บทที่ 7
อีกอย่างนางได้รับบาดเจ็บจนลืมเรื่องราวในอดีตไปทั้งหมด เช่นนั้นต้องมีคนปองร้ายนางอย่างแน่นอน
“หรันหรัน บิดามารดาเจ้าเป็นห่วงเจ้าเหลือเกิน” เขาเอ่ยออกมาอย่างร้อนใจ
“ข้าไม่เหลือความทรงจำเดิม หากพวกเขาอยากพบข้าก็ให้มาที่เหอหนานเถิด อีกอย่างหากท่านต้องการบอกบิดามารดาข้าว่าพบข้าที่นี่ ก็อย่าได้ให้ผู้ใดรู้เพิ่มอีกเป็นอันขาด”
“เพราะเหตุใด”
“ข้าถูกลอบทำร้ายจนสูญเสียความทรงจำ เรื่องนี้ข้าก็รู้ว่าจากคนที่ช่วยชีวิตข้าไว้ หากท่านบอกทุกคนออกไป คนร้ายก็ต้องตามมาสังหารข้าเป็นแน่”
นางยังไม่อยากจะหาเรื่องใส่ตัว เพราะบุตรชายของนางยังเล็กนัก แต่จะให้หนีไปอยู่ที่อื่น นางก็ไม่ได้อยากหนีสักหน่อย
“ได้” ตู้เฉิงอี้ เมื่อหายตื่นตระหนกเรื่องที่นางโดนลอบทำร้ายแล้วก็รับปากนางทันที
“ข้าไปส่งเจ้าที่เรือนได้หรือไม่” เพราะเขาอยากจะรู้ที่อยู่ของนาง
“ไว้รอบิดามารดาข้ามาถึงก่อนเถิด ข้าถึงจะเชื่อว่าท่านเป็นญาติผู้พี่ของข้า อ้อแล้วอย่าคิดที่จะส่งคนติดตามข้า เพราะข้ารู้ตั้งแต่ที่เดินออกมาจากโรงรับจำนำแล้ว” นางหันไปมองเขาอย่างคาดโทษ
ตู้เฉิงอี้ลูบจมูกแก้เก้อ เขานึกไม่ถึงว่าประสาทสัมผัสการรับรู้ของนางจะดีเพียงนี้ ด้วยกลัวว่านางจะหนีไปอีก ตู้เฉิงอี้จึงยอมรับปาก
พร้อมทั้งหากบิดามารดาของนางมาถึงเหอหนานแล้ว เขาจะมาแจ้งที่ร้านที่นางซื้อไว้
“ผู้ใดหรือ” เสี่ยวตงที่ไปจัดการร้านค้าก็กลับมาพบว่านางเพิ่งจะเดินออกมาจากบุรุษผู้นั้น
“ข้าเดินไม่ดูทางจึงชนเขาเข้า ไม่มีอันใด เรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ จะได้กลับเสียที”
อวี่หรันนางคัดนมจะแย่แล้ว เพียงแค่บุตรชายไม่ได้ดูดนมจากเต้าของนางเพียงไม่กี่ชั่วยาม นางก็เหมือนจะไข้ขึ้นจนไม่อยากอยู่ในเมืองต่อแล้ว
เมื่อกลับถึงหมู่บ้าน อวี่หรันนางรู้ว่าตู้เฉิงอี้ไม่ได้ส่งคนติดตามนางมาจริงๆ จึงไปรับบุตรชายที่เรือนของท่านป้าฉีแล้วรีบพากลับเรือน
เมื่อหยุนซีได้ดูดนมจากอกของนาง อาการคัดเต้านมก็ทุเลาลง แล้วเช่นนี้นางจะไปทำสิ่งใดได้นาน คงไม่ต้องถึงกับหอบกันไปด้วย แล้วเปิดนมให้เขาดูดที่ด้านนอกหรอกหรือ
อวี่หรันนางจึงไม่คิดจะเข้าเมืองแล้ว เรื่องอื่นปล่อยให้เสี่ยวตงเป็นคนจัดการ ส่วนนางคอยวางระบบการค้าให้เขาก็พอ
ตู้เฉิงอี้ก็ส่งจดหมายไปที่จวนตระกูลถานในเมืองหลวงทันที พร้อมทั้งบอกให้ท่านอาเขยกับท่านน้าของตนเก็บเรื่องที่ออกเดินทางมาเมืองเหอหนานเป็นความลับไว้ด้วย
อวี่หรันปรึกษาป้าฉีเรื่องที่นางต้องการซื้อคนมาช่วยงานในเรือน จะให้มาพึ่งพาป้าฉีกับเสี่ยวตงอยู่ตลอดก็คงไม่ได้
“เจ้าจะซื้อทาสหรือ” ป้าฉีเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ
อวี่หรันขมวดคิ้วคิด นางอยากหาคนงาน แต่คงหมายถึงทาสอย่างที่ป้าฉีว่ากระมัง
“เจ้าค่ะ คงต้องรบกวนให้ท่านช่วยจัดการให้ด้วยเจ้าค่ะ”
“ได้ๆ ป้าจะให้เสี่ยวตงจัดการให้เจ้า ว่าแต่อยากได้กี่คนเล่า”
“สามคนก็คงพอเจ้าค่ะ”
ป้าฉีรับปากนางพร้อมทั้งบอกเสี่ยวตงเมื่อเขากลับมาที่เรือน เสี่ยวตงก็เห็นด้วยกับอวี่หรัน เพราะเขาคิดว่านางคงต้องการทำสบู่ออกมาวางขายด้วย อีกห้องที่ซื้อไว้เขาจึงไม่ดีใช้ เพียงแต่ซ่อมแซมให้นางเท่านั้น
วันต่อมาเสี่ยวตงก็เข้าเมืองเพื่อไปจัดการร้านที่ซื้อมาใหม่ เมื่อสั่งให้คนงานสร้างตามแบบที่อวี่หรันนางให้มา ตัวเขาก็เดินไปที่โรงค้าทาสเพื่อดูคนให้อวี่หรัน
“เจ้าคือคนที่มากับหรันหรัน เมื่อวานใช่หรือไม่” ตู้เฉิงอี้ ให้คนของตนคอยจับตาดูที่ร้านของอวี่หรันไว้ เมื่อเสี่ยวตงมาดูร้านเขาจึงมาพบเสี่ยวตง
“ใช่ขอรับ ไม่ทราบว่าคุณชายรู้จักอาหรันด้วยหรือขอรับ” เสี่ยวตงเอ่ยถามตู้เฉิงอี้
“ข้าเป็นญาติผู้พี่ของนาง แต่นางจำข้ามิได้ แล้วเจ้ามาทำอันใดที่โรงค้าทาส”
เสี่ยวตงมองประเมินบุรุษตรงหน้าของเขา ดูจากเสื้อผ้าและท่าทาง เขาคงไม่น่าจะหลอกตนได้ อีกอย่างเมื่อวานก็เห็นเขาพูดคุยอยู่กับอวี่หรันนางจริง
“อาหรันนางอยากได้ทาส ไปช่วยงานนางขอรับ”
“เช่นนั้นข้าจัดการเอง แต่ท่านอย่าได้บอกนางเรื่องนี้”