บทที่ 8
ตู้เฉิงอี้เดินนำหน้าเสี่ยวตงเข้าไปที่โรงค้าทาส พร้อมทั้งเลือกทาสมาหนึ่งครอบครัว เมื่อรู้จากเสี่ยวตงว่านางต้องการคนที่จัดการงานเรือนทั้งยังต้องการคนที่ออกหน้าเรื่องการค้าให้นางได้ด้วย
เฉิงอี้จ่ายค่าตัวทาสไปทั้งสิ้นสิบตำลึงทอง แต่เก็บเงินกับเสี่ยวตงเพียงสอองตำลึงทองเท่านั้น
เสี่ยวตงจำต้องพาทาสที่ซื้อมา กลับไปส่งที่หมู่บ้านก่อน เฉิงอี้ก็จัดการเรื่องเสื้อผ้า เครื่องนอนของทุกคน เพื่อไม่ให้อวี่หรันนางต้องเหนื่อยจัดการในภายหลังอีก เพราะเสี่ยวตงเพียงมาซื้อคนเท่านั้นเรื่องอื่นเขาไม่รู้ว่าต้องจัดการเช่นไร
“เฮ้ยย ท่านซื้อมามากเพียงนี้เลยหรือพี่ตง” อวี่หรันเมื่อนางได้ยินเสียงร้องเรียกก็ออกมาดูที่หน้าเรือน ก็ต้องตกใจกับจำนวนคนที่เสี่ยวตงพากลับมา
“ก็เจ้าต้องการทั้งคนดูแลเรือน แล้วยังต้องการคนที่ออกหน้าเรื่องการค้าแทนเจ้าได้อีกด้วย ข้า ข้าก็เลยซื้อมาเยอะหน่อย”
อวี่หรันจับผิดเสี่ยวตง เพราะท่าทางของเขาที่กำลังหลบสายตาอยู่ทำให้นางไม่วางใจ อีกอย่างเสี่ยวตงไม่เคยทำเกินสิ่งที่นางบอกสักครั้ง
นางบอกให้เขาซื้อคนให้นางสามคน เขาก็น่าจะซื้อแค่สามคน แต่เขาพาคนกลับเรือนมาถึงหกคน มันไม่น่าจะใช่ความคิดของเขา
“ท่านพบเฉิงอี้ใช่หรือไม่” นางมองเขาอย่างดุดัน
“อาหรัน เจ้ากำลังกดดันข้าอยู่” เขาก้มหน้าพึมพำออกมา
“เหอะ ท่านนี่มัน ช่างเถอะ แต่พวกท่านต้องรู้ไว้ เมื่อเข้ามาอยู่ในเรือนของข้า ข้าคือนาย หากท่านคิดเป็นอื่น หึ ข้ามีวิธีจะทำให้พวกท่านอยู่ไม่สู้ตายแน่นอน” อวี่หรันข่มขู่ แต่แววตาของนางทำให้ทาสที่ซื้อมารู้ว่าสิ่งที่นางพูดนางสามารถทำได้จริง
“ขอรับ/เจ้าค่ะ” ทุกคนรับคำด้วยความเกรงกลัว
“เข้าเรือนเถิดเจ้าค่ะ พี่ตง ท่านไปหาคนมาสร้างเรือนให้ข้าเพิ่มด้วยเจ้าค่ะ”
เสี่ยวตงรีบพยักหน้ารับคำของอวี่หรัน พร้อมทั้งส่งสัญญาซื้อขายของทั้งหมดให้นาง
เรือนหลังแค่นี้จะนอนกันอย่างไร นางไม่ลืมหันไปมองค้อนเสี่ยวตงที่ยืนซึมเป็นแมวป่วยอยู่ที่หน้าเรือนของนาง
“วันนี้พวกท่านก็นอนเบียดกันไปก่อนเจ้าค่ะ ห้องว่างมีเพียงสองห้อง พวกท่านก็แบ่งกันเองเถิด”
อวี่หรันนางให้พวกเขานำของที่ซื้อมาไปเก็บในห้อง แล้วค่อยออกมาพูดคุยกัน หยุนซีก็คลานเล่นอยู่ที่พื้น มองพวกเขาอย่างสนใจ
นางให้ทุกคนแนะนำตัวเสียก่อน จะได้เรียกกันถูก
ลุงถัง เคยเป็นพ่อบ้านมาก่อน ภรรยาของเขาป้าเหมยนางเป็นแม่ครัวเก่า ทั้งสองมีลูกชายหญิงตามมาด้วยอีกสองคน เสี่ยวซานกับเสี่ยวเหยา
ส่วนบุรุษอีกสองคน เฉิงอี้เห็นว่าหน่วยก้านดีเขาจึงซื้อมาให้อยู่กับอวี่หรัน จากข้อมูลของทั้งคู่เคยทำงานเป็นทาสอยู่ในสำนักคุ้มกันภัย วรยุทธ์ติดตัวก็มีไม่น้อย
อวี่หรันนางตั้งชื่อให้ว่า อาหมานกับอาสุ่ย เพราะทั้งสองไม่มีชื่อเป็นของตนเอง
“ป้าเหมยกับเสี่ยวเหยา เรื่องทำอาหารข้าฝากพวกท่านด้วย ลุงถังท่านก็ทำตำแหน่งพ่อบ้านตามเดิม ข้าจะทำการค้า ต่อไปท่านจะเป็นคนออกหน้าให้ข้า”
“ส่วนเสี่ยวซาน อาหมาน อาสุ่ย พวกท่านไปช่วยพี่ตงสร้างเรือนให้พวกท่านก่อน ตอนนี้ข้ายังไม่มีงานใดให้พวกท่านทำ”
ป้าเหมยนอกจากจะทำอาหารและช่วยทำงานบ้านแล้ว เขายังมาช่วยดูแลหยุนซีน้อยให้อีกด้วย เสี่ยวเหยานางก็ทำงานได้ดี เก็บกวาดเรียบร้อยจนอวี่หรันนางพอใจ
“เอ่อ นายหญิง สามีท่านเล่า บ่าวไม่เห็นเลยเจ้าค่ะ” ป้าเหมยเอ่ยถามอย่างสงสัย
“ตายไปแล้ว” นางตอบอย่างไม่ใส่ใจ ใครเป็นบิดาของหยุนซีนางยังไม่รู้เลย สู้บอกว่าตายไปแล้วจะได้ไม่ต้องตอบคำถามเพิ่มดีเสียกว่า
“บ่าวขออภัยเจ้าค่ะ” ป้าเหมยรีบคุกเข่าลงอย่างรวดเร็ว
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ข้าผิดเองที่ไม่ได้พูดเรื่องนี้ตั้งแต่แรก ป้าเหมยต่อไปท่านไม่ต้องคุกเข่าแล้ว คนอื่นก็เช่นกัน ข้างงหัว” ประเดี๋ยวลุกนั่งกันทั้งวัน นางยังเหนื่อยแทน
“เจ้าค่ะ”