บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 ต้องใจหญิงงาม

บทที่ 3

ต้องใจหญิงงาม

หลี่หนิงอ้ายเดินออกมาจากกระโจมแล้วมุ่งหน้าไปยังคอกสัตว์ที่มีทหารคอยดูแลอยู่ มือเรียวบางเข้าไปลูบหลังของเจ้า ‘จงเซ่อ’ ม้าพันธุ์เหงื่อโลหิตสีน้ำตาลทองแดง ที่เสด็จลุงจวิ้นอ๋องเป็นผู้ประทานให้เมื่อวันเกิดปีที่ 17 ของนาง

“คุณหนูจะร่วมล่าสัตว์ด้วยหรือขอรับ”

นายทหารที่คอยดูแลม้าลอบเหลือบมองหลี่หนิงอ้ายด้วยความกังขา ตัวเขานั้นพึ่งจะเข้ามาประจำการที่เมืองหลวง จึงยังไม่ค่อยรู้จักเหล่าเชื้อพระวงศ์และคุณหนูคุณชายในเมืองหลวงนัก แต่จากการแต่งกายและมีสาวใช้ติดตามมาด้วย เกรงว่าคุณหนูท่านนี้คงจะเป็นคุณหนูจากจวนขุนนางเป็นแน่

“ใช่ ข้าจะขี่ม้าตัวนี้”

“เอ่อ...ข้าน้อยต้องขออภัยคุณหนูด้วยขอรับ ม้าตัวนี้เป็นม้าหายากทั้งยังเป็นม้าของคุณหนูหลี่ เกรงว่าคุณหนูต้องเลือกม้าตัวใหม่แล้วขอรับ”

“ข้านี่แหละคุณหนูหลี่หนิงอ้าย” เสียงหวานเอ่ยดังฟังชัด นายทหารผู้นั้นที่ได้รู้จักตัวตนของหลี่หนิงอ้าย รีบค้อมศีรษะขออภัยในความไม่รู้ของตน

“ขออภัยคุณหนูหลี่ด้วยขอรับ ข้าน้อยไม่ทราบ”

“ไม่เป็นไร เจ้าจูงเจ้าจงเซ่อออกมา”

“ขอรับ ขอรับ”

นายทหารผู้นั้นรีบเดินเข้าไปยังคอกม้า แล้วจูงเจ้าจงเซ่อออกมา พลางยื่นเชือกจูงม้าให้กับหลี่หนิงอ้ายทันที

“ขอบใจเจ้ามาก ซูมี่”

หลี่หนิงอ้ายหันไปเรียกซูมี่ จากนั้นซูมี่จึงยื่นเงินตำลึงทองให้ทหารผู้นั้นหนึ่งก้อนทอง ทหารผู้นั้นรับมาด้วยความยินดี เขารีบคารวะขอบคุณหลี่หนิงอ้ายเป็นการใหญ่

ร่างสูงสะโอดสะองกระโดดขึ้นไปบนหลังของเจ้าจงเซ่ออย่างคล่องแคล่ว มือเรียวบางจับบังเหียนม้าไว้แน่น ก่อนจะไปนางหันมาสั่งความกับซูมี่

“ข้าจะไปสมทบกับพี่รอง เจ้าไปคอยดูแลท่านแม่ เย็นนี้ข้าจะตุ๋นน้ำแกงกระต่ายป่า” เสียงหวานเอ่ยอย่างมั่นใจ

“เจ้าค่ะคุณหนู ดูแลตนเองด้วยนะเจ้าค่ะ”

“อืม”

หลี่หนิงอ้ายกระตุกบังเหียนม้า แล้วควบขี่เจ้าจงเซ่อพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วดั่งสายลม นายทหารที่เฝ้าดูอยู่ถึงกับมองค้างกับการควบขี่ม้าที่คล่องแคล่วว่องไวของหลี่หนิงอ้าย ทั่วทั้งเมืองหลวงจะหาสตรีชนชั้นสูงที่ขี่ม้าด้วยท่าทางเช่นนี้คงมีจนนับนิ้วได้

“พี่รอง!”

“มาได้เสียที พี่คิดว่าเจ้าจะไม่มาเสียแล้ว”

หลี่หมิงเฟยยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าหลี่หนิงอ้ายขี่ม้ามาทางนี้ เขานั้นได้นัดหมายกับนางว่าจะพาไปล่ากวางด้วยกัน

“คราแรกข้าก็จะไม่มาแล้วเจ้าค่ะ แต่ท่านแม่อยากให้ข้ามาสนุกจึงได้พูดหว่านล้อมข้า จนข้าเปลี่ยนใจ”

“ช่างเถอะๆ รีบไปกัน เดี๋ยวจะไปเจอขบวนของพวกองค์ชายเข้า”

“พี่รองนำเลยเจ้าค่ะ”

สองร่างควบขี่อาชามุ่งหน้าเข้าสู่ป่าคำราม จุดหมายคือการล่ากวาง ทั้งสองขี่ม้ากันด้วยความสนุกเพลิดเพลิน แม้จะบอกว่าจะมาล่ากวางแต่เมื่อเจอกวาง ทั้งสองกลับเพียงมองดูพวกมันวิ่งหนีเข้าไปในป่า หาได้ไล่ตามไปยิงมันไม่

ขณะที่ทั้งสองกำลังเพลิดเพลินกับการขี่ม้า ชี้มือชวนดูเหล่าสรรพสัตว์นั้น ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าทั้งสองได้ตกอยู่ในสายตาของคนกลุ่มหนึ่ง นัยน์ตาคมดุจ้องมองร่างเล็กของหลี่หนิงอ้ายที่ขี่ม้าได้อย่างคล่องแคล่ว หัวเราะกับสิ่งที่บุรุษอีกคนกล่าวออกมา จากนั้นก็พากันขี่ม้าหายไปจากครรลองสายตา

“ไปสืบมา” เสียงทุ้มเข้มเอ่ยสั่งการ ชายชุดดำอีกคนจึงค้อมศีรษะแล้วทะยานตัวหายไปทำตามคำสั่งทันที

หลี่หมิงเฟยขี่ม้านำหน้าจนไปพบกับขบวนล่าสัตว์ของพวกองค์ชายต่างแคว้นเข้า ที่เขารู้ก็เป็นเพราะด้านหน้ามีหลี่หมิงหลงผู้พี่ชายใหญ่ควบม้านำหน้ามาทางนี้

“อ้ายเอ๋อร์ เหตุใดเจ้าถึงมาตรงนี้เล่า” หลี่หมิงหลงเอ่ยถามอย่างแปลกใจ

“พี่รองพาข้ามาล่ากวางเจ้าค่ะ แต่ข้าอยากขี่ม้าเล่นมากกว่า จึงไม่ได้ยิงกวางแม้แต่ตัวเดียวเลยเจ้าค่ะ แล้วพี่ใหญ่เล่าเจ้าคะ”

“พี่กำลังไปล่าเสือขาว”

“เสือขาวหรือเจ้าคะ ข้าขอไปด้วยได้หรือไม่” หลี่หนิงอ้ายหันมาส่งยิ้มดวงตาพราวระยับใส่หลี่หมิงหลง

“ย่อมได้ เจ้าก็อยู่ใกล้ๆ พี่ไว้ เจ้าด้วยอาเฟย”

หลี่หมิงหลงเอ่ยอนุญาต ทั้งยังหันไปกำชับสั่งความ ให้หลี่หมิงเฟยคอยดูแลหลี่หนิงอ้ายด้วยอีกคน

“คุณชายหลี่ สตรีผู้นี้คือน้องสาวของเจ้าหรือ ช่างงดงามยิ่งนัก”

องค์ชายห้าซ่งจางหย่งเอ่ยถามด้วยความสงสัย แต่สายตาของเขาที่มองหลี่หนิงอ้ายดูจาบจ้วงนัก

“พ่ะย่ะค่ะ นางคือหลี่หนิงอ้ายน้องสามของกระหม่อม และนี่คือหลี่หมิงเฟยน้องรองของกระหม่อมเองพ่ะย่ะค่ะ”

หลี่หมิงหลงเอ่ยตอบ แต่แววตาของเขาเข้มขึ้นอย่างไม่ชอบใจนัก

หลี่หนิงอ้ายกับหลี่หมิงเฟยเองหันมาคารวะองค์ชายคนอื่นๆ ที่อยู่ในขบวนนี้ด้วย รวมถึงองค์รัชทายาทหนานหนิงเฉิงที่ติดตามมาดูแลอาคันตุกะในครั้งนี้

“ช่างเป็นชื่อที่ไพเราะยิ่งนัก หากเจ้าสนใจจะไปล่าเสือขาวเช่นนั้นก็มาติดตามข้าเถอะ ข้าจะดูแลเจ้าเอง”

ซ่งจางหย่งเอ่ยด้วยแววตากะลิ้มกะเหลี่ย เขานั้นพึงพอใจในรูปโฉมของคุณหนูหลี่ผู้นี้ยิ่งนัก ทั้งเขายังหมายมาดจะรับตัวหลี่หนิงอ้ายกลับไปเป็นชายารองที่แคว้นซ่งด้วย

“ไม่ลำบากองค์ชายห้า เปิ่นไท่จื่อจะดูแลอ้ายเอ๋อร์เอง”

หนานหนิงเฉิงบังคับม้ามาด้านหน้า แล้วเอ่ยแทรกขึ้นมา เขาไม่นึกชอบใจองค์ชายห้าผู้นี้นัก ทำตัวดั่งคุณชายเสเพล หาได้เหมาะสมกับตำแหน่งองค์ชายไม่

“คุณหนูหลี่เป็นอันใดกับไท่จื่อหรือพ่ะย่ะค่ะ”

ซ่งจางหย่งเอ่ยอย่างไม่ยินยอมนัก เขาสงสัยตั้งแต่คำเรียกขานว่าอ้ายเอ๋อร์แล้ว คุณหนูผู้หนึ่งแห่งจวนขุนนางไยถึงดูสนิทสนมกับองค์รัชทายาทแห่งแคว้นหนานได้

“อ้ายเอ๋อร์เปรียบดั่งน้องสาวของเปิ่นไท่จื่อ มารดาของนางก็คืออดีตองค์หญิงหนานเฟยฮวาพระขนิษฐาของฮ่องเต้หนานเฟยฉี เสด็จพ่อของเปิ่นไท่จื่อ องค์ชายห้ามีข้อสงสัยอื่นใดหรือไม่ เปิ่นไท่จื่ออยากจะไปล่าเสือขาวแล้ว ไม่อยากเสียเวลาอยู่ที่นี่นานนัก”

หนานหนิงเฉิงหันมามองซ่งจางหย่งด้วยนัยน์ตาคมกริบ

ซ่งจางหย่งที่รู้ภูมิหลังของหลี่หนิงอ้ายก็พลันตกใจ มิน่าเล่าคุณชายใหญ่หลี่ถึงดูไม่ได้หวั่นเกรงตัวเขาที่เป็นถึงองค์ชายนัก ที่แท้เขาก็มีมารดาเป็นถึงองค์หญิงผู้เป็นที่รักยิ่งของฮ่องเต้แคว้นหนานนี่เอง

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ งั้นพวกเราออกเดินทางกันเถอะ”

ซ่งจางหย่งเอ่ยเปลี่ยนเรื่อง เขาทำเป็นไม่สนใจหลี่หนิงอ้ายอีก แต่ภายในใจกลับขบคิดแผนการที่จะได้ครอบครองหญิงงาม อำนาจในมือของนางนั้นไม่อาจจะดูเบาได้เลย หากเขาสามารถตบแต่งกับนางได้ ตำแหน่งรัชทายาทแห่งแคว้นซ่งก็ไม่อาจหลุดรอดไปจากมือเขาไปได้อย่างแน่นอน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel