บทที่ 16 กลุ่มเทพบุตร
“อัลคอนซา” เดเมียนครางชื่อน้องสาวก่อนจะควบม้าเข้าไปหาหล่อนแต่ถูกพวกโจรขวางไว้ เขาจึงต้องสู้กับลูกน้องของมัน อัลคอนซากับซุฟและฮาบาชอยู่ไม่ห่างกันซึ่งก๊อดดาธกับนากิบอยู่ตรงนั้นด้วย
อัสลามุยะเล็งหน้าไม้ไปยังคนบนหลังม้าแล้วปล่อยลูกธนูออกไป เป้าหมายพลาดไปเพราะม้าวิ่งเร็วพุ่งตรงไปหาก๊อดดาธ
“ด๊าธระวัง” นากิบร้องสุดเสียง ขณะพุ่งตัวเข้าขวางก๊อดดาธซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับอัลคอนซาถลาดึงแขนก๊อดดาธออกพ้นคมดาบ นากิบถูกปลายดาบเข้าที่แขนซ้าย อัลคอนซาเสียหลักการทรงตัวเพราะออกแรงดึงก๊อดดาธ ร่างบางหมุนตามแรงดึง ก๊อดดาธเป็นฝ่ายดึงตัวหล่อนเข้ามากอด มืออีกข้างกระชากดาบออกจากมือหล่อน ทันรับดาบจากอีกคนที่ถลาเข้ามาหาเขา
“เป๊ง”
“ด๊าธ!”
นากิบเรียกก๊อดดาธสุดเสียงและพลังหลังจากนั้นเพิ่มเป็นทวีคูณ เขารู้โดยไม่ต้องคิดให้เสียเวลา ผู้โจมตีต้องการชีวิตองค์ชายน้อยของเขา วิญญาณของทหารองครักษ์สามารถแลกชีวิตแทนองค์ชายก๊อดดาธได้กลับเข้ามาทันที เขาไม่เป็นนอตในนาทีนี้ เขาคือทหารองครักษ์ของทายาทราชันย์
นากิบรับดาบและผลักออกอย่างคล่องแคล่ว เดเมียน ซุฟ ฮาบาชเข้าช่วยอย่างไม่กลัวตายเช่นกัน ก๊อดดาธสู้สุดกำลังของเขา
“จัดการมันให้ได้”
เสียงสั่งดังอยู่ข้าง ๆ พร้อมม้าอีกตัวเข้าล้อมชายหนุ่มทั้ง 5 คนและหญิงสาวอีก 1 คน พวกมันหมายชีวิตทั้ง 6 เมื่อเข้าใกล้ก๊อดดาธไม่ได้
“จัดการมันทั้งหมด อยากไปนรกนักก็จะทำให้สมใจ”
คนสั่งตรงเข้าหาก๊อดดาธ ดาบในมือของเขาตวัดไปที่อัลคอนซา หล่อนหลบทัน ดาบเปลี่ยนทิศมาที่ก๊อดดาธและฟันถูกหลังแม้เพียงปลายดาบ ร่างชายหนุ่มก็ผวาไปข้างหน้า คนอยู่บนหลังม้าคอยจังหวะอยู่แล้วเงื้อดาบสุดแขนแล้วฟันลงมาแต่ดาบยังไม่ทันถึงตัวก๊อดดาธ ร่างของคนถือดาบชะงักและค่อย ๆ เอนหล่นจากหลังม้า ดวงตาเหลือกค้าง ชักกระตุกก่อนจะแน่นิ่งไป ที่อกข้างซ้ายมีลูกธนูปักอยู่
“เฮ้ย.” กลุ่มโจรชะงักนิดเดียว พวกเขากรูเข้ามาหาก๊อดดาธ
“หยุดประเดี๋ยวนี้ พวกเจ้ากำลังก้าวสู่ความตาย รู้หรือไม่”
เสียงดังมาจากด้านหลังของพวกมัน ฝูงม้าเกือบ 10 ตัวโจนทะยานมาราวกับแข่งเพื่อเข้าเส้นชัย กลุ่มโจรชะงักเป็นครั้งที่สอง
“พวกเจ้าน่ะสิ หาที่ตาย ข้าจะปล้นคาราวานนี้ เจ้าไปที่อื่น ข้าจองกองนี้แล้ว”
เสียงคนที่เป็นหัวหน้าตอบกลับอย่างไม่เกรงกลัวใด ๆ ผู้มาใหม่ยกมือสั่งลูกน้องที่ตามมากระจายล้อมกลุ่มโจรไว้
“เจ้ามิได้ตั้งใจมาปล้น แต่เจ้าต้องการเอาชีวิตของใครสักคนใช่หรือไม่”
“ข้าจะฆ่าทุกคนที่มันขัดขวางข้า” หัวหน้าโจรตอบด้วยเสียงห้วน สายตาภายใต้ผ้าคลุมกลิ้งไปมาอย่างระวัง พวกเขารู้แล้วว่าผู้มาใหม่เป็นใคร เขาส่งสัญญาณรู้กันแค่ในกลุ่มเตรียมตัวล่าถอย นิ้วชี้กำด้ามดาบอยู่ยก 2 ครั้ง กระตุกม้าถอยห่างจากก๊อดดาธ หากพวกเขาไม่ถอย ชีวิตของพวกเขาถูกกลบอยู่กลางทะเลทรายโดยไม่มีใครรู้ นอกจากกองคาราวานกองนี้และกลุ่มผู้มาใหม่เท่านั้น
ผ้าคลุมหน้าสีฟ้าอ่อน เพียงแค่มองก็รู้สึกสบายใจ อัสลามุยะเคลื่อนเกวียนเข้ามายืนด้านหลังฝูงม้าผู้มาใหม่
“เห็นทีข้าจะยอมให้พวกเจ้าทำเช่นนั้นไม่ได้ หยุดทุกอย่างที่เจ้าคิดจะทำ แล้วไปซะหากยังรักชีวิตอยู่” หัวหน้ากลุ่มม้าผู้มาใหม่เอ่ยเสียงเข้มเครียด
“พวกเจ้าเป็นใครจึงกล้ามาออกคำสั่งกับข้าอย่างนี้ พวกเจ้าต่างหากที่ต้องถอยออกไป ถ้ายังรักชีวิตอยู่”
หัวหน้าโจรย้อนคำของผู้มาใหม่ มือยังกำกระชับด้ามดาบแน่น กลุ่มชายฉกรรจ์คลุมหน้าเหลือเพียงลูกตาด้วยผ้าสีฟ้าอ่อน ไม่ใช่โจร หากเป็นโจรจะไม่พูดอย่างนี้และไม่รั้งรอการต่อสู้และแย่งชิงสมบัติของกองคาราวาน
“ข้าคือเทพบุตรรักษาความปลอดภัยของชนเผ่านี้อย่างไรเล่า พวกเจ้าก็คงเป็นโจรไร้ที่มาที่ไปใช่หรือไม่ โจรที่คอยรับใช้คนใจบาปหยาบช้ากระมัง” หัวหน้ากลุ่มเทพบุตรเอ่ยเสียงเข้มเช่นเดิม
“อย่ามัวตอบมันอยู่ไยเล่า เมื่อมันไม่หยุด พวกเราก็หยุดมันเสียเดี๋ยวนี้เถิดพี่ข้า” ชายบนหลังม้าซึ่งยืนเยื้องไปทานด้านขวามือของคนพูดตอบกลุ่มโจรเอ่ยเสียงไร้เมตตาและกระตุ้นม้าขึ้นมายืนคู่กัน
“ใจเย็น ๆ น้องข้า ให้โอกาสโจรสวะสักหน่อย ว่าอย่างไร เจ้าจะถอยหรือจะสู้กับพวกข้า”
ไม่มีเสียงตอบกลับมา ครู่เดียวม้าเริ่มเดินถอยหลังตามคำสั่งคนขี่ ดวงตาใต้ผ้าคลุมสีดำจ้องดวงตาใต้ผ้าคลุมสีฟ้าอ่อนไม่กะพริบ ขณะม้าถอยออกห่างทีละนิด ๆ
“เอามันขึ้นหลังม้ากลับไปด้วย” ลูกน้องสองคนโดดลงจากหลังม้า ยกร่างไร้วิญญาณของพรรคพวกขึ้นหลังม้า อีกคนจูงเชือกม้าวิ่งออกไปก่อน
“โจรอย่างพวกข้า ไม่ใช่โจรสวะอย่างที่เจ้าปรามาส แต่วันนี้ไม่ใช่โอกาสของข้า ถอย”
ทั้งน้ำเสียงยิ่งฟังยิ่งชัดเจน ก๊อดดาธมีสติก่อนโจรจะล่าถอย นากิบจำเสียงหัวหน้าโจรได้ ขนลุกเมื่อคิดถึงก๊อดดาธ บุคคลที่บอกตัวเองเป็นเทพบุตรจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก...
“พ่อเทพบุตร ขอบคุณที่เข้ามาช่วยพวกเราได้ทันเวลา มิเช่นนั้น พวกโจรคงฆ่าพวกเราทั้งหมด” อัสลามุยะเอ่ยออกมา
“มิได้ท่านหัวหน้า เรามิได้มาช่วยแต่เราจะมาเอาตัวคนงานของท่านกลับไปลงโทษ พวกเขาหนีโทษทางการมา เราขอเถิดนะ” หัวหน้าเทพบุตรมองอัสลามุยะพร้อมเอ่ยน้ำเสียงนุ่มน่าฟัง
“ใครคือนักโทษที่หนีมา” เดเมียนดึงม้าออกมายืนด้านหน้าคนงาน อัสลามุยะรู้ว่าคนงานหนีโทษมาเป็นใครและกลุ่มโจรที่ล่าถอยไปเมื่อครู่ต้องการชีวิตของคนงานสองคนเท่านั้น ไม่ใช่ทุกคนในกองคาราวาน เขาจะช่วยคนงานของเขาได้อย่างไร หากกลุ่มเทพบุตรต้องการตัวทั้งสองไปเดี๋ยวนี้