บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 7 ครอบครัวสกุลฮั่ว

“อ้อจริงสิ จะว่าไปข้าลืมไปอย่างหนึ่งนะ อยู่ที่นี่เจ้าจะมีพี่น้องอีกสามคน มาเถอะข้าจะพาเจ้าไปแนะนำตัว”

“เจ้าค่ะ”

ท่านแม่ทัพเดินนำนางไปยังห้องโถงรับแขกเล็กสำหรับครอบครัวที่จะมารวมตัวกัน ด้านในมีฮูหยินของเขาและบุตรสาวอีกสองคนนั่งรออยู่เพราะวันนี้ท่านแม่ทัพแจ้งแล้วว่าท่านอ๋องจะพาว่าที่พระชายามาที่นี่และทุกคนรู้แล้วว่านางจะมาเป็นบุตรสาวคนสุดท้องของจวนแม่ทัพ

“อันเฟย นี่ฮูหยินของข้า ต่อไปเจ้าก็เรียกนางว่าท่านแม่”

“คารวะท่านแม่เจ้าค่ะ”

“นี่หรือว่าที่พระชายาท่านอ๋อง หน้าตางดงามจริง ๆ”

“ส่วนนี่พี่รองของเจ้า นางชื่อฮั่วชิงอัน”

“ผู้หญิง….พี่รองเป็นสตรีหรอกหรือเจ้าคะ ข้านึกว่า…”

ฮั่วชิงอันหันมามองหน้านางและลุกขึ้น นางสวมชุดเกราะราวกับบุรุษและเดินหน้ามาหานางด้วยสายตาไม่ค่อยพอใจเท่าใดนัก

“ทำไม ข้าเป็นสตรีแล้วเช่นไรงั้นหรือ แน่จริงมาสู้กับข้าสิ”

“ว้าว ชุดเกราะของท่านงดงามมากจริง ๆ ดูสิ ท่านหมุนตัวหน่อย แบบนั้นแหละ ๆ ยอดเยี่ยมไปเลย พี่รองท่านสวมแล้วดูองอาจมากกว่าบุรุษจนคิดว่าข้ามีพี่ชายเสียอีกเจ้าค่ะ ท่านแม่ท่านพ่อท่านว่าจริงหรือไม่เจ้าคะ”

ฮั่วชิงอันทำท่าราวแปลกใจแต่เมื่ออันเฟยกล่าวชื่นชมนางต่อหน้าท่านแม่ทัพและฮูหยินจึงทำให้นางเริ่มพอใจมากขึ้นจนหันมามองให้นางที่ยืนยิ้มและชื่นชมชุดเกราะของนางด้วยใจจริง

“อะฮึ่ม เจ้าจะเป็นน้องสี่ของข้าสินะ ข้าชิงอันเรียกข้าพี่รองเถอะ ต่อไปไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมารังแก ข้าเป็นพี่สาวเจ้าข้าปกป้องเจ้าเอง”

“ลำบากพี่รองแล้วเจ้าค่ะ ชุดท่าน…งดงามมากจริง ๆ ข้าชอบยิ่งนัก”

“ข้ายังมีอีกหลายชุดหากว่าเจ้าอยากเห็น”

“จริงหรือเจ้าคะ ให้ข้า…”

“อะแฮ่ม!! พี่รอง ดูเหมือนว่าพี่รองจะลืมไปเลยนะเจ้าคะว่าท่านพ่อท่านแม่อยู่ตรงนี้”

“นั่นหลินอี น้องสามของข้าเองอย่าได้ถือสานางเลย นางปากร้ายไปเช่นนั้นเองแต่จริง ๆ ไม่มีอะไรหรอก”

“พี่รอง ท่านซุบซิบกับผู้อื่นต่อหน้าข้าอีกแล้ว!! ท่านพ่อ!!”

“เอาน่า ๆ อันเฟย นี่พี่สามของเจ้า ฮั่วหลินอี”

“คารวะพี่สามเจ้าค่ะ”

“คารวะอะไรกัน ได้ข่าวว่าเจ้าก็ยี่สิบเท่าข้า พี่สงพี่สามอันใดกัน”

“พี่สาม ข้าให้เกียรติท่านเพราะว่าท่านเป็นถึงบุตรท่านแม่ทัพ สวยกว่าข้าและงดงามกว่าข้า ในเมื่อข้ามาทีหลังย่อมต้องเชื่อฟังพี่สามถึงจะถูก”

ดูเหมือนว่าอันเฟยจะเข้าใจวิธีการเอาชนะใจผู้อื่นในจวนแม่ทัพเป็นอย่างดี แม้ว่าฮั่วหลินอีที่มีใจนึกชอบท่านอ๋องอยู่แต่นางก็อดจะยิ้มกับคำชื่นชมของคนตรงหน้าไม่ได้ อย่างน้อยนางก็ยิ้มออกมาได้แล้ว

ฮั่วฮูหยินเองก็รู้สึกเอ็นดูบุตรสาวคนใหม่ไม่น้อยเพราะกิริยามารยาทและการเอาตัวรอดของนางนั้นนับว่าถูกใจนางยิ่งนัก

“นี่น้องสี่เจ้าบอกว่าอยากได้ชุดเกราะมิใช่หรือ ไปห้องข้ากัน”

“พี่รอง!! แล้วข้าเล่า”

“ก็เจ้าบอกว่าไม่ชอบมิใช่หรือ”

“พี่รองเจ้าคะ ไหน ๆ ก็จะไปแล้ว พี่สามเราไปด้วยกันเถอะ ท่านพ่อ ท่านแม่ข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะ”

“นี่เจ้า!! มาจับแขนข้าทำไม ปล่อยเลยข้าเดินเองได้”

“ไปเถอะ ๆ พี่สามอย่าบ่นเลยเจ้าค่ะ พี่รองไปกัน นำทางเลยเจ้าค่ะ”

“ก็บอกว่าไม่ต้องดึง โอ๊ย อย่ามากอดข้านะ อึดอัด”

ห้องของชิงอัน

“จริงหรือ เจ้าบอกว่า เป็นแค่พระชายาจำเป็นงั้นหรือ งั้นก็ไม่ต้องแต่งจริง ๆ น่ะสิ”

“นี่พี่สาม เจ้าอย่าบอกนะว่าเจ้าชอบอีตาอ๋องน้ำแข็งนั่น”

“จะบ้าหรือ ว่าเข้าไปโน่นชอบเชิบอะไรกัน น่าเกลียด”

“อืม นางชอบท่านอ๋อง”

“พี่รอง!! ข้าไม่พูดกับพวกเจ้าแล้ว”

ทั้งสองแอบนึกยิ้มกับความเอียงอายของบุตรคนเล็กของจวนแม่ทัพ ก่อนหน้านี้นางเป็นบุตรคนเล็กมาโดยตลอด บัดนี้กลับมีบุตรคนที่สี่โผล่มา แม้ว่าจะชั่วคราวแต่นางก็ไม่ชอบอันเฟยเท่าใดนักแต่ก็รู้ตัวดีว่าท่านอ๋องก็คงไม่ได้ชอบนางเช่นกัน

“พี่สาม เจ้ารู้หรือไม่ว่าท่านอ๋องนั่นฆ่าคนได้นะ”

“ฆ่าคนงั้นหรือ เจ้าเคยเห็น…”

“ใช่สิข้าเคยเห็น ไม่อย่างนั้นเขาจะเลือกข้าเป็นพระชายาจำเป็นนี่หรือ”

“งั้น…เขาก็โหดมากเลยน่ะสิ”

“เจ้าดูสายตาเขาแล้วคิดว่าอย่างไรเล่า”

“ก็ น่าค้นหา สุขุมและ….นี่!! เจ้าหลอกถามข้า”

“ฮ่า ๆ เจ้านี่นะน้องสาม มัวเมาแต่รูปหน้าดุจพญาเซียนนั่นแต่กลับไม่รู้ พี่ใหญ่เคยเล่ามาเขาน่ะฟันคอข้าศึกขาดสะบั้นโดยไม่กะพริบตาแม้แต่นิดเดียว ขนาดขุนพลแม่ทัพต่างแดนเมื่อรู้ว่าท่านอ๋องออกศึกด้วยตนเองก็หวั่นใจจนล่าถอยเลยล่ะ”

“พี่รอง…ท่านอ๋องโหดเหี้ยมถึงเพียงนั้นเลยหรือเจ้าคะ มิน่าเล่าหานจินซือผู้นั้นถึงได้เปลี่ยนใจไปเลือกองค์รัชทายาทแทน”

“เหอะ พี่ใหญ่บอกว่าพอทราบข่าวว่าท่านอ๋องบาดเจ็บและอาจจะไม่รอด แม่นั่นก็หันไปหาองค์รัชทายาททันที แพศยาเช่นนั้นก็สมควรแล้ว อีกคนก็ขี้ขลาดหัวหดอีกคนก็ใช้ความงามยั่วบุรุษและเห็นแก่ผลประโยชน์ของตัวเอง หรือเจ้าไม่ทันเห็นสีหน้าของนางวันที่ท่านอ๋องกลับมาถึงเมืองหลวง”

“พี่รอง ท่านหมายถึงพระชายางั้นหรือเจ้าคะ”

“ก็ใช่น่ะสิ พอเห็นหน้าชินอ๋องแม่นั่นก็แทบเข่าทรุด คงนึกไม่ถึงว่าท่านอ๋องจะรอดมาได้กระมังน่าสมเพชชะมัด ข้านี่แหละเป็นคนหนึ่งที่คิดว่าท่านอ๋องน่าจะได้เจอคนที่ดีกว่านี้ แต่คาดไม่ถึงเลยว่าจะเลือกทำเช่นนี้ นี่อันเฟย เจ้าคิดเช่นไรถึงได้รับทำเช่นนี้”

“นั่นสิอันเฟย เจ้าบอกเองว่าเขาโหดเหี้ยมแล้วทำไมต้องรับทำงานนี้เล่า”

อันเฟยหันไปมองทั้งคู่ ในตอนนี้คงถือว่าเป็นครอบครัวเดียวกันได้แล้วเพราะท่านแม่ทัพเองก็ยอมเล่าทุกอย่างให้คนในบ้านฟัง นั่นแสดงว่าพวกเขาเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและรักษาสัจจะ

“เจ้าไม่ต้องห่วง ข้ากับพี่ใหญ่เป็นทหารในกองทัพขึ้นตรงกับท่านอ๋อง ท่านพ่อเป็นอาจารย์ของท่านอ๋อง ทุกเรื่องในจวนนี้ไม่มีพุ่งออกจากประตูจวนไปได้นอกจากหัวของผู้ที่กล้าพูดออกไป”

“ข้าก็ไม่ได้อยากรับปาก เพียงแต่ว่าบังเอิญพบเขาตอนที่ตามจับคนร้ายที่ฆ่าสตรีเก้าศพนั่นจนพบเลยได้รู้จักท่านอ๋องโดยบังเอิญ”

“นี่เจ้า…..เจ้าเป็นคนจับคนร้ายนั่นได้…งั้นหรือ”

“หลินอี….เจ้าเป็นอะไรไปน่ะ”

อันเฟยหันไปมองฮั่วหลินอีที่เริ่มหน้าซีดและมือไม้สั่นเมื่อมองหน้าอันเฟยอีกครั้ง แม้แต่ฮั่วชิงอันเองก็หันมามองนางอย่างไม่เชื่อสายตาเช่นกัน

“เจ้า…เมื่อครู่นี้เจ้าพูดว่าเจ้าเป็นคนที่จับเจ้าคนร้ายฆ่าคนเก้าศพนั่น จริง ๆ งั้นหรือ”

“ใช่ ข้าเป็นผู้ล่อจับมันด้วยตัวเอง ท่านอ๋องเองก็ออกติดตามมันเช่นกันและเป็นคนที่ช่วยข้าจับได้ หลังจากนั้นข้าจึงมอบตัวมันให้ท่านอ๋องจัดการต่อ ว่าแต่พวกท่านรู้จักกับคนร้ายงั้นหรือ”

เมื่อพูดมาถึงตอนนี้ พี่รองหันกลับไปมองที่น้องสามที่กำลังร้องไห้น้ำตาไหลรินอยู่อย่างเงียบ ๆ อันเฟยเองก็พึ่งหันไปมองนางเช่นกันจึงได้ตกใจ หรือว่านางจะจับคนร้ายผิดคน หรือว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่

“หลินอี เจ้า…ไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่”

“ไม่หรอก นางแค่ดีใจน่ะ เพราะเจ้าคนชั่วนั่นฆ่าเพื่อนสนิทของน้องสามไปเป็นศพที่เจ็ด ก่อนที่เจ้าจะจับมันได้”
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel