
"ถึงอย่างไรก็จะแต่งนางเป็นฮูหยินเอก!"
"ถ้าจะแต่งเป็นได้แค่อนุภรรยาเพียงเท่านั้น"
"ไม่ได้! ท่านพ่อจะให้ข้าผิดคำพูดกับนางหรือข้าจะแต่งนางมาเป็นฮูหยินเอกเพียงเท่านั้นไม่มีการแต่งอนุภรรยาเด็ดขาด!"
"ท่านพี่ใจเย็นๆก่อนท่านจะขัดขวางลูกอย่างนั้นหรือในเมื่อลูกอยากแต่ง กับใครแม่ก็ไม่ว่าหรอกหนาเพียงแค่เจ้าบอกว่ารักนางแม่ก็ยอมที่จะตกแต่งนางเข้ามาเป็นภรรยาของลูกแล้ว"
"ข้ารักฉันมากที่สุดเลยขอรับ"
"แม่รู้ว่าลูกรักใครแม่ก็ย่อมที่จะรักคนนั้นด้วยไปเถิดไปร่วมทานอาหารกันเมื่อกำหนดวันแต่งได้แม่จะไปสู่ขอนางมาเป็นภรรยาของลูกเอง"
"ขอบคุณท่านแม่บ้างนะขอรับลูกรักแม่มากๆเลย"
"เหตุใดเจ้าถึงไม่บอกรักพ่อบ้างล่ะ"
ท่านพ่อเอ่ยออกมาอย่างน้อยใจเมื่อข้าบอกรักเพียงแต่ท่านแม่เท่านั้นไม่บอกรักท่านพ่อทำให้ทำน่าน้อยใจแต่ข้า
"ข้าไม่รักท่านพ่อหรอกขอรับเพราะท่านพ่อไม่ยอมให้ค่าแต่งงานกับนาง"
"เจ้าอยากแต่งก็ตามใจเจ้าพ่อไม่ขัดขวางแล้วที่นี้รักพ่อได้หรือยัง"
"ขอรับข้ารักท่านพ่อที่สุดเลย"
"เจ้าลูกคนนี้ช่างน่าตียิ่งนัก"