บทที่ 6
อวี่หรันนางไม่ได้รู้ความหมายของหยกที่นางนำมาจำนำเลยว่าสิ่งนั้นคือเครื่องยืนยันตัวตนของนาง
เพียงไม่นานหลงจู๊ก็เดินออกมาจากห้อง พร้อมทั้งนำตั๋วเงินห้าพันตำลึงทองยื่นให้นาง
นางรับมานับแล้วมองหน้าหลงจู๊อยู่ครู่ เพื่อสังเกตว่าเขาโกงนางหรือไม่ แต่เรื่องนี้สร้างความแปลกใจให้กับหลงจู๊อย่างมาก ที่นางไม่มีทีท่าจะตกตะลึงกับจำนวนเงินที่ได้รับมามากมายเช่นนี้
“ขอบคุณ” นางเก็บเข้าอกเสื้อก่อนจะเดินออกจากโรงรับจำนำไปอย่างสบายใจ
“นายท่านให้ตามไปหรือไม่ขอรับ” หลงจู๊เดินเข้าไปถามคนที่อยู่ด้านในห้อง
“ให้คนสืบมาว่านางอยู่ที่ใด” เขาเล่นหยกพกสีดำในมือ พร้อมกับครุ่นคิดว่านางมีเรื่องจำเป็นใดถึงได้นำของสำคัญเช่นนี้มาจำนำ
อวี่หรันเมื่อออกจากโรงรับจำนำนางก็ไปดูร้านที่เสี่ยวตงดูไว้ทันที
“ข้าว่าที่นี่ก็ดีเจ้าค่ะ” ทำเลที่ตั้งก็มีผู้คนเดินกันมากมาย ทั้งยังอยู่ใกล้เหลาอาหาร เหลาสุรา หน้าร้านก็กว้าง หากจะนำของออกมาวางให้ลูกค้าดูก็ได้ อีกอย่างยังมีอีกห้องที่หากนางจะนำสบู่หรือการค้าอย่างอื่นมาขายก็ทำได้เช่นกัน
“ข้าซื้อที่นี่เจ้าค่ะ”
“เงินเจ้าพอหรือไม่” เสี่ยวตงเอ่ยถามอย่างกังวล ของที่นางนำไปจำนำ เขาก็ไม่รู้ว่านางได้เงินมามากเพียงใด
“ข้ามีหน้าที่หาเงิน ท่านจัดการเรื่องของท่านก็พอ”
อวี่หรันนางยังไม่ทิ้งนิสัยเดิมของนาง ที่ไม่ชอบให้ผู้ใดวุ่นวายในส่วนงานของนาง
เสี่ยวตงรับเงินมาจากอวี่หรันแล้วไปจัดการเรื่องซื้อขายร้านค้าทันที อวี่หรันนางเดินเล่นอยู่ในเมืองเพื่อดูของต่างๆ
ระหว่างที่นางเดินเล่นอยู่นั่น มีบุรุษรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าขาวราวกับกระเบื้องเคลือบชั้นดี ดวงตาหงส์เรียวยาวสวยได้รูป แต่อวี่หรันนางเบี่ยงตัวหลบได้ทันทำให้บุรุษผู้นั้นเสียหลักเกือบล้มลง
เขาหันมามองหน้านางอย่างประหลาดใจ แล้วยิ่งเห็นนางมองใบหน้าของเขาอย่างเรียบเฉยราวกับไม่เคยพบกันมาก่อนก็อดที่จะแปลกใจได้
“ขออภัย แม่นางท่านเป็นอันใดหรือไม่”
อวี่หรันมองหน้าเขาพร้อมกับขมวดคิ้วสงสัย เหตุใดนางถึงได้รู้สึกเจ็บหัวใจมากเพียงนี้ แต่สีหน้าของอวี่หรันก็ไม่ได้แสดงความผิดปกติใดออกมา
“ไม่ ข้าขอตัว” นางรู้สึกว่านางไม่สมควรพบเจอบุรุษผู้นี้ ไม่รู้ด้วยเหตุใด แต่สัญชาตญาณบอกนางเช่นนั้น
“ประเดี๋ยวก่อน เจ้าจำข้าไม่ได้หรือ” เขาเอ่ยถามอย่างสงสัย
“ไม่ ท่านมีเรื่องใดอีกหรือไม่” นางหันกลับไปมองเขาด้วยแววตาที่เย็นชา
“หรันหรัน ข้าเฉิงอี้ ญาติผู้พี่ของเจ้าอย่างไรเล่า” เขามองนางด้วยสายตาที่เจ็บปวด
คงมีเพียงแต่สวรรค์ที่รู้ว่าเขาดีใจมากเพียงใดที่เห็นหยกพกของนาง ตอนที่อยู่โรงรับจำนำ
นางหายตัวไปจากเมืองหลวงเป็นปี โดยที่ไม่มีผู้ใดรู้ว่าอยู่ที่ไหน ทั้งบิดามารดาของนางออกตามหาก็ไม่อาจพบตัวนางได้ แต่เขากลับพบนางอยู่ที่เมืองเหอหนาน ห่างจากเมืองหลวงเกือบสามพันลี้ (1ลี้=500เมตร)
หลังจากที่นางแต่งเข้าจวนตระกูลหวัง เขาก็ไม่ได้รับรู้เรื่องของนางอีกเลย จนเมื่อปีที่แล้วเขาเดินทางกลับไปเมืองหลวง ท่านน้าจึงได้บอกข่าวเรื่องที่นางหายตัวไป
เมื่อตู้เฉิงอี้ไปที่จวนของสหายเพื่อถามว่าเหตุใดญาติผู้น้องของตนจึงหายไปได้ ก็พบว่าหวังเหว่ยกงพาญาติผู้น้องของเขาเข้ามาอยู่ในจวนเสียแล้ว หลังจากแต่งอวี่หรันได้เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น
แต่ตัวหวังกงเหว่ยมิได้อยู่ที่จวน เขาเดินทางไปจัดการเรื่องกองทัพที่ชายแดนเหนือ หลีหรูอวี้ ญาติผู้น้องของเขา เพียงบอกว่าทั้งคู่หย่าขาดกันแล้ว อวี่หรันนางบอกจะกลับตระกูลถาน เรื่องอื่นนางไม่รู้เรื่องด้วย
“ข้าจำไม่ได้เจ้าค่ะ แล้วข้าจะเชื่อได้อย่างไรว่าท่านเป็นญาติผู้พี่ของข้าจริง” อวี่หรันเอ่ยถามเขาออกมา
“หากเจ้ากลับไปที่เมืองหลวงกับข้า เจ้าก็จะรู้เรื่องราวทุกอย่างเอง”
“ไม่ ข้าอยากอยู่ที่นี่” นางเอ่ยปฏิเสธทันที เพราะไม่มีความทรงจำของร่างเดิม นางจึงไม่รู้ว่าเหตุใดเจ้าของร่างที่ควรจะอยู่เมืองหลวงถึงได้มาอยู่ที่เมืองเหอหนานได้