ทาสรักเจ้าทะเลทราย
บทย่อ
เมื่อองค์ชายน้อยแห่งเมืองอุสมันหนีออกไปใช้ชีวิตอิสระตามที่ใจปรารถนาแต่การออกไปเผชิญชีวิตเยี่ยงสามัญชนของพระองค์กลับไปพบกับหญิงสาวที่ไม่ยอมใครและพระองค์ตกเป็นทาสรักของนางนับวินาทีแรกที่พบหน้า
บทที่ 1 จู่โจม
“เจ้าเป็นใคร เข้ามาในนี้ได้อย่างไร”
เสียงดังออกเกรี้ยวกราดกับการปรากฏตัวของชายหนุ่มตรงหน้า เขาก้มศีรษะนิดหนึ่ง เหลือบมองซ้ายขวาก่อนจะเอ่ยเสียงเบา
“ข้ามาดี ข้าจะมา..”
ร่างสูงก้าวตรงเข้ามาท่าทางรีบร้อน อัลคอนซาถอยกรูด คนแปลกหน้าผู้นี้ไม่ได้มาดีอย่างที่พูด เขากำลังจะทำร้ายหล่อน ความกลัวทำให้หล่อนร้องออกมา
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย ปู่ ปู่..ช่วยด้วย..”
เสียงหญิงสาวดังลั่นพร้อมกับมือยาวเรียวคว้าเหยือกน้ำบนโต๊ะตัวเตี้ย ขว้างใส่ชายหนุ่มที่จู่ ๆ ก็โผล่หน้าเข้ามาในกระโจมส่วนตัวของหล่อน ความคิดพุ่งไปที่โจรทะเลทราย ปล้นคาราวานอูฐและสินค้าทุกอย่างที่พวกมันคิดว่าจะทำให้พวกมันร่ำรวยในพริบตา
คำผรุสวาทพร่างพรูออกจากริมฝีปากหยักไม่หยุด ขณะขว้างสิ่งที่เป็นอาวุธได้ในเวลานี้ ใส่ผู้ที่หล่อนคิดว่าเป็นผู้ร้าย ร่างสูงเบี่ยงตัวหลบเหยือกน้ำ เป็นเหตุให้เหยือกลอยละลิ่วและหล่นลงพื้น น้ำกระจายไปทั่ว หล่อนไม่สนใจของเท่ากับคนที่ก้าวเข้าใกล้หล่อน
“ไอ้โจรสวะ คิดจะมาปล้นข้าอย่างนั้นรึ ไม่สำเร็จหรอก ข้าไม่มีวันยอมให้พวกเจ้าหากินบนความลำบากของพวกข้าหรอก”
“ข้าไม่ใช่โจร แล้วก็หยุดเรียกคนมาช่วยเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้น ข้าจะปาดคอเจ้าให้ขาด”
น้ำเสียงเข้ม ใบหน้าเครียด ดวงตาที่จ้องมายังใบหน้าเนียนของหล่อนไม่บอกว่าจะขู่เพียงอย่างเดียว หล่อนเลื่อนสายตาลงมาที่มือของเขา มีดสั้นกระชับมั่นพร้อมจะทำร้ายศัตรูหรือผู้ที่ขัดใจเจ้าของ หล่อนหุบปากที่กำลังอ้าจะร้องเรียกปู่แล้วขยับถอยห่างจากผู้ไม่ได้รับเชิญทีละก้าว ๆ หางตาชำเลืองมองหาทางออกจากกระโจมซึ่งมันไม่มีทางอื่นนอกจากทางประตูที่ชายหนุ่มเพิ่งเปิดเข้ามา
“เจ้าต้องการอะไรถ้าไม่คิดจะปล้น” หล่อนถามออกไปแต่เท้ายังไม่หยุดก้าวถอยหนี ชายหนุ่มยกมือขึ้นสองข้างและก้าวตามหล่อน ใบหน้าเข้มคล้ำส่ายไปมาช้า ๆ
“ข้าไม่ได้ปล้น ข้าแค่มา..”
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย ช่วยดะ...”
หล่อนร้องลั่นเมื่อคิดถึงความอัปยศของตน หากผู้ชายคนนี้ย่ำยีหล่อนแต่เสียงของหล่อนมีโอกาสดังเพียงสองครั้งเท่านั้นเพราะมือแข็งแรงพร้อมกับร่างสูงโปร่งถลาเข้ามาทางด้านหลัง ตะปบปากหล่อนกดแน่น แขนอีกข้างสอดเข้ารัดลำตัวของหล่อนราวกับพญางูใหญ่ต้องการบดขยี้เหยื่อให้แหลกสลายสิ้นใจก่อนกลืนกิน
อัลคอนซาเบิกตากว้าง ดวงตาสีน้ำตาลของหล่อนเหมือนจะโตผิดปกติกับการจู่โจมของใครอีกคนจากด้านหลัง หล่อนร้องทั้งที่เสียงไม่ได้ลอดออกมาจากริมฝีปากนุ่ม มันเพียงดังอู้อี้อยู่ในลำคอระหงของหล่อนเท่านั้น
“พวกข้ามาดี อย่าส่งเสียง ไม่อย่างนั้นข้าจะกลายเป็นโจรอย่างที่เจ้าด่าพวกข้า”
เสียงลอดไรฟันดังอยู่ชิดใบหูของหล่อน แม้จะเป็นเสียงขู่และเบามากแต่โทนเสียงของเขาทุ้มกังวาน ปากของเขาเคลียอยู่ที่แก้มนวล ลมหายใจอุ่นเป่ารดผิวเนื้อผ่อง หล่อนยืนนิ่งงันไม่ใช่คำขู่แต่เป็นเพราะลมหายใจและจมูกโด่งอยู่ชิดแก้มของหล่อน
“ดีมาก ไปนั่งที่เตียงของเจ้า ข้ามีเรื่องจะขอร้องเจ้า”
ร่างสูงดันร่างบางในอ้อมแขนไปที่เตียงแคบ สำหรับนอนคนเดียว พื้นเตียงปูด้วยผ้าขนแกะสีนวล เขาทรุดนั่ง เมื่อบังคับร่างนุ่มให้นั่งบนเตียงแต่มือข้างที่ปิดปากหล่อนไม่ยอมลดลงเช่นลำแขนอีกข้างที่โอบกระชับเอวคอดนั้นคลายออกแล้ว
อัลคอนซาเห็นหน้าเขาชัดเจนตอนนี้เอง ใบหน้าเข้มนั้นเป็นสีน้ำผึ้งเกลี้ยงเกลา ไม่ดำเช่นคนงานของหล่อน คิ้วเข้มไม่มาก จมูกโด่งเป็นสัน ดวงตาสีเหล็ก ปากที่เอ่ยขอร้องหล่อนอยู่ในที หยักได้รูปรับกับวงหน้ามน รวมเครื่องหน้าของเขา งดงามราวกับเป็นเจ้าชายในหนังสือที่หล่อนเคยอ่าน
แต่ผู้ชายที่นั่งอยู่บนเตียงของหล่อนในขณะนี้ ไม่ใช่เจ้าชายในนวนิยายแต่เป็นคนจริง ๆ มีเนื้อหนัง มีหัวใจและที่สำคัญอบอุ่นยามที่เขาถูกตัวหล่อน
ดวงตายาวรีเช่นตาเหยี่ยวมองตรงไปข้างหน้า ชายหนุ่มคนแรกที่หล่อนเห็นก้มศีรษะน้อย ๆ แล้วเงยหน้าสบตาหล่อน ใบหน้าของเขาสีคล้ำกว่าคนที่นั่งอยู่กับหล่อนขณะนี้ ดวงตาสีน้ำตาล จมูกโด่งไม่แพ้อีกคน ปากหนาเล็กน้อยแต่หน้าตาของเขาก็จัดว่าดีครบทุกส่วน หล่อนยกมือสองข้างแกะมือที่ปิดปากหล่อนออกแต่คนปิดไม่ขยับมือสักนิด หล่อนประท้วงอื้ออึง เขาจึงเลื่อนมือออก
“อย่าร้องนะ ไม่อย่างนั้น ข้าหักคอเจ้าแน่” เขาเสียงเครียด หล่อนกัดกรามแน่น
“พวกเจ้าต้องการอะไร” หล่อนมองหน้าคนอยู่ชิดแล้วหันไปมองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“องค์..เอ่อ..ข้ากับ..เอ่อ..” นากิบมองพระพักตร์เจ้าชายก๊อดดาธอย่างจะขออนุญาต พระองค์พยักพระพักตร์นิดหนึ่ง นากิบจึงพูดต่อ
“ข้ากับนาย มาของานทำ”
“นาย..”
หล่อนเลิกคิ้วแล้วหันมาจ้องหน้าคนที่นั่งเคียงข้าง เขาสบตาหล่อนก้มศีรษะแล้วยิ้ม รอยยิ้มของเขาสะกดให้อัลคอนซาอ้าปากค้าง เบิกตาเหยี่ยวกว้างกว่าเดิม พระเจ้า! ทำไมผู้ชายคนนี้จึงยิ้มได้สวยงามมาก ฟันซี่เสมอเรียงเป็นระเบียบ มันขาวจนหล่อนทึ่ง
“ข้าเป็นนายของเจ้านั่นแต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ข้าเป็นแค่คนมาขอทำงานเท่านั้น ข้าชื่อ..”
เขาชะงักเมื่อคิดถึงชื่อตัวเอง เขาหันไปมองนากิบเพื่อขอความช่วยเหลือจากคนสนิท นากิบขยับเท้าเข้าไปใกล้แล้วก้มศีรษะทำความเคารพ
“นายข้าชื่อด๊าธ ด๊าธคำเดียว ส่วนข้า..นอต ข้าตกงาน บ้านนายข้าถูกปล้น ข้ากับนายหนีตายมาถึงที่นี่ พวกข้าไม่ใช่โจร โปรดช่วยพวกข้าด้วยเถิด” เขาก้มศีรษะค้างอยู่ตรงหน้าอัลคอนซา หล่อนมองกริยาที่เขาปฏิบัติแล้วหันมาจ้องหน้านาย..ด๊าธ หล่อนลุกพรวด ก้าวเร็ว ๆ ไปยืนห่างจากสองหนุ่มแล้วยกมือชี้หน้าคนชื่อด๊าธและมาหยุดที่นอต
“พวกเจ้าทำให้ข้าตกใจ ข้าไม่รับพวกเจ้า ออกไปให้พ้นกระโจมข้า ถ้าพวกเจ้าไม่ไป ข้าจะเรียกคนของข้ามาจัดการกับพวกเจ้า”
“ถ้าเจ้าร้องแค่คำเดียว ข้ารับรองว่ามีดในมือข้าปักคอหอยเจ้าพอดี เลือกเอาว่าจะช่วยพวกข้าหรือจะไล่พวกข้าไปจากที่นี่”
นอตก้าวมาหาหล่อนอย่างรวดเร็ว ดวงตาของเขาวิบไหว แข็งกระด้าง เจ้าชายก๊อดดาธหรือนายด๊าธ ลุกยืนก้าวช้าๆ มาหยุดตรงหน้าอัลคอนซา หากสายตาของหล่อนมองไม่ผิดนัก ท่าทางของเขาไม่ใช่นายธรรมดาแต่เป็นนายที่มีระเบียบและสง่างามมากแม้กระทั่งยามก้าวเดินยังน่ามอง
“ข้ามีทางให้เจ้าเลือกเพียงสองทางเท่านั้น ทางแรก เจ้ารับข้าสองคนทำงานที่นี่ ทางที่สอง หากเจ้าเรียกคนมาจับข้า เจ้าจะไม่มีวันได้เห็นหน้าใครอีกแม้แต่ปู่ที่เจ้าเรียกหาเมื่อครู่นี้”
“นี่..นี่..เจ้าขู่ข้าเหรอ” หล่อนชี้มือมาที่หน้าของท่านด๊าธนายของนอต เขายิ้มในหน้า เลิกคิ้วสูง ยกมือขึ้นแบทั้งสองข้างแล้วถอยไปนั่งบนเตียงของหล่อน เขาทำราวกับเป็นนายของหล่อนอย่างนั้น
“นายข้าไม่ได้ขู่แต่ทำจริง หากเจ้าไม่ช่วยพวกข้า”