

The Follow Love 3. ที่ฝึกงานของพราวมุก
The Follow Love 3.
ที่ฝึกงานของพราวมุก
ณ มหาวิทยาลัย...
“พราว อาจารย์หญิงเรียกหาน่ะ” เพื่อนร่วมคลาสของพราวมุกที่เป็นนักศึกษาทุนเช่นเดียวกันกับเธอเดินเข้ามาหา แล้วเอ่ยบอกธุระที่ได้รับมอบหมายมาจากอาจารย์ให้พราวมุกฟังทันที
“อาจารย์หญิงเหรอ?” พราวมุกถามขึ้นเพื่อความแน่ใจ
“ใช่ รีบไปนะอาจารย์รออยู่” ซึ่งเพื่อนคนนั้นก็พยักหน้ายืนยัน
“ได้ ขอบใจที่มาบอกนะ” พราวมุกบอกขอบคุณเพื่อนแล้วยิ้มให้เล็กน้อย
“อาจารย์เรียกแกทำไมอะ?” พายอาร์ที่นั่งอยู่ด้วยถามเพื่อนสนิทของเธอด้วยความแปลกใจ
“เรื่องที่ฝึกงานละมั้ง” พราวมุกคิดสักพักแล้วพูดขึ้น เพราะอาจารย์หญิงที่ว่าคืออาจารย์ที่ดูแลเด็กทุนปีสี่ทุกคนของคณะมนุษยศาสตร์ ซึ่งก็คือคณะที่พราวมุกกำลังศึกษาอยู่นั่นเอง
“จริงด้วย นี่แกอย่าลืมถามอาจารย์นะว่า ถ้าแกอยากจะมาฝึกกับฉัน อาจารย์พอจะอนุญาตไหม” พายอาร์นึกขึ้นได้ว่าพราวมุกยังไม่มีที่ฝึกงานเลย จึงบอกให้เพื่อนไปถามอาจารย์ด้วยเลยว่า สามารถเลือกที่ฝึกงานเองได้ไหม ถ้าได้ เธอจะได้มีเพื่อนไปฝึกด้วยกัน
“ฉันว่าคงไม่ได้หรอก แล้วที่เรียกฉันไปนี่ก็คงมีที่ให้ฉันฝึกงานแล้วแน่นอน” แต่พราวมุกไม่ได้คิดอย่างนั้น เธอคิดว่าที่อาจารย์เรียกไปพบครั้งนี้ ก็คงจะเรียกไปคุยเรื่องที่ฝึกงาน เผลอ ๆ อาจารย์ก็อาจจะมีที่ให้เธอฝึกงานอย่างเป็นทางการแล้วก็ได้
“เฮ้อออ เสียดายอ่ะ” พายอาร์ทำหน้าเซ็งขึ้นมาทันทีที่ได้ยินประโยคก่อนหน้าของคนข้างกาย
“เอาน่า ไม่ได้ฝึกงานที่เดี๋ยวกัน วันหยุดก็นัดเจอกันได้ ฉันไปหาอาจารย์ก่อนนะ” พราวมุกจึงพูดปลอบเพื่อนแล้วขอตัวไปพบอาจารย์หญิงที่ห้องทำงานของอาจารย์
“อื้อ”
พราวมุกเดินมาถึงหน้าห้องพักของอาจารย์แล้วก็ยกมือขึ้นเคาะเพื่อขออนุญาตเข้าไปด้านใน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เข้ามา”
เมื่อได้ยินเสียงอนุญาตดังมาจากด้านในห้องแล้ว พราวมุกก็รีบเปิดประตูเข้าไปอย่างรวดเร็ว
“สวัสดีค่ะอาจารย์” เธอปิดประตูแล้วยกมือไหว้อาจารย์ที่นั่งอยู่ด้วยความนอบน้อม
“จ้ะ มานั่งสิจ๊ะพราวมุก” อาจารย์หญิงรับไหว้ลูกศิษย์แล้วเรียกให้เธอไปนั่งทางฝั่งตรงกันข้ามที่ว่างอยู่ทันที
“อาจารย์เรียกหนูมามีอะไรหรือเปล่าคะ?” พราวมุกนั่งลงแล้วถามขึ้นด้วยความสนิทสนม เพราะพราวมุกเป็นเด็กทุนพิเศษที่อาจารย์หญิงดูแลตั้งแต่เข้ามาเรียนวันแรก และด้วยความมีน้ำใจ ช่วยเหลืองานทุกอย่าง ทำให้เธอค่อนข้างจะสนิทกับอาจารย์หญิงเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
“เรื่องที่ฝึกงานของเธอน่ะ อะนี่...แบบฟอร์มสมัครเข้าทำงานที่ PDN Electric” อาจารย์หญิงยื่นเอกสารที่เธอเตรียมไว้แล้วส่งให้ลูกศิษย์ตรงหน้าดูรายละเอียดอื่น ๆ ที่ปรากฏอยู่ในเอกสารแผ่นนั้น
พราวมุกรับเอกสารมาเปิดอ่านดู สายตาของเธอไล่อ่านไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งมาสะดุดที่ตำแหน่งที่เธอจะได้รับเมื่อเข้าไปฝึกงาน
“ผู้ช่วยเลขาเหรอคะ?” เธอเงยหน้าขึ้นถามอาจารย์เพื่อความแน่ใจ
“ใช่จ้ะ พอดีทางบริษัทเขาส่งมา แล้วอาจารย์คิดว่าเหมาะกับเธอ เธอคิดว่ายังไงล่ะ? โอเคกับตำแหน่งนี้หรือเปล่า” อาจารย์หญิงพยักหน้ารับแล้วอธิบายให้พราวมุกฟังคร่าว ๆ เพราะทางบริษัทดังกล่าวติดต่อมาว่าต้องการผู้ช่วยเลขาที่ใช้ภาษาได้ดี มีวินัย อาจารย์หญิงเห็นแล้วก็ไม่มองใครเลยนอกจากพราวมุก เพราะคุณสมบัติเหล่านั้นคือสิ่งที่พราวมุกล้วนมีทั้งสิ้น
“หนูจะทำได้เหรอคะ?”
พราวมุกถามขึ้นด้วยความไม่มั่นใจ เพราะว่าเธอไม่ได้เรียนเกี่ยวกับบริหารมาโดยตรง เธอเรียนเกี่ยวกับภาษา จริงอยู่ที่ทางนั้นต้องการคนเก่งภาษา แต่งานเอกสารสำหรับการเป็นผู้ช่วยเลขาก็ต้องทำได้เหมือนกัน งานแบบนั้นเธออาจจะทำไม่ได้ดีเท่าคนที่เรียนมาโดยตรงก็ได้
“งานก็ไม่ได้ยากหรอก แต่เขาต้องการผู้ช่วยที่เก่งภาษาน่ะ เธอเลยเป็นตัวเลือกที่ดีของอาจารย์ แต่ที่ห้างคาเทียร์ก็ติดต่อมานะ ถ้าเธออยากจะไปฝึกกับเพื่อนก็ได้ อาจารย์ไม่ว่าอะไรหรอก” อาจารย์หญิงยิ้มให้กับความอ่อนน้อมถ่อมตนของลูกศิษย์ แล้วก็ยังมีตัวเลือกให้กับพราวมุกอีกด้วย เพราะว่านอกจากบริษัทที่เธอเลือกให้พราวมุกแล้ว ยังมีห้างดังที่เป็นธุรกิจของครอบครัวเพื่อนสนิทของพราวมุกอย่างพายอาร์ติดต่อมาด้วย
“ห้างคาเทียร์เหรอคะ?” พราวมุกทวนคำของอาจารย์ด้วยความแปลกใจ เพราะห้างที่ว่านี่คือห้างของพายอาร์แต่ก่อนหน้านี้พายอาร์ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลย และดูท่าแล้วเพื่อนเธอจะไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำไป
“จ๊ะ” อาจารย์พยักหน้ายืนยัน
“ถ้าอย่างนั้นหนูขอไปฝึกที่อาจารย์เลือกให้ค่ะ ต้องทำยังไงบ้างคะ?”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น พราวมุกก็ตัดสินใจเลือกบริษัทที่อาจารย์หาให้ทันที เพราะเธอรู้ดีว่าใครเป็นคนส่งเรื่องมาขอเธอไปฝึกงานที่ห้างคาเทียร์
พีรดลหรือพี เขาเป็นพี่ชายของพายอาร์ ที่พราวมุกรู้จักตั้งแต่มัธยม พายอาร์เป็นเพื่อนคนเดียวที่คบกับพราวมุก เพราะพราวมุกเป็นเพียงเด็กทุน ทำให้โดนรังเกียจมาตั้งแต่เด็ก พราวมุกรู้ว่าพีรดล ไม่ได้คิดกับเธอแค่เพื่อนน้องสาว เธอจึงพยายามรักษาระยะห่างมาโดยตลอด ครั้งนี้เธอก็ไม่ลังเลที่จะออกห่างจากพีรดล เพราะไม่อยากให้มีปัญหาตามมาทีหลัง เธอรู้ว่าครอบครัวของเขาเตรียมคนที่จะมาเป็นภรรยาไว้ให้เขาแล้ว
“งั้นก็เอาเอกสารไปกรอกใบสมัครและทำเรซูเม่ จากนั้นก็ไปยื่นที่บริษัทด้วยตนเอง อ๋อ...โพสต์อิทด้านหน้าคือเบอร์โทรของเลขาที่ต้องการผู้ช่วยนะ ถ้ามีปัญหาอะไรก็โทรสอบถามเขาได้” อาจารย์หญิงรู้ว่าลูกศิษย์เลือกบริษัทที่เธอหาให้ก็ยิ้มพอใจ แล้วก็อธิบายขั้นตอนให้พราวมุกฟัง
“ค่ะ” พราวมุกพยักหน้ารับเบา ๆ
“มีอะไรสงสัยอีกไหม?” อาจารย์ถามขึ้นอีกครั้ง
“ไม่มีค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ไปเรียนได้จ้ะ อาจารย์ไม่มีอะไรเพิ่มเติมแล้ว” อาจารย์ยิ้มแล้วอนุญาตให้พราวมุกออกไปได้
“ขอบคุณนะคะอาจารย์” พราวมุกยกมือไหว้ขอบคุณแล้วเดินออกมาจากห้องพักของอาจารย์หญิงแล้วก็เดินกลับไปที่ห้องเรียนของตนเอง
“ว่าไงแก?” เมื่อเห็นเพื่อนสนิทเดินเข้ามาแล้ว พายอาร์ก็รีบถามขึ้นด้วยความอยากรู้ทันที
พราวมุกไม่ตอบ แต่ยื่นเอกสารในมือให้เพื่อนไปอ่านด้วยตัวเอง
“อะไรอะ?” พายอาร์รับเอกสารไปแล้วถามขึ้น แต่พราวมุกไม่ตอบ เธอจึงเปิดซองเอกสารอ่านเอง
“บริษัท PDN? คุ้น ๆ นะ” เมื่ออ่านชื่อบริษัทแล้วพายอาร์ก็ขมวดคิ้วสงสัย เพราะชื่อบริษัทนี่มันคุ้นตาเธอเหลือเกิน
“บริษัทนำเข้าและผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าน่ะ” พราวมุกจึงเฉลยให้เพื่อนรู้ และนึกขึ้นได้ด้วยว่าบริษัทนี้ทำเกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้า ยังไงก็ต้องมีสินค้าวางขายที่ห้างของเพื่อนเธออยู่แล้ว
“อ๋อ มิน่าล่ะถึงคุ้น ๆ เป็นคู่ค้าของที่บ้านฉันเอง นี่แกต้องไปฝึกงานที่บริษัทนี้เหรอ?” ทำให้พายอาร์นึกขึ้นได้ว่านี่เป็นบริษัทที่ส่งเครื่องใช้ไฟฟ้าไปวางขายที่ห้างของเธอนั่นเอง
“ใช่” พราวมุกพยักหน้ารับ และไม่ได้บอกเพื่อนด้วยว่าที่จริงอาจารย์ให้เธอเลือกได้ว่าจะไปฝึกงานกับเพื่อนได้ แต่เธอปฏิเสธไป
“ถ้าอย่างนั้นแกก็ไม่ได้ไปฝึกกับฉันน่ะสิ” พายอาร์ว่าขึ้นอย่างเซ็ง ๆ
“แล้วแกทำไมไม่ให้พี่ชายแกติดต่อมาขอตัวฉันกับทางมหาวิทยาลัยล่ะ?” พราวมุกจึงลองหยั่งเชิง ว่าเพื่อนสนิทไม่รู้เรื่องจริง ๆ
“จริงด้วย โอ๊ยยย พายอาร์ ทำไมคิดไม่ถึงนะ นี่ถ้าฉันให้พี่พีติดต่อมาขอรับแกไปฝึกงานที่ห้างด้วย แค่นี้ก็ได้แล้ว ทำไมฉันถึงคิดไม่ได้นะ”
ซึ่งพอได้ยินคำพูดของพราวมุก พายอาร์ก็ถึงกับร้องขึ้นอย่างเสียดาย ทำให้พราวมุกมั่นใจว่าเพื่อนสนิทไม่รู้เรื่องนี้อย่างแน่นอน
“แกว่าถ้ายื่นมาตอนนี้จะทันไหม?” พายอาร์หันไปถามพราวมุกเพื่อขอความคิดเห็นจากเธอ
“ไม่ทันแล้ว เพราะฉันตกลงกับอาจารย์ไปแล้ว ย้ายไปที่อื่นไม่ได้แล้วล่ะ” พราวมุกไม่รอช้ารีบปฏิเสธคำถามของเพื่อนรักออกไปอย่างไม่ลังเล เพราะเธอนั้นได้ตอบตกลงที่จะไปฝึกงานกับบริษัท PDN เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“จบกัน” พายอาร์ฟุบหน้าลงบนโต๊ะอย่างหมดหวังก่อนจะส่งเสียงร้องในลำคอออกมาเบา ๆ ทำนองว่าเสียดาย
พราวมุกส่ายหน้าให้กับท่าทีของเพื่อนและไม่ได้พูดอะไรออกไป
“แล้วนี่แกต้องทำยังไงต่อ หรือแค่รอไปฝึกงานได้เลย?”
เมื่อทำอะไรไม่ได้แล้วพายอาร์จึงต้องปลง แล้วถามถึงสิ่งที่เพื่อนต้องทำก่อนไปฝึกงาน เพราะตัวเธอทางพี่ชายจัดการทุกอย่างให้หมดแล้ว จึงไม่ได้ต้องทำอะไรเองเลยสักอย่างเดียว พอถึงวันก็แค่เดินไปฝึกงาน หรือแม้แต่จะไม่ไปฝึกงานก็ผ่านฉลุยอยู่ดี
“ฉันต้องกรอกแบบฟอร์มและไปยื่นเอกสารที่บริษัทก่อนน่ะ” พราวมุกบอกแล้วหยิบเอาเอกสารมาเก็บไว้
“แล้วแกจะไปวันไหน? เดี๋ยวฉันพาไปเอง” พายอาร์อาสาพาเพื่อนสนิทไปเอง เธอจะไปดูลาดเลาด้วยว่าบริษัทที่เพื่อนจะไปฝึกงานเป็นยังไงบ้าง
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันไปเองก็ได้ ไม่ต้องรบกวนแกหรอกน่า” พราวมุกปฏิเสธแทบจะทันที เพราะเกรงใจเพื่อนสนิทอยู่มากเลยทีเดียว
“ไม่ได้ ให้ฉันพาไปน่ะดีแล้ว แกไม่ต้องมาเกรงใจเลยนะ”
แต่ทว่าพายอาร์กลับไม่ยอม ยืนกร้านจะเป็นคนพาพราวมุกไปส่งด้วยตัวเอง ทั้งหมดทั้งมวลก็เพราะเป็นห่วงตามประสาเพื่อนสนิทที่คบหากันมานาน
“ก็ได้ คงต้องรบกวนแกแล้วล่ะ” พราวมุกจึงต้องยอมรับความหวังดีของเพื่อนสนิทไว้ เพราะจนปัญญาที่จะปฏิเสธอีกฝ่ายแล้วจริง ๆ
“ไม่มีปัญหาจ้ะเพื่อนรัก แกนัดวันมาได้เลยนะ เดี๋ยวฉันพาไป” พายอาร์ยิ้มพอใจก่อนจะพูดขึ้นด้วยความอารมณ์ดี
