บทที่ 2
“รถติดน่ะค่ะพี่จักร ตรงสนามบินรถติดมากๆ นี่น้ำตาลเร่งมาให้ไวที่สุดแล้วนะคะ รับรองว่าขอเวลาไม่กี่นาที แล้วน้ำตาลก็พร้อมจะควงพี่จักรไปออกงานแล้วล่ะค่ะ”
“ห้ามเสื้อยืดกางเกงยีนนะน้ำตาล” เสียงทุ้มเอ่ยขรึมๆ ขณะที่นัยน์ตาสีเทาจัดเปล่งประกายระยับยิ้ม ยามมองหน้าตื่นๆ ของน้องสาว ที่พอเขาพูดแบบนั้น เจ้าตัวก็อ้าปากค้างเลยทันที
“อ้าว...ไหนพี่จักรบอกว่าแค่ไปเจอเพื่อนเก่าธรรมดาๆ นี่คะ งานเลี้ยงวันเกิดเพื่อนของพี่ ทำไมน้ำตาลจะต้องแต่งหรูด้วยล่ะ แล้วป่านนี้แล้วจะไปหาเสื้อผ้าที่ไหนทัน”
“ดูสภาพพี่เสียก่อน” ผู้เป็นพี่ชายที่อยู่ในสูทอาร์มานี่อย่างหรูลุกขึ้นหมุนตัวอวดให้กับน้องสาวดู คนมองถึงกับกะพริบตาปริบๆ ผู้เป็นพี่ชายหัวเราะก๊ากกับสีหน้าของแม่น้องสาวของเขา ที่แม้จะมีหน้าตาหวานฉ่ำ ภายนอกดูเป็นผู้หญิงละมุนละไม แต่เนื้อแท้นั้นแล้วเจ้าตัวเป็นสาวห้าวๆ สบายๆ ก็ดูอย่างอาชีพที่แม้เจ้าประคุณเลือกทำนี่สิ ถ้าเขาไม่ห้ามไว้แล้วล่ะก็ มีหวังไม่แน่ว่ามธุรินอาจจะไปสมัครเป็นทหารอากาศหญิงไปแล้วก็เป็นได้
“หล่อ หรู สุดๆ ไปเลยแหะพี่จักร ว้าว! แล้วแบบนี้พี่จักรจะมาชวนน้ำตาลไปด้วยทำไมกันเนี่ย เสียเวลานอนจริงๆ รู้แบบนี้ไปที่คลับกับบรีดีกว่า“ โดนแม่ตัวแสบว่าเข้าให้ พี่ชายเลยส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะมองจ้องหน้าเจ้าหล่อนเขม็งด้วยสายตาดุๆ แกมคาดคั้น
“ไหนรับปากพี่ไว้แล้วยังไงล่ะน้ำตาล อีกอย่างหนึ่งงานนี้ไอ้แมทมันก็ให้พาคู่เดตไปด้วย พี่ไม่มีคู่เดต เลยพาน้องสาวไปแทน ไม่อย่างนั้นอดเข้างานมันแน่ๆ ไปเร็วเข้าเสียเวลาเยอะแล้วนะ งานอยู่ไกลด้วยเดี๋ยวจะไปไม่ทัน”
“ทำไมต้องหรูขนาดนี้ด้วย น้ำตาลมีชุดที่ไหนกัน” น้องสาวยังยืนอยู่กับที่ ไม่มีทีท่าจะกระดิกตัวเลยแม้แต่น้อย เธอเหนื่อยและเพลียกับการบินข้ามประเทศมาก มีไฟล์บินติดๆ กันและเธอก็ยังรับเวรมาแทนแซมเพื่อนชายที่ป่วยอีกด้วย ตอนนี้สิ่งเดียวที่มธุรินคิดถึงคือเตียงอุ่นๆ และการหลับยาวนานเต็มที่โดยปราศจากคนรบกวน
............
“มีสิพี่เตรียมชุดไว้ให้เราแล้ว เร็วๆ เข้า อย่าให้ช้านะน้ำตาล เดี๋ยวพี่จะจับเราเปลี่ยนเสื้อ แล้วก็แต่งหน้าเองเลย”
“พี่จักร” เจอขู่เข้าแบบนั้น มธุรินก็ทำหน้างอ ขณะที่ผู้เป็นพี่ชายนั่งลงบนโซฟาตัวนุ่มตัวเดิม เขาเอาแม็กกาซีนมากางอ่าน พร้อมกับพูดเสียงดุๆ ไปด้วย
“พี่จะนับหนึ่งถึงร้อย ถ้าน้ำตาลยังไม่ลงมา พี่จะขึ้นไปตาม”
“ไปก็ได้ แต่ว่า...” เสียงใสเอ่ยอย่างจะต่อรอง เขาเหลือบตามองเธอนิดหนึ่ง แล้วยักไหล่ก่อนจะพูดเสนอเงื่อนไขออกมาราวกับรู้ใจน้องสาว
“ตั๋วดูแมนเชสเตอร์ กับเชลซี ที่นั่งหน้าสุดเลย โอเคไหม? แล้วถ้ามีการประมูลเสื้อนักเตะคนโปรดของน้ำตาล รับรองว่า จะได้เห็นมันมาอยู่ในตู้เสื้อผ้าของน้ำตาลเลย”
“สนามโอลด์ทรัฟฟอร์ด เสาร์นี้นะคะพี่ชาย สามใบ ของแซม บรี แล้วก็น้ำตาล”
“ตกลง”
“ถ้าอย่างนั้นก็รอน้ำตาลไม่เกินยี่สิบนาทีค่ะ พี่จักรจะได้หญิงสาวสวยเริ่ด เหมาะกับสูทอาร์มานี่ของพี่ ควงแขนพี่ชายสุดหล่อ ไปงานคล้ายวันเกิดเพื่อนไฮโซของพี่แน่ๆ” มธุรินยิ้มกว้างก่อนจะก้าวเร็วๆ ขึ้นบันไดแบบทีละสองขั้น วิ่งตึงตังขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน ที่เป็นห้องส่วนตัวของเธอทันที
“ถ้าเจ้าแมทธิวไม่ตั้งกฎบ้าๆ นี่ขึ้นมา พี่ก็คงจะไม่ง้อเราหรอกน่าน้ำตาล” จักรพรรดิว่ายิ้มๆ ใบหน้าคมสันหล่อเหลาอย่างหาตัวจับอยากของเพื่อนรักแวบเข้ามาในห้วงนึกทันที เขาไม่ได้พบปะกับเพื่อนคนนี้มาสักระยะหนึ่งแล้วแต่ก็ยังติดต่อกันอยู่เสมอ อาจจะด้วยภาระของงานของเขาด้วยกระมัง อดีตเพื่อนร่วมเฮ้วกันมาอย่าง แมทธิว สเปนเซอร์ โดริโก เป็นเพื่อนตายที่เขาไม่อาจจะลืมได้เลย
…………………
เมื่อเปิดประตูห้องนอนเข้าไป มธุรินก็ถึงกับตาแทบพร่ากับประกายสีเจิดจ้าของชุดสีแดงเลือดนก ซึ่งถูกแขวนไว้ให้เจ้าของห้องได้เตะตาเข้าอย่างจัง ที่ตรงหน้าตู้เสื้อผ้าของเธอ มันตัดกับสีครีมของห้องที่เลือกใช้บิ้วอินทั้งหมดเป็นสีครีม และวอลเปเปอร์ลายดอกไม้สีชมพูอ่อน เรียกได้ว่าเด่นสะดุดตาเอาเสียมากๆ แล้วนึกยังไงจักรพรรดิถึงเลือกชุดนี้ให้เธอกันนะ น่าจะรู้จักนิสัยของน้องสาวดีนี่นา ว่าชอบใส่เสื้อผ้าแบบนี้เสียที่ไหนกันเล่า
“พี่จักรจะแกล้งเราหรือไงนะ ถึงเลือกเสื้อผ้าแบบนี้มาให้” เจ้าตัวถึงกับทำหน้ายี้ เมื่อดูแบบของมัน เสื้อราตรีสายเดี่ยว แบบด้านหลังคว้านลึก แถมยังกระโปรงชายพลิ้วสั้นจู๋นั่นอีก ให้ตายเถอะ! แล้วเธอจะกล้าใส่มันเข้าไปไหมนี่
แต่แล้วภาพของกีฬาแม็ตซ์โปรด แล้วเสื้อของนักกีฬาคนที่เธอชื่นชมก็ลอยขึ้นมา ทำลายความขลาดของเธอเสียย่อยยับ เอาเถอะน่า กลั้นใจหลับหูหลับตาใส่ชุดนี้ไม่กี่ชม. เดี๋ยวเดียวเธอก็ได้ค่าจ้างแล้ว คงจะต้องให้จักรพรรดิแถมค่าเบียร์ ค่าไส้กรอกให้เธออีกสักห้าสิบหกสิบปอนด์ คิดแล้วมธุรินก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะคว้าชุดราตรีสีแดงหายวับเข้าไปในห้องน้ำ คงจะต้องทำสถิติแต่งตัวสวย เริด เชิดแต่เร็วกันหน่อยล่ะ ถ้าไม่อย่างนั้นผู้เป็นพี่ชายมีหวังต้องมาตามตัวเธอจริงๆ แน่ๆ คนอย่างจักรพรรดิไม่เคยพูดล้อเล่นอยู่แล้วด้วย
แล้วภายในเวลายี่สิบนาที ไม่ขาดไม่เกิน ร่างเพรียวในชุดราตรีสั้นสุดหรูแสนเซ็กซี่ ก็ก้าวลงมาจากชั้นสองของตัวบ้าน คนที่นั่งรอเพลินๆ อยู่เมื่อปรายตาไปเห็นน้องสาวลงมายืนยิ้มหวานให้เขาอยู่ตรงหน้า จักรพรรดิก็แทบจะตาค้างด้วยความตื่นตะลึง รู้อยู่แก่ใจว่ามธุรินเป็นคนสวยคนหนึ่ง แต่ไม่คิดว่าแบบชุดที่เขาเลือกให้จะทำให้แม่น้องสาวคนสวยเย้ายวนดูเป็นสาวสุดฮอตแสนเซ็กซี่ได้มากถึงขนาดนี้
ใบหน้าหวานแอร่มรูปไข่ ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางในโทนสีทอง เธอเลือกทาลิปสติกสีแดงกำมะหยี่ ยี่ห้อชาแนลที่ได้รับเป็นของขวัญจากบริทานีย์เพื่อนแอร์โฮสเตส แต่ไม่เคยได้ลองใช้สักหน หนนี้เป็นหนแรก และมันก็ทำให้ มธุรินแปรเปลี่ยนจากสาวหน้าหวาน กลายเป็นสาวสวยเฉี่ยวแสนเย้ายวน ขับผิวขาวผ่องของใบหน้าเนียนให้ยิ่งดูผุดผาดน่ามอง แต่งแต้มให้กลีบปากอิ่มเต็มน่าจุมพิต เรือนผมเกล้าไว้หลวมๆ เสียบไว้ด้วยปิ่นมุกที่เจ้าหล่อนได้รับมาจากเพื่อนสนิทอีกคนอย่างแซม หยาง หนุ่มลูกครึ่งจีน อังกฤษ ชุดราตรีสีแดงเลือดนกนั้นแนบไปกับเรือนร่างสาวงดงาม เน้นตรงเนินอกและเรียวขาสวยที่โผล่พ้นมากจากชายกระโปรง เอวบางคอดกิ่วของน้องสาวคาดไว้ด้วยสร้อยเพชรเทียม รองเท้าส้นสูงสีดำเน้นให้รูปร่างดูระเหิดระหงราวกับนางพญามากยิ่งขึ้น
“นี่ใช่น้ำตาลสุดห้าวของพี่จริงๆ น่ะเหรอนี่ หรือว่านางฟ้ากันนะ” จักรพรรดิว่าเย้าๆ เล่นเอาคนถูกชมถึงกับเขินจนขาแทบจะขวิด เธอตรงเข้าไปคล้องแขนพี่ชายแล้วย่นจมูกให้อย่างอายๆ หน้าเนียนแดงเรื่อขึ้นเลยทันที
“รีบไปกันเถอะคะ จะได้รีบกลับ ตาล่างกับตาบนของน้ำตาลมันจะมาบรรจบกันอยู่แล้วนะพี่จักร ถ้ายังไงพี่จักรติดลม ขอน้ำตาลแอบแว้บกลับก่อนนะคะ”