บทที่ 14
ตั้งแต่กลับจากตำหนักองค์หญิงสิบสามอ๋องฉางอันก็มีอาการนอนไม่หลับ ภาพน้องสาวในอาภรณ์สีแดงคอยตามหลอกหลอนเขาอยู่ตลอดเวลา ร่างกายเหงื่อออกจนผิดปกติ อ๋องฉางอันรู้สึกว่าตนเองคงไม่สบายเสียแล้วจึงให้องครักษ์เรียกท่านหมอมาดูอาการ
"ทูลท่านอ๋องอาการภายในเป็นปกติเพียงแต่จิตใจอาจสับสนไปบ้าง ช่วงนี้ท่านพบเจอสิ่งใดที่กระทบจิตใจหรือไม่"
"ไม่มี ไม่มีเรื่องอันใด"
เขาพยายามครุ่นคิดไปมาแต่ก็คิดไม่ออก สิ่งที่พูดไม่ได้คือในใจมักจะคิดถึงน้องหญิงในอาภรณ์สีแดงตลอดเวลา เขาคิดว่าเป็นสิ่งนี้ที่ผิดปกติ หรือว่าฤทธิ์ของหินจันทราจะทำให้เขาพลอยมีอาการประหลาดไปด้วยเรื่องนี้เขาจึงไม่อาจบอกท่านหมอได้เพราะเกี่ยวพันไปถึงองค์หญิงสิบสาม
"เช่นนั้นข้าน้อยจะสั่งยาคลายกังวลให้ท่านอ๋อง ดื่มสักวันสองวันจิตใจจะสบายร่างกายดีขึ้น"
"ขอบคุณท่านหมอ"
ครั้นถึงยามค่ำอ๋องฉางอันพยายามข่มตานอนหลังจากได้ยาคลายกังวลจากท่านหมอแล้วเขารู้สึกดีขึ้น
กระนั้นในฝันของเขายังมีองค์หญิงสิบสามมาหลอกหลอน เขาตื่นขึ้นมากลางดึกด้วยหัวใจที่เต้นระทึกในฝันนั้นแสนหวานแต่กลับทำให้เขาหวาดกลัว แท้จริงแล้วภายในใจของเขากำลังคิดสิ่งใดกันแน่ ความสับสนเช่นนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร
หลายวันต่อมา
จวนแม่ทัพวันนี้มีงานใหญ่ยิ่งเพราะเป็นวันเกิดของฮูหยินชราอีกทั้งยังมีการทำบุญแจกจ่ายอาหารให้แก่คนเร่ร่อนและคนยากจนประจำปีของจวน บ่าวไพร่นำอาหาร พร้อมทั้งข้าวสารมาวางไว้ด้านหน้าอย่างเนืองแน่น ผู้คนทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ต่างต่อแถวรับบริจาคกันจนสุดลูกหูลูกตา
ฮูหยินผู้เฒ่าสกุลหยางที่เพิ่งกลับมาจากบำเพ็ญเพียรที่วัดถึงหนึ่งเดือนเต็มกำลังสั่งบ่าวไพร่ให้ตักข้าวตักอาหารใส่ชามอย่างคล่องแคล่ว แม้ปีนี้อายุจะย่างเข้าสู่วัยใกล้เจ็ดสิบปีแล้วแต่เพราะฮูหยินผู้เฒ่าเป็นผู้มีวรยุทธ์กล้าแกร่งร่างกายจึงคล่องแคล่วว่องไว ดูเผินๆคล้ายสตรีสูงวัยที่เพิ่งเข้าสู่วัยห้าสิบเศษๆ เท่านั้นเอง
"หลางเออร์มาแล้วหรือมานี่มาช่วยย่าตักอาหาร"
ฮูหยินผู้เฒ่าเรียกหยางเอ้อหลางผู้เป็นหลานมายืนข้างกาย หยางเอ้อหลางผู้มีใบหน้าเคร่งขรึมสูงส่งอยู่ตลอดเวลากลับดูอ่อนโยนนักเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้เป็นย่า ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มคงเห็นเพียงในเวลานี้
ด้านข้างกายเขานั้นล้วนเป็นสตรีสกุลหยางทั้งสิ้น ประกอบด้วยพี่สะใภ้ ท่านน้า ท่านอา ท่านป้า สตรีทั้งหมดต่างเสียสามีในสงครามเพื่อปกป้องแคว้นต้าชิงให้ปลอดภัยจากศัตรูที่รุกราน ผู้คนที่มาร่วมงานหลายคนเป็นครั้งแรกที่มีโอกาสเห็นคนของสกุลหยางพร้อมหน้า
แม้สกุลหยางจะเกรียงไกรแต่อีกใจพวกเขาก็นึกเวทนาไม่ได้ที่บัดนี้ในสกุลนั้นมีเพียงหยางเอ้อหลางคนเดียวที่เป็นบุรุษ กระทั่งหลานชายสักคนของสกุลยังไม่มีสกุลหยางในอีกมุมมองหนึ่งของชาวบ้านจึงเป็นสกุลที่ต้องคำสาบในเรื่องทายาทสืบสกุล
ด้วยเรื่องราวเป็นเช่นนี้บัดนี้หยางเอ้อหลางจึงเป็นบุรุษเพียงคนเดียวที่เป็นทายาทสกุลหยาง บรรดาแม่ม่ายสกุลหยางจึงห่วงใยเขาประดุจไข่ในหิน บุรุษที่พร้อมด้วยรูปร่างหน้าตาและทรัพย์สินชื่อเสียงเงินทองเช่นนี้ย่อมเป็นที่หมายปองของสตรีในใต้หล้า
ข่าวลือที่สกุลหยางต้องคำสาบนั้นจึงไม่มีผู้ใดสนใจ
แม่สื่อถูกส่งมาที่สกุลตั้งแต่มีข่าวแม่ทัพหยางจะกลับเมืองหลวงไม่ว่างเว้น แต่ฮูหยินชราก็หาได้ตอบรับผู้ใดเข้ามาเป็นหลานสะใภ้ด้วยเหตุผลที่ว่าทั้งหมดต้องให้หยางเอ้อหลางเป็นผู้พิจารณา
ถึงจะล่วงเกินอีกทั้งไม่ไว้หน้าสกุลใหญ่ที่มาทาบทามเป็นจำนวนมาก ฮูหยินชราก็หาได้ใส่ใจในเรื่องนี้อีกทั้งก็ไม่มีผู้ใดกล้าตำหนินางแต่ประการใด
พวกเขานับว่ายอมที่จะกระทำตนเป็นคนหน้าหนา
เมื่อเห็นว่าบัดนี้ฮูหยินชรายังไม่ตัดสินใจรับผู้ใดเข้ามาเป็นหลานสะใภ้ยังไม่ละความพยายามคงวนเวียนส่งแม่สื่อเข้ามาทาบทามไม่ขาด หยางเอ้อหลางผู้นี้ภูมิหลังยิ่งใหญ่ใบหน้าหล่อเหลาเลื่องลือไปแปดแคว้น
คุณหนูในเมืองหลวงจึงยินดีรอคอยเขาขอเพียงมีโอกาสได้พบหน้าแม้สักเล็กน้อยพวกนางต่างคิดว่าตนเองต้องสามารถทำให้หยางเอ้อหลางประทับใจจนอาจสานสัมพันธ์ต่อไปได้