บทย่อ
องค์หญิงสิบสามหลินฮุ่ยหมิน เป็นองค์หญิงตกกระป๋องเติบโตขึ้นมาในตำหนักเทพ มีความลับลึกลับที่ไม่อาจบอกผู้ใดได้ นั่นคือในทุกวันพระจันทร์เต็มดวงนางต้องกลายร่างเป็นสัตว์ต่าง ๆ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มที่มีชีวิตรอดจากสงครามเพียงคนเดียวของสกุลหยาง เมื่อกลับมาจากชายแดนตั้งใจเกษียณอายุออกจากราชการเพื่อใช้ชีวิตในจวนอย่างสงบกับท่านย่าของเขา เขามีคู่หมายคือองค์หญิงใหญ่หลินฉี ที่ฝ่าบาทกำลังจะพระราชทานสำรสให้ แต่จับพลัดจับผลู เกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน ทำให้เขาล่วงเกินองค์หญิงสิบสามต่อหน้าธารกำนัล ฝ่าบาทจึงทรงยกองค์หญิงสิบสามให้เป็นภรรยาของเขาอีกคน แย่แล้ว!!! สิบสาม เจ้าไม่สามารถแต่งงานได้ หากคนผู้นั้นล่วงรู้ความลับของเจ้า คงคิดว่าเจ้าคือปีศาจ อาจจะสังหารเจ้าให้ตายในดาบเดียว องค์หญิงสิบสามจึงดิ้นรนสุดชีวิต เพื่อที่ไม่ต้องแต่งงานกับแม่ทัพหยางผู้นั้น
บทที่ 1
ภายในตำหนักฉงหวาบัดนี้นอกจากจะมีไทเฮาที่ประทับอยู่ภายในแล้ว
ยังมีจินเทียนฮ่องเต้และเต๋อฮองเฮาประทับอยู่อีกด้านของเตียงเตาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
"เสด็จแม่หยางเอ้อหลางกลับจากชายแดนมาครานี้สร้างผลงานอันยิ่งใหญ่ ลูกเห็นว่าควรตอบแทนเขาให้สมเกียรติ"
ไทเฮาแย้มพระพักตร์เยือกเย็นแล้วตรัสว่า
"ฝ่าบาทนับวันอิทธิพลของตระกูลหยางยิ่งมากขึ้น ประชาชนล้วนรักใคร่อีกทั้งตระกูลหยางเสียสละเพื่อแคว้นของเราเพียงใดแม้แต่เด็กแดงยังรู้ อย่าหาว่าแม่ยุ่งเรื่องราชกิจแต่เพราะเป็นห่วงเจ้าจริงๆ จึงอยากให้เจ้าคิดให้ถี่ถ้วน"
"ที่เสด็จแม่กล่าวมาไม่ผิด ตระกูลหยางทำความชอบใหญ่หลวงแต่อำนาจมากเกินไป ขุนนางต่างอยู่ใต้อำนาจแม้ไม่ได้ยุ่งการภายในแต่ทุกคนล้วนเกรงใจ หากปล่อยต่อไปลูกเกรงว่าอาจจะเป็นภัย"
"ในเมื่อเจ้ารู้อยู่แก่ใจควรจะหาวิธีลดทอนอำนาจเสีย"
"ฝ่าบาทเพคะหม่อมฉันคิดว่ามีวิธีที่ตระกูลหยางไม่อาจขัดได้อีกทั้งยังเป็นผลดีต่อพวกเรา"
ฮองเฮาตรัสนิ้วมือเรียวเต่งตึงราวกับสตรีแรกแย้มยกป้านน้ำชาขึ้นรินลงในจอกด้วยท่วงท่าสง่างามแล้วนำถวายแด่ฝ่าบาท
"วิธีการใดเล่าเจ้ารีบพูด"
"อภิเษกอย่างไรเล่าเพคะ" ฮองเฮาตรัสเบาๆ ใบหน้าประดับไปด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน
ฝ่าบาทคล้ายจะชะงักไปก่อนจะแย้มสรวลออกมา
"หลักแหลมมาก หากให้เขาแต่งกับองค์หญิงสักคนครานี้เขาจำต้องสละอำนาจทางการทหารเป็นเพียงราชบุตรเขยของเรา หากเขาไม่ยินยอมก็เท่ากับไม่อยากดองญาติกับราชวงศ์เช่นนี้ก็ถือว่ามีใจคิดไม่ซื่อ วิธีการนี้เรียกว่าไม่กวนน้ำให้ขุ่นแต่ประการใด"
เมื่อได้ยินดังนั้นไทเฮาที่มีสีพระพักตร์เรียบเฉยจึงตรัสขึ้น
"ฝ่าบาทต้องไตร่ตรองให้มากหน่อย กำลังทหารในมือของหยางเอ้อหลางมีถึงห้าแสนนายแต่ละคนล้วนเก่งกาจเป็นนักรบที่แข็งแกร่งยิ่ง หากเขานำกำลังบุกเข้าวังหลวงแม้แต่พระองค์ก็คงเอาชีวิตไว้ไม่ได้ อีกทั้งคนในตระกูลของเขาบุรุษทุกคนได้หลั่งเลือดปกป้องแผ่นดินมาแล้ว ทหารล้วนจงรักภักดีการจะลดทอนอำนาจของเขานั้นไม่ง่ายอีกทั้งต้องทำอย่างไรถึงจะให้ทหารเหล่านั้นเชื่อฟังนี่สิเป็นเรื่องสำคัญ การบีบบังคับให้หยางเอ้อหลางแต่งงานมิใช่จะสร้างคำครหาหรอกหรือ"
ฮ่องเต้มีสีพระพักตร์บ่งบอกว่ากลัดกลุ้มยิ่ง พระองค์ไม่อาจบีบให้หยางเอ้อหลางแต่งงานได้ในตอนนี้ แต่นอกจากวิธีนี้แล้วก็ไม่เห็นหนทางอื่นที่จะลดทอนอำนาจของตระกูลหยางได้อีก อำนาจในมือขุนนางผู้หนึ่งซึ่งมากเกินไปย่อมไม่ดีต่อความมั่นคงของบัลลังก์
"เสด็จแม่ตรัสถูกต้องในความคิดเห็นของเสด็จแม่เช่นนั้นเราควรทำเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ"
"วิธีก็มีอยู่บ้าง" ไทเฮาผู้เป็นเจ้าของอำนาจในวังที่แท้จริงตรัสพลางยกยิ้มเยือกเย็น
"เสด็จแม่โปรดชี้แนะ"
"เรื่องนี้มอบให้ตำหนักเทพจัดการ หากเป็นโองการสวรรค์แม้แต่หยางเอ้อหลางก็ไม่อาจขัด"
ตำหนักหยางชิง
องค์หญิงใหญ่หลินฉีกำลังเลือกอาภรณ์อย่างตั้งใจพร้อมบรรดาองค์หญิงหลายคนที่รุมล้อมบรรยากาศครึกครื้นยิ่ง
"พี่ใหญ่ท่านดูสิผ้าไหมจากแคว้นเป่ยนับเป็นของชั้นเลิศวาสนาพวกข้าช่างดีนักแม้ไม่ได้ใส่วันนี้ได้เห็นกับตาถือว่ามีบุญใหญ่"
"น้องห้าเจ้ากล่าวเช่นนี้พี่เห็นด้วยหากไม่ใช่เพราะเป็นพี่หญิงใหญ่หรอกหรือพวกเราถึงมีวาสนาได้ใส่กัน"
องค์หญิงใหญ่ปิดปากหัวเราะเบาๆ เพราะเป็นพระธิดาองค์โตซึ่งถือกำเนิดจากฮองเฮา ใบหน้างดงามกิริยาเรียบร้อย เก่งกลอนคล่องกวี เรื่องเพลงพิณนั้นเป็นเลิศ สติปัญญาฉลาดหลักแหลมจึงเป็นที่โปรดปรานของฝ่าบาทและไทเฮานัก ดังนั้นของดีทั่วแว่นแคว้นไม่ว่าจะหายากเพียงใดเพียงองค์หญิงหลินฉีเอ่ยปากทุกสิ่งล้วนมาปรากฎตรงหน้าดุจเนรมิต
ในจำนวนสตรีที่กำลังเพลิดเพลินกับผ้าไหมงดงาม กลับมีโฉมสะคราญผู้หนึ่งที่กำลังสนใจเพียงขนมด้านหน้าตนเอง หยิบเข้าปากแล้วเคี้ยวอย่างมีความสุขไม่สนใจแม้กระทั่งชายตาแลผ้าไหมงดงามเหล่านั้น
ความจริงนางชอบสิ่งของสวยงามทุกสิ่ง แต่ต้องข่มใจด้วยไม่อยากให้ตนนั้นเกิดความอยากได้มากเกินไป
"น้องสิบสามเจ้าไม่เลือกไปสักผืนหน่อยหรือ มาพี่หญิงใหญ่จะเลือกให้เจ้าเอง"
"อย่าสนใจน้องสิบสามเลยพี่หญิง ดูนางสินิสัยแปลกประหลาดนัก ไม่สนใจร่ำเรียนจนไทเฮาทรงไม่พอพระทัยเราพี่น้องก็หวังเพียงทุกคนอยู่สบายอย่างสงบ แต่นางวันๆ เอาแต่หาเรื่องคนนั้นทีคนนี้ทีพี่หญิงใหญ่ใกล้ชิดนางมากเห็นทีว่านางจะนำเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจมาให้ในสักวัน" องค์หญิงแปดเอ่ยขึ้น
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินยกยิ้มเย็นแล้วโต้กลับเบาๆ
"พี่แปดท่านยังโกรธข้าอยู่หรือเพียงคุณชายตงหัวที่ท่านมีใจส่งกำไลหยก มาให้ข้าเพื่อตอบแทนที่ข้าช่วยน้องสาวของเขาจากพวกอันธพาลเท่านั้น เหตุใดท่านจึงคิดมากเช่นนี้เพราะคิดมากจึงได้รับโทษอย่างไรเล่า"
องค์หญิงแปดขัดเคืองใจยิ่ง เรื่องที่ผ่านมาระหว่างนางและองค์หญิงสิบสามที่ทำให้นางไม่อยากแม้จะมองใบหน้าน้องสาวคนนี้ ครานั้นองค์หญิงสิบสามแอบลอบออกนอกวังจวบจนได้มีโอกาสไปช่วยน้องสาวของบุรุษที่นางมีใจเดิมทีนางกับคุณชายตงหัวต่างมีใจให้กันจนฝ่ายนั้นจะส่งคนมาทาบทามขอพระราชทานสมรสแล้ว