ท่านประมุขได้โปรดอย่ามาเกี้ยวข้า

บทนำ

ณ แผ่นดินใหญ่ที่มีชื่อเรียกว่า หวงหลง เป็นแผ่นดินที่แยกตัวออกมาจากแผ่นดินโดยรอบโดยมีแม่น้ำเซ่อฮั่วเป็นปราการที่ซ่อนแผ่นดินหวงหลงไว้ให้ห่างไกลจากชาวนอกด่านที่โหดเหี้ยม โดยแผ่นดินหวงหลงมีสามแคว้นใหญ่ที่มีอาณาเขตปกครองตนเอง ทั้งสามแคว้นจะต่างได้รับความคุ้มครองจากสำนักใหญ่ที่ตั้งอยู่บนแคว้นนั้นๆ สำนักวารีสวรรค์คุ้มครองแคว้นซ่ง สำนักพยัคฆ์ผยองคุ้มครองแคว้นหนาน และสำนักพิภพปฐพีคุ้มครองแคว้นเว่ย

สามสำนักใหญ่เพียงให้ความปกป้องคุ้มครองเท่านั้น หาได้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องในราชสำนักไม่ แต่เมื่อใดที่ภัยมาเยือนประมุขแห่งสำนักจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือทันที

แคว้นซ่งตั้งอยู่ทางทิศเหนือ แต่เหนือแคว้นซ่งขึ้นไปมีแม่น้ำเซ่อฮั่วสายใหญ่ไหลผ่านอยู่ โดยแม่น้ำเซ่อฮั่วกั้นกลางระหว่างแผ่นดินหวงหลงกับแผ่นดินของชาวนอกด่าน ถือเป็นการแบ่งเขตแดนกันอย่างชัดเจน

แคว้นซ่งอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี สินค้าส่งออกคือทองคำและอัญมณี ชำนาญการล่าสัตว์ การรบฉับไวแข็งแรง ผู้คนชาวแคว้นซ่งมีอุปนิสัยใจร้อนเลือดร้อน ธรรมเนียมของชาวแคว้นซ่งบุรุษสามารถมีภรรยากี่คนก็ได้ ขอเพียงสามารถดูแลบุตรธิดาได้ไม่ลำบาก นับว่าเป็นยอดคน ส่วนสตรีมีหน้าที่เพียงการคลอดบุตรและดูแลสามี จึงทำให้แคว้นซ่งสำหรับสตรีนั้นถือว่าอยู่ใต้อาณัติของบุรุษโดยแท้จริง

แคว้นหนานตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างแคว้นซ่งกับแคว้นเว่ย อากาศอบอุ่นตลอดทั้งปีเหมาะแก่การทำการเกษตร จึงทำให้แคว้นหนานส่งออกพืชผลทางการเกษตรเป็นส่วนใหญ่

ชาวแคว้นหนานบุรุษสามารถมีภรรยาหลายคนได้ แต่ชาวแคว้นหนานเปิดกว้างมากกว่าโดยสตรีสามารถทำงานด้านนอกได้ ไม่ว่าจะการค้าขาย หรือการเป็นขุนนาง ซึ่งในแคว้นหนานได้มีสตรีที่สามารถสอบเข้าเป็นขุนนางได้ นับว่าแคว้นหนานเปิดกว้างให้กับสตรีและบุรุษเท่าเทียมกัน แต่สำหรับสตรีชนชั้นสูงยังคงต้องยึดหลักตามกฎเกณฑ์สามเชื่อฟังสี่จรรยา

สามเชื่อฟังคือ สตรีที่ยังไม่ออกเรือนเชื่อฟังบิดา สตรีที่ออกเรือนเชื่อฟังสามี และสตรีที่สามีตายเชื่อฟังบุตร

ส่วนสี่จรรยานั้นคือ สตรีต้องประพฤติงดงาม วาจางดงาม หน้าตาและกิริยางดงาม และงานฝีมืองดงาม

สตรีชนชั้นสูงจึงนับว่ายังถูกปิดกั้นสิทธิและเสรีภาพอยู่มาก แต่ในแคว้นหนานคงจะมีสตรีผู้หนึ่งที่เป็นข้อยกเว้น เพราะนางสามารถกระทำตนเช่นไรก็ได้ ตามแต่ใจที่นางปรารถนา เพราะแม้แต่ฮ่องเต้หนานเฟยฉีผู้เป็นใหญ่แห่งแคว้นหนานยังเอื้อเอ็นดูแลรักใคร่หลี่หนิงอ้ายประดุจบุตรีในสายพระโลหิต

ในแผ่นดินแคว้นหนานมองหาทั่วทั้งแคว้น จะหาสตรีที่มีอิสระด้านการใช้ชีวิตเท่า คุณหนูสามหลี่หนิงอ้าย แห่งจวนแม่ทัพ หามีไม่

แคว้นเว่ยตั้งอยู่ทางทิศใต้ติดกับทะเลเฟิ่งหวง เพราะต้องใช้ชีวิตติดกับชายทะเลจึงทำให้ชายแคว้นเว่ยมีผิวที่ค่อนข้างคล้ำ แต่ใบหน้ากลับคมคายมากกว่าแคว้นอื่น สินค้าส่งออกของแคว้นเว่ยคือเกลือสมุทรอันเป็นสินค้าที่มีค่า และราคาแพง

ชาวแคว้นเว่ยมีนิสัยเปิดเผยตรงไปตรงมา ทั้งการแต่งกายยังนิยมสวมอาภรณ์ที่เบาบางและน้อยชิ้น บุรุษมักไม่นิยมสวมเสื้อชอบเปิดเปลือยท่อนบน ส่วนสตรีนิยมสวมผ้าคลุมหน้าเพื่อป้องกันไม่ให้ใบหน้าของพวกนางหมองคล้ำ และนิยมสวมอาภรณ์เบาบาง ที่ขับเน้นให้เห็นเรือนร่างที่ชัดเจน

ทั้งสามแคว้นล้วนแตกต่าง แต่ก็เหมือนกันในเรื่องที่บุรุษเป็นใหญ่ และสามารถมีภรรยาหลายคนได้ ค่านิยมเรื่องความงามก็เช่นเดียวกัน สตรีที่งดงามคือต้องมีเรือนร่างที่งดงามเย้ายวนบุรุษเพศ เครื่องหน้าเหมาะเจาะพอดี ผิวพรรณต้องนวลเนียนละเอียดไม่มีไฝฝ้า โดยเฉพาะรอยแผลเป็น หากสตรีใดที่มีรอยแผลเป็นจะถือว่าเป็นสตรีที่มีราคี

ณ ตอนนี้ทั้งสามแคว้นต่างปรองดองสามัคคีกัน หากจะมีเรื่องขัดแย้งกันบ้างก็เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น เพราะทั้งสามแคว้นได้ลงนามสัญญาสงบศึก โดยระบุไว้ว่าหากแคว้นใดมีใจละโมบต้องการยึดครองแคว้นอื่น จะถูกสำนักใหญ่พิพากษาโดยการทำลายราชวงศ์นั้นให้สิ้น เหมือนเมื่อ 30 ปีก่อน...