บทย่อ
ซีอีโอหนุ่มเจ้าเสน่ห์ เจ้าของสายการบินของอังกฤษ ทายาทหนุ่มแห่งสเปนเซอร์ ผู้ที่เพียงแค่กระดิกนิ้ว สาวๆ ทั้งหลายก็ต่างยอมสยบต่อเสน่ห์ทางเพศอันร้ายกาจของเขา จนกระทั่งมาพบเข้ากับเธอ สาวนักบินแสนห้าว ผู้ที่กล้าปฏิเสธ และทุ่มเขาทิ้งได้อย่างหน้าตาเฉย! “แมทธิว พอแล้ว...” เธอเอ่ยเป็นเสียงหอบเมื่อเขาทำท่าจะก้มลงมาจูบเธอใหม่อีกหน แมทธิวหัวเราะน้อยๆ แล้วจูบปลายจมูกของเธอเบาๆ พลางเอ่ยเสียงทุ้มกระซิบแผ่ว “กับคุณนะซูการ์ ครั้งเดียวมันพอไม่ได้ ขอผมจูบคุณอีกหนหนึ่งนะ” ว่าแล้วเขาก็จูบเธอใหม่ หนนี้เขาทำเหมือนล้อเล่น ด้วยการดูดดึงริมฝีปากเธอ ใช้ปลายลิ้นไล้เลียกลีบปากอิ่มจนเธอเผยอปากให้อย่างลืมตัว เขาก็แทรกปลายลิ้นเข้าไปเกี่ยวพันรัดเล่น ทำให้เธอวาบหวิวรัญจวนไปหมด เมื่อเขาถอนจูบหนนี้ มธุรินก็ซบแนบกับอกกว้าง ตัวอ่อนไปหมดเพราะความหวามไหว นัยน์ตากลมหวานปรือปรอย เปล่งประกายระยับเร่าร้อน เพราะไฟสวาทที่ถูกเขาจุดขึ้นในกายสาว “คุณหายหรือยัง” เสียงนั้นยังคงอ้อนถามขณะที่เขาประคองใบหน้านวลไว้ในอุ้งมือ นัยน์ตาคมนั้นส่งประกายเร่าร้อน แทบจะละลายคนที่เผลอสบตาด้วย มธุรินกะพริบตาปริบๆ เพราะคิดไม่ทันกับสิ่งที่เขากำลังถาม ตอนนี้สติเธอเตลิดลับไปไกลแล้ว “คะ อะไรหาย” “คุณบอกว่าคุณเป็นพวกเย็นชาทางเพศ แต่คุณจูบตอบผมได้ขนาดนี้ ผมว่าคุณไม่มีอาการนั้นแล้วล่ะที่รัก” เขาซับจุมพิตไปตามซอกคอหอมกรุ่น เสียงทุ้มเอ่ยแหบพร่า “คุณหอมจังซูการ์ เหมือนกับเลมอนเลย” “ฉันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย” สติอันน้อยนิดเริ่มคืนมาสู่ตัว เธอพยายามผลักเขาออกแต่ก็ไร้ผลอีกตามเคย แมทธิวหัวเราะหึๆ พร้อมกับเงยหน้าขึ้นสบสายตากับนัยน์ตากราดเกรี้ยวของเธอ พลางยิ้มเปี่ยมเสน่ห์ส่งให้กับเธอ แต่อย่าคิดนะว่าจะมายิ้มหวานหว่านให้หัวใจเธอแกว่ง แล้วยอมเขาง่ายๆ เหมือนเมื่อคืน ไม่มีทางหรอก! “ก็คุณบอกว่าคุณเป็น ใครมันทำกับคุณกันนะคนดี ถึงทำให้คุณแอนตี้เรื่องสวยงามนี่ได้ถึงขนาดนี้ แต่ผมไม่สนใจหรอก ผมจะช่วยแก้ไขมันเอง” ว่าแล้วพ่อหมาป่าก็ทำท่าจะรัดเธอแน่นกว่าเดิม แถมยังเริ่มแต้มจูบลงมาติดๆ กันอีกด้วย มธุรินพยายามดันหน้าเขาออก เธอตวาดเอ็ดเขาเสียงแหว ตอนนี้เธอเป็นตัวของตัวเองเต็มที่แล้ว ไม่มีการอ่อนไหวกับเขาเหมือนเมื่อคืน เด็ดขาด “ปล่อยฉันนะ คุณแมทธิว อีตาบ้านี่ บอกให้ปล่อย!” “ไม่ปล่อยหรอก ให้ผมทำให้คุณได้เห็นถึงสิ่งที่สวยงามด้วยกันนะ ที่รัก แล้วคุณจะชอบ โอ๊ย!” ประโยคหลังเขาร้องอุทานอย่างตกใจ เมื่อจู่ๆ เธอก็กัดเขาหมับเข้าให้เต็มปากที่บ่ากว้าง แล้วเมื่อเขาผละปล่อยเธอแล้ว ทีนี้ก็ได้เวลาลงมือของวิชาป้องกันตัวของมธุรินที่ได้หยิบมาใช้ เธอจับเขาทุ่มเต็มที่ จนแมทธิวกลิ้งโค่โร่ไปอยู่บนพื้นทราย แถมเมื่อเขาลุกขึ้นมาแล้ว อีกฝ่ายก็ตั้งท่าเตรียมรับมือเขาเต็มที่เสียด้วย “อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นโดนเตะแน่ๆ” “ซูการ์ คุณทำบ้าอะไรของคุณน่ะ” เอาล่ะสิ จะมาสอนให้เขารู้จักความรัก แล้วจะมาจากไปง่ายๆ คนอย่างแมทธิวไม่ยอมหรอกนะ แม่น้ำตาลหวานฉ่ำ ให้มันรู้ไปว่าเธอจะมาทุ่มเขาทิ้งไม่ได้ง่ายๆ
บทที่ 1
นาฬิกาข้อมือที่บอกเวลาเกือบบ่ายโมงตรงแล้ว ทำให้ชายหนุ่มที่กำลังมองดูเวลาอยู่ถอนหายใจน้อยๆ นัยน์ตาสีเทาเข้มเกือบดำของเขาส่งประกายระยับ ก่อนจะเอนกายลงกับเบาะหนานุ่มรูปแอปเปิ้ลสีเขียวสดใบโต เขาหันมามองมันแล้วพานให้นึกถึงคนที่ประดิษฐ์งานฝีมือเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ประจำบ้านขึ้นมาเลยทันที และก็เป็นคนที่เขากำลังรอคอยอยู่เสียด้วย ป่านนี้แล้วเจ้าตัวทำไมยังไม่มาอีกหนอ…
“หรือว่าจะมีอะไรขัดข้องทางเทคนิคอีกนะน้องสาวเรา” เขาบ่นกับตนเองเบาๆ สายตาคบกริบมองไปยังกรอบรูปขนาดเล็กที่มีรูปชายหญิงคู่หนึ่งยืนเคียงกันและยิ้มให้กล้องอย่างสดชื่นเต็มที่ เหมือนกับจะบอกว่ามีความสุขอย่างมากแค่ไหนที่ได้อยู่ข้างๆ กับคนที่รัก
มือหนาหยิบกรอบรูปนั้นมาดูอย่างพินิจ นัยน์ตาคมกวาดมองภาพใบหน้าสวยใสของหญิงสาวที่ซบกับบ่ากว้างของชายหนุ่มในภาพ นั่นคือภาพของเขาและน้องสาวต่างบิดา ซึ่งเขาเพิ่งจะได้มีโอกาสใกล้ชิดสนิทสนมกับเธอ หลังจากที่ไม่เคยทราบมาก่อนว่าตนเองมีน้องสาว เขาได้เธอมาเป็นบุคคลในครอบครัว พร้อมกับได้มารดามาอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัว หลังจากที่ต้องพลัดพรากจากกันมาเป็นเวลานาน เนื่องจากท่านเลิกรากับบิดา ไปมีครอบครัวใหม่ที่เมืองไทย
ชายหนุ่มมีชื่อไทยว่าจักรพรรดิ มารดาและน้องสาวเท่านั้นที่เรียกเขาด้วยชื่อไทย ส่วนใหญ่มักจะเรียกเขาด้วยชื่อกลาง ที่ความหมายก็คล้ายกับชื่อจริงที่มารดาตั้งให้ว่าซีซาร์ จักรพรรดิอยู่กับบิดาชาวอังกฤษซึ่งท่านมีกิจการร่ำรวยพอสมควรแต่แม้จะก้าวหน้าทางด้านธุรกิจ แต่ชีวิตของท่านมักจะล้มเหลวเสมอด้านคู่ครอง จักรพรรดิแทบจะนับสตรีที่เรียงรายกันเข้ามาเป็นมารดาเลี้ยงของเขาไม่หวาดไม่ไหว เหตุผลที่จอนห์สันและลินดาเลิกร้างกันไป อาจจะเป็นเพราะความไม่รู้จักพอและไม่เคยเข้าใจกันเลยของคนทั้งสองก็เป็นได้ ผลผลิตจากความรักแต่ไม่เข้าใจกันของพวกท่านอย่างจักรพรรดิก็มีวิถีชีวิตในแบบของตัวเองที่เรียกได้ว่าค่อนข้างจะสุดโต่ง
มธุริน รัศมีพงศ์ คือชื่อของน้องสาวคนเดียวของเขา เขาได้อยู่กับมารดาเพียงแค่ไม่กี่ปี ท่านก็จากไปเพราะโรคประจำตัว ทิ้งให้จักรพรรดิ ต้องอยู่กับมธุรินเพียงลำพัง น้องสาวของเขามาเรียนต่อหลังจากที่บิดาชาวไทยเสียชีวิตและชายหนุ่มได้ชักชวนลินดามาอยู่ด้วยกันที่อังกฤษ จักรพรรดิใช้ความสามารถบางอย่างของตนเองขอวีซ่าที่แทบจะเรียกว่าถาวรให้กับคนทั้งคู่ได้ แล้วถ้าจะสมัครใจเปลี่ยนสัญชาติคนอย่างจักรพรรดิก็ทำได้อย่างไม่มีปัญหาเลยทีเดียว นั่นก็เพราะงานที่เขาทำอยู่เอื้ออำนวยให้เขาได้รับสิทธิพิเศษบางอย่าง แลกเปลี่ยนกับการทำงานหนักและแสนเสี่ยงให้กับรัฐบาลอังกฤษ
ใบหน้ารูปไข่ นัยน์ตาสีน้ำตาลหวานฉ่ำพานให้นึกถึงขนมบราวนี่อร่อยๆ ของน้องสาวที่เห็นในภาพ ทำให้จักรพรรดิยิ้มออกมาเล็กน้อย เมื่อนึกถึงเจ้าตัว เห็นหน้าหวานๆ ตาสวยๆ แบบนี้ แต่แม่น้องสาวสุดที่รักก็เลือกที่จะประกอบอาชีพที่สตรีส่วนใหญ่ไม่อาจหาญทำ นั่นก็คือการเลือกเป็นนักขับเครื่องบินพาณิชย์ ของสายการบินฟาย ไลต์ ฟาย (Fly Light Fly) โดยที่ยอมรับว่าเมื่อเธอเอาบัตรพนักงานมาอวดเขาในเย็นวันหนึ่ง จักรพรรดิตกใจมากเลยทีเดียว ที่มธุรินทำอย่างที่ตนเองร่ำเรียนมาและพยายามตั้งใจจนได้รับใบอนุญาต รวมถึงฝ่ากฎข้อที่ว่าเพศหญิงส่วนน้อยที่เป็นนักบินได้ แต่เธอทำได้ แม้จะอยู่ในประเทศเสรี แต่ก็อย่างว่าอคติหญิงชายบางทีก็ยังคงมีอยู่ เนื่องด้วยข้อจำกัดบางข้อของเพศหญิงนั่นเอง แต่มธุรินก็ทำจนสำเร็จ และกำลังไปได้ดีกับสิ่งที่ตนเองชอบเลยทีเดียว
การทำงานแบบนี้เลยทำให้เวลาของมธุรินไม่ค่อยจะเหมือนกับคนอื่นนักในเรื่องวันเวลาพัก หวังว่าวันนี้แม่น้องรักของเขาคงจะไม่เบี้ยว ด้วยการเกิดเหตุขัดข้องอยู่ที่ประเทศใดประเทศหนึ่ง จนไม่สามารถไปร่วมงานกับเขาได้กันนะ ชายหนุ่มมีนัดไว้กับเพื่อนเก่าสมัยเรียนไฮสคูล ที่ปัจจุบันก็ยังคบกันเป็นเพื่อนรักอยู่
การ์ดถูกร่อนเชิญมาให้เขาไปร่วมในงานวันเกิดของอีกฝ่าย ซึ่งตอนนี้เป็นซีอีโอของธุรกิจใหญ่อยู่ถึงสองแห่ง แม้ว่าอีกแห่งหนึ่งจะเพียงมีหุ้นส่วนใหญ่ แต่ยังไม่ได้เข้าไปจัดการธุรกิจด้วยตนเองเต็มที่ก็ตามที เขาและเพื่อนรักคนนี้มีบางส่วนคล้ายคลึงกัน นั่นก็คือพ่อแม่เลิกกันเหมือนกัน แต่อีกฝ่ายโชคดีกว่าเขาตรงมารดาเลี้ยงซึ่งเป็นคนไทยนั้นเป็นคนดีมาก และก็ยังเข้ากับน้องๆ อีกสองคนได้เป็นอย่างดีเสียด้วย
เสียงรถยนต์ที่แล่นเข้ามาในบริเวณบ้าน ทำให้มือหนาวางกรอบรูปลงตรงที่เดิมของมัน รอยยิ้มของเขากว้างขวางขึ้นมาทันทีเมื่อรับรู้ได้แม้แค่เพียงฟังเสียง ว่าเป็นรถของใคร รถยนต์ออดี้ รุ่น A4 แม้กระทั่งสีของมันเขาก็คงจะบอกได้ว่าเป็นสีแดง นั่นก็เพราะเป็นรถยนต์ที่เขาซื้อให้น้องสาวสุดที่รักด้วยตนเอง
ประตูบ้านถูกเปิดออก แล้วร่างบางเพรียวของใครคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาในบ้านด้วยความรีบร้อน เข้ามาในห้องที่เขากำลังนั่งรออยู่ เธอยังอยู่ในชุดทำงาน ซึ่งเป็นเสื้อเชิ้ตตัวยาวสีขาว และกางเกงกระชับตัวสีน้ำเงินเข้ม เรือนผมสีดำสนิทถูกเกล้าไว้อย่างเรียบร้อย อวดใบหน้าสวยใสที่ตอนนี้มีเหงื่อซึมเล็กน้อย เพียงเห็นหน้าดุๆ ของพี่ชาย เสียงใสก็เอ่ยรัว อย่างจะแก้ตัว