ตอนที่ 8 หมัก ดอง
ปัญหาแรกผ่านไปแล้ว เรื่องของท่านลุงจางก็เหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดี ต่อจากนี้คือการเริ่มต้นแผนการ
เช้าวันต่อมาหลิงอันตื่นแต่เช้าตรู่ เด็กน้อยต้องการเริ่มต้นทำงานให้เร็วที่สุดเพื่อครอบครัวจะได้มีเงินเข้ามาโดยเร็ว
เด็กสาวที่คิดว่าตนเองตื่นเช้าแล้วแต่เมื่อลืมตาขึ้นมาไม่เห็นมารดาข้างกายจึงรู้ได้ทันทีว่ามารดาตื่นเช้ากว่า
หลิงอันขยับก้าวลงจากเตียงเดินผ่านประตูห้องนอนพัง ๆ ก็เห็นว่าบนลานกว้างขนาดครึ่งหมู่มารดากำลังนั่งล้างองุ่นที่ได้มาเมื่อวาน นางล้างองุ่นแต่ละพวงอย่างใจเย็น ล้างเสร็จก็แยกไว้เป็นสัดส่วน ไม่รู้ว่านางตื่นนอนนานขนาดไหนแล้ว องุ่นสองตะกร้าใหญ่ถึงได้ถูกล้างไปเกือบหมด
“อันเอ๋อร์ตื่นแล้วหรือลูก”หลิงซุนเงยหน้ามอง สะบัดมือไล่น้ำออกจากมือลุกขึ้นเดินเข้าไปในครัว
ก่อนจะออกมาพร้อมแกงเห็ดชามเล็ก
“กินข้าวเช้าก่อนนะลูก องุ่นพวกนี้เดี๋ยวแม่ล้างเอง”
“ขอบคุณท่านแม่เจ้าค่ะ”หลิงอันยื่นมือออกไปรับชามแกงเห็ดมาถือไว้ ก่อนวางลงบนเก้าอี้เก่าอย่างระมัดระวัง แล้วเดินผ่านมารดาไปจัดการล้างหน้า
เสร็จแล้วก็มากินข้าวเช้าที่มารดาเตรียมไว้ให้ เด็กสาวตัวน้อยหย่อนตัวลงนั่งข้างหลิงซุนใช้ช้อนตักแกงเข้าปากพลางเอ่ย
“ท่านแม่ตื่นนานแล้วหรือเจ้าคะ ?”
“ไม่นานตื่นก่อนอันเอ๋อร์ของแม่เพียงครึ่งชั่วยาม”
“เช้ากว่าอยู่ดี ต่อไปอันเอ๋อร์จะพยายามไม่ให้ท่านแม่ต้องเหนื่อยมาก”
มือที่กำลังล้างองุ่นหยุดชะงัก หลิงซุนเงยหน้าสบสายตาบุตรสาวเผยรอยยิ้มมีความสุข
“แม่จะรอวันนี้อันเอ๋อร์ทำเสร็จนะ”
“อีกไม่นานท่านแม่ก็จะได้เห็นแล้วเจ้าค่ะ”
สองแม่ลูกมองหน้ากันยิ้ม ๆ ก่อนจะหัวเราะออกมา
“แม่เข้าใจแล้ว แต่ก่อนอื่นอันเอ๋อร์ของแม่ต้องกินข้าวให้หมดก่อน”เด็กสาวพยักหน้ารับ ตักแกงเห็ดเข้าปากไม่พูดอะไรออกมาอีก
บรรยากาศระหว่างสองแม่ลูกเป็นไปอย่างเรียบง่าย หลังหลิงซุนล้างองุ่นเรียบร้อยก็เป็นจังหวะเดียวกับที่หลิงอันกินข้าวอิ่มพอดี
เด็กน้อยขยับตัวลุกขึ้นนำชามไปล้างเก็บไว้แล้วออกมาช่วยเหลือมารดา
และในตอนนี้เองที่หน้าประตูบ้านเกิดเสียงเรียกดังขึ้น
หลิงอันหันมองหน้ามารดา ก่อนที่เด็กสาวจะเป็นคนเดินไปเปิดประตู
“ท่านลุงจางมาแล้วหรือเจ้าคะ เข้ามาก่อนสิเจ้าคะ”จางเหวินยิ้มให้เด็กสาวตัวน้อย เดินตามเข้ามาในบ้าน ก่อนประตูบ้านจะถูกปิดลงท่ามกลางสายตาของชาวบ้าน
พวกเขามองหน้ากันอย่างรู้ ๆ กัน ก่อนจะส่ายหัวไปมา
เสียแรงที่เป็นถึงลูกคนมีจะกิน ไม่คิดว่าจะหลงคารมสตรีหม้าย บิดามารดาของเขาก็กระไร เหตุใดถึงไม่เอ่ยห้ามบุตรชายของตน
ชาวบ้านที่เห็นต่างก็คิดไปในทางเดียวกัน แตกต่างจากครอบครัวหวังที่มองตามแผ่นหลังชายหนุ่มเข้าไปด้วยสายตากรุ่นโกรธ
“ท่านลุงจางนำของที่ข้าขอร้องมาด้วยหรือไม่เจ้าคะ”สายตาสุกสกาวของเด็กสาวที่มองมาทำจางเหวินหยักยิ้ม ชายหนุ่มหยิบน้ำตาลกลวดถุงใหญ่ออกมายื่นให้หลิงอัน
“ว้าว เยอะมาก !! ไม่ทราบว่าท่านลุงจ่ายไปกี่อีแปะหรือเจ้าคะ น้ำตาลแพงมากหรือไม่ ?”
หลิงอันเกรงใจไม่น้อยยามเอ่ยขอให้เขาซื้อน้ำตาลมาให้ในวันนี้แต่จะให้นางทำเช่นไร หากไม่เอ่ยขอบ้านของนางก็ไม่มีเงินมากพอจะนำออกไปใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย
“ไม่มากร้อยกว่าอีแปะก็ได้มาแล้ว”
“แพงมาก !! ร้อยกว่าอีแปะต้องทำงานเกือบเจ็ดวันถึงจะได้มา”
“อันเอ๋อร์ไม่ต้องทำหน้าลำบากใจ ไม่ใช่แม่หนูน้อยบอกลุงหรือว่าหากสิ่งที่เจ้าทำประสบผลสำเร็จจะได้รับเงินตอบแทนมากขึ้น”
“ใช่เจ้าค่ะ ท่านลุงจะไม่ขาดทุนแน่นอนอันเอ๋อร์รับประกัน !!”
ท่าทางมุงมั่นและสีหน้ามั่นใจที่เงยมองเขาทำหัวใจคนเป็นลุงคันยุบยิบจนอยากจะยื่นมือออกไปลูบหัวกลมของนางเสียจริง
ทว่าจางเหวินก็ทำเพียงแค่คิด เขายังไม่กล้าเข้าถึงตัวอีกฝ่ายมากขนาดนั้น เพราะพวกเขาพึ่งได้รู้จักและพูดคุยกันได้ไม่นาน
หากสนิทมากกว่านี้ตนอาจจะกล้าเอ่ยขอออกไป
“ของทุกอย่างครบแล้วเช่นนั้นก็มาเริ่มกันเถิดเจ้าคะ”
เด็กสาวตัวน้อยอุ้มน้ำตาลกรวดขนาดสิบจินไปวางไว้ข้างบ้าน แล้วเริ่มต้นการทำงานทันที
องุ่นที่ล้างไว้สะเด็ดน้ำหมดแล้ว
เด็กสาวจึงขอให้จางเหวินช่วยต้มน้ำร้อนราดลงไปในไหนับสิบไหเพื่อทำความสะอาด พอไหแห้งก็นำองุ่นที่ได้ใส่ลงไป สลับกับน้ำตาลเป็นชั้น ๆ จนเต็ม แล้วค่อยเติมน้ำปิดฝาให้สนิทนำเข้าไปเก็บไว้ในที่ร่ม รอบ่มจนองุ่นได้ที่ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
การที่หลิงอันมีความรู้เรื่องทำองุ่น เพราะโลกก่อนนางเป็นเชฟทำอาหาร แถมยังเป็นเชฟที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีความรู้เกี่ยวกับการทำอาหารหลายแขนงและชอบทดลองทำอะไรหลาย ๆ อย่างอยู่เสมอ ในหัวของนางจึงมักเต็มไปด้วยรายการอาหารนับน้อยนับพัน
ทว่าการจะทำอาหารได้ก็ต้องมีเงินทุน และสิ่งที่นางคิดว่าเหมาะและทำง่ายคือเหล้าองุ่น
ต้นทุนต่ำขายได้กำไรงาม และทำง่าย
คิดมาถึงตรงนี้แล้วหลิงอันพลันคิดไปถึงตนเองในโลกก่อน สาเหตุที่นางตายมาจากแก๊สที่ร้านระดับห้าดาวเกิดรั่วแล้วระเบิดขึ้นมา ตอนนั้นในหัวสมองคิดเพียงว่า ยังไม่ได้ใช้เงินที่เก็บไว้เลยกับต้องมาตายเสียได้ นางเสียใจมากที่ต้องมาตายทั้งที่ยังไม่ได้ใช้ชีวิต
ใครจะไปคิดว่าจะได้มามีชีวิตอีกครั้ง ถึงแม้ชีวิตใหม่นี้จะไม่ได้ร่ำรวย แต่นางก็ตั้งใจไว้แล้วว่าจะพยายามมองหาช่องทางรวย ถึงตอนนั้นจะใช่เงินที่หามาได้ให้หนำใจไปเลย !!
ดวงตาเด็กสาวเป็นประกายอย่างมาก จดจ้องมองขุมทรัพย์ตรงหน้าดวงตาไม่กะพริบ การแสดงออกของนางทำให้ผู้ใหญ่สองคนที่มองอยู่มองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมา
“ดูเหมือนว่าหลิงอันจะชื่นชอบสิ่งนี้มากเลยนะ ข้าอยากรู้เสียแล้วสิว่าเจ้าสิ่งนี้จะทำให้เราสองคนประหลาดใจได้มากแค่ไหน”
“ข้าไม่ได้คิดมากถึงขนาดนั้น ข้าเพียงหวังว่าสิ่งที่บุตรสาวคิดจะทำขึ้นมาครั้งแรกจะประสบผลสำเร็จ บ้านข้าจะได้มีเงินมาคืนท่าน”
“แม่นางหลิงอย่าได้เกรงใจข้ามากขนาดนี้ เรื่องเงินบ้านข้าหาได้เดือดร้อน ยามที่เจ้าสองแม่ลูกมีค่อยนำมาคืนข้าก็ได้”
หลิงซุนมองเขา ชายผู้นี้แสนดีกับนางและบุตรสาวเกินไปหรือไม่ ?
หลิงอันที่ดวงตาเป็นประกายได้ยินคำพูดของทั้งสองคนอย่างชัดเจน ผู้ใหญ่ในร่างเด็กน้อยถึงกับหยักยิ้ม
ท่านแม่ท่านก็อย่าได้ไม่รู้ความนักเลย ไม่เห็นหรือว่าท่านลุงจางนะ...คิดมาถึงตรงนี้รอยยิ้มบนใบหน้าหลิงอันยิ่งกรุ้มกริ่มขึ้นมาอีกหลายส่วน