บทที่ 17 คนงานข้าใครอย่าแตะ
“ประเดี๋ยวเถิดท่านเทพบุตรทั้งหลาย เมื่อท่านบอกตัวเองว่าเป็นเทพบุตร คอยช่วยเหลือพวกข้า ทำไมจึงต้องมานำตัวคนงานข้าไปลงโทษ พวกเขาหนีมาพ้นเขตอาญาของพวกท่านแล้วมิใช่รึ ข้าคงให้พวกท่านไปไม่ได้” อัสลามุยะเอ่ยเสียงนุ่ม
“ท่านหัวหน้าเผ่า อย่าขัดขวางข้าเลย ข้าจะไม่ลงโทษพวกเขาถึงตายแน่นอน เพียงแต่ให้เขาไปรับฟังการตัดสินเท่านั้นเอง”
“ไม่ได้ อย่างไรข้าก็ไม่ยอม กลับไปเถอะ ข้าขอร้อง พวกท่านเป็นเทพบุตร ท่านต้องใจดี ไม่ทำร้ายคนไม่มีทางสู้ ใช่หรือไม่” ผู้เฒ่าเอ่ยเสียงเข้มแล็กน้อย
“แต่เราจำเป็นต้องนำตัวพวกเขาไป อย่าให้ข้าต้องออกกำลังเลยนะ”
“นักโทษของพวกท่านเป็นใคร บอกข้าได้หรือไม่” เดเมียนอยากรู้จากปากเหล่าเทพบุตรแม้ใจของเขาจะพุ่งไปที่ก๊อดดาธกับนากิบแล้วก็ตาม สองคนนี้เป็นคนงานใหม่ มาขอทำงานยามค่ำคืน คำกล่าวอ้างว่าครอบครัวถูกโจรปล้นคงเป็นเรื่องโกหก
“หากพวกท่านไม่บอกว่าเป็นใคร ข้าก็ไม่ยอมให้คนงานของข้าไปกับท่าน อย่าหาว่าข้าขัดขวางเลยนะ เมื่อเรารับคนงานเข้ามาอยู่กับเราแล้ว เราต้องดูแลพวกเขาเหมือนพวกเขาเป็นญาติพี่น้องของเรา คาราวานของอัสลามุยะคือพ่อแม่พี่น้อง ท่านคงเข้าใจ”
เดเมียนเห็นสายตาของปู่ก็เข้าใจทุกอย่าง ปู่ของเขาเป็นห่วงก๊อดดาธและนากิบ สองคนนี้คือนักโทษหนีมาจะด้วยโทษอะไรก็ตาม เขายอมให้กลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่าเทพบุตรนำตัวออกไปจากกองคาราวานไม่ได้โดยเด็ดขาดและหากการคาดเดาของเขาไม่ผิดนัก กลุ่มโจรสวะต้องการชีวิตก๊อดดาธกับนากิบ
“แม้ว่าคนงานของท่านอาจนำอันตรายมาสู่ครอบครัวใหญ่ของท่านอย่างนั้นรึ”
ความเงียบเข้ามาปกคลุมกองคาราวานอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเงียบได้เพียงนี้ ทุกสายตาจับนิ่งที่ใบหน้าเดเมียน ลมหายใจคนรอบข้างแทบจะหยุดไปกับความเงียบนั้น อัลคอนซาเข้าใจคำถามดีว่าหมายถึงอะไร สองคนที่กลุ่มเทพบุตรพูดถึงไม่ใช่ใคร หล่อนหันมามองหน้าก๊อดดาธ เขาเพิ่งช่วยชีวิตหล่อนให้พ้นคมดาบพวกโจร ใบหน้าของเขาเรียบและเริ่มซีดขึ้นเรื่อย ๆ หล่อนขยับร่างเพรียว
“เจ้าจะทำอะไรสาวน้อย” เสียงคนถามดังมาจากหลังม้าตัวอยู่ทางขวามือของผู้ที่ตั้งคำถามกับเดเมียน คนนี้เป็นลูกน้องอย่างแน่นอน
“ข้าจะช่วยชีวิตคนงานของข้า พวกท่านจะถามจะตอบอะไรกันก็ตอบไปก่อน นอต ฮาบาช พาด๊าธไปนั่งตรงโน้น ข้าจะทำแผลให้เขา เขาเสียเลือดมากเกินไปแล้ว ไปเร็ว”
หล่อนตอบคำถามอย่างไม่ใส่ใจว่าจะเป็นอันตรายหรือไม่ คนที่หล่อนสนใจกำลังจะหมดสติและทันทีที่นากิบกับฮาบาชเข้าถึงตัวก๊อดดาธ ร่างสูงก็เอนซบกับไหล่นากิบ หมดสติไปต่อหน้าทุกคน
“พวกท่านกลับไปเสียเถอะ เราจะไม่ให้คนงานของเราไปกับท่าน ข้าเชื่อว่าพวกเขาจะไม่นำความเดือดร้อนมาให้ข้าและทุกคนในกองคาราวาน ข้าไม่รู้สาเหตุแท้จริงแต่บางที สาเหตุแท้จริงอาจทำให้คนงานสองคนนี้ ไม่อยากอยู่ในเมืองอันวุ่นวายของพวกท่านก็เป็นได้”
อัสลามุยะเอ่ยน้ำเสียงนุ่มน่าฟัง ความกังวานของเสียงผู้สูงวัยทำให้หัวหน้าเทพบุตรนิ่งไปครู่หนึ่ง สายตาของเขาอยู่ที่ร่างก๊อดดาธ หากอัสลามุยะเห็นสายตาที่มองก๊อดดาธต้องแปลกใจกับความห่วงใยและจงรักภักดีนั้น
หากแต่ผู้ชราไม่เห็นจึงไม่สงสัยมากไปกว่าเดิมที่สงสัยอยู่แล้ว ความสงสัยนั้นมาจากการช่วยเหลือจากกลุ่มโจรและขอตัวคนงานใหม่ไปลงโทษ สิ่งนี้ที่อัสลามุยะไม่ยอมส่งตัวคนงานหน้าตาดีและประวัติที่ไม่ธรรมดาให้กับกลุ่มเทพบุตร
“ข้าขอขอบคุณในความช่วยเหลือของพวกท่านเทพบุตร ข้าเชื่อเหลือเกินว่าพวกเทพบุตรมีจิตใจอันดี มีเมตตาต่อผู้ยาก ท่านต้องเมตตากับคนงานสองคนของข้าด้วย คนงานที่พวกท่านต้องการ กำลังเสียเลือดมาก เขาต้องได้รับการรักษาก่อน ท่านจงกลับไปก่อนเถิด”
“ท่านปู่ พวกข้าไม่รู้จักพวกเขาครับ ข้าไม่เคยทำผิดอะไรด้วย ข้าจะไม่ไปไหน เพื่อนข้าก็เช่นกัน เราจะไม่ไปจากท่านปู่ครับ”
นากิบเอ่ยออกมา เขาเก็บคำพูดมานานหลายนาทีและตั้งใจจะไม่พูดอะไร แต่เมื่อได้ยินเสียงหัวหน้าเทพบุตรกับลูกน้องที่อยู่ข้างกัน เขาจึงกล้าพูดและยืนยันความต้องการของเขา
“ข้ามียารักษาติดมาด้วย ให้พวกข้ารักษาคนงานของท่านเถอะนะ” หัวหน้าเทพบุตรเหลียวข้ามไหล่ไปทางซ้าย พยักหน้าให้ลูกน้องซึ่งอยู่ถัดไปทำหน้าที่ตามคำพูดของเขา ม้าตัวนั้นขยับเหยาะ ๆ มาหยุดข้างนากิบ
“เพื่อนเจ้าเสียเลือดมากไปแล้ว เราต้องหยุดเลือดก่อน ค่อยทำแผล อย่าระแวงเรา”
เขาโดดลงจากหลังม้า ที่หลังของเขามีเป้สีดำพองแน่นไปด้วยสิ่งของข้างใน นากิบอยู่ใกล้คนของเทพบุตรแค่ช่วงตัว เขาสบสายตาคนพูด ความรู้สึกจากนั้นเย็นสันหลัง สิ่งที่คิดไม่ผิดคาด เขาสูดลมเข้าลึก ๆ ก้มหน้าลงมากระซิบกับใบหน้าซีดของก๊อดดาธ
“เรามาไม่ไกลพอ” เสียงกระซิบไม่ทำให้คนเจ็บได้ยินเพราะสิ้นสติสัมปชัญญะไปแล้ว
“อย่ามาถูกตัวคนงานของข้า” อัลคอนซาโผเข้าขวางผู้จะรักษาแผลให้ก๊อดดาธ นากิบงงกับหญิงสาว หล่อนเป็นห่วงก๊อดดาธมากหรือกลัวก๊อดดาธเป็นอันตรายจากคนแปลกหน้า ที่ไม่เห็นหน้า เห็นเพียงลูกตาเท่านั้น หล่อนปกป้องก๊อดดาธเพื่ออะไร
“ข้ารักษาเองได้ ฮาบาช นอต พาด๊าธไปเร็ว” หล่อนออกคำสั่งกับคนงานอีกครั้ง
“ประเดี๋ยวก่อน ข้าจะทำแผลให้ก่อน ข้าไม่ทำอันตรายคนงานของเจ้าหรอก ข้าจะไม่พาตัวคนงานของเจ้าไปจากที่นี่ หากเขาไม่เต็มใจไป ได้ยินชัดหรือไม่”
ชายร่างสันทัดเอ่ยน้ำเสียงอ่อนโยน หญิงสาวจึงถอยออกมา เขาคงรักษาคำพูด พวกเขาบอกว่าตัวเองเป็นเทพบุตร เมื่อเป็นเทพบุตรต้องไม่ทำร้ายใคร
“ขอบใจมากพ่อเทพบุตร พวกท่านมาช่วยชีวิตพวกเราโดยแท้ สิ่งใดที่พวกข้าจะตอบแทนพวกท่านได้บ้าง นอกจากส่งตัวคนงานสองคนนี้ให้กับท่าน”
อัสลามุยะสำนึกในบุญคุณที่เหล่าเทพบุตรบนหลังม้าช่วยชีวิตพวกเขาไว้และกำลังช่วยก๊อดดาธ พวกเขาสามารถตอบแทนบุญคุณครั้งนี้ได้ตามกำลังที่พวกเขาทำได้ ยกเว้นการส่งตัวก๊อดดาธและนากิบให้กับกลุ่มเทพบุตร เขาต้องพูดประโยคสุดท้ายเพื่อปกป้องก๊อดดาธ เขายังไม่รู้ชัดว่าเทพบุตรกลุ่มนี้มีเจตนาดีหรือร้ายกับก๊อดดาธ