บทที่ 11 ท่านปู่
“เป็นอะไรรึด๊าธ เดินไม่ไหวหรืออย่างไร หากพวกเจ้าไม่แข็งแรงอย่างนี้ เห็นทีข้าต้องยกเลิกการจ้างงานพวกเจ้าเสียแล้วละ”
“ไหวครับหัวหน้า” ก๊อดดาธแข็งใจพูด เขาต้องเข้มแข็ง เขาไม่ใช่องค์ชายอยู่ในพระราชวังอีกแล้ว เขาเป็นคนงานต้อนแกะ อยู่ในกองคาราวานของหัวหน้าเผ่าผู้ใจดี เขาอ่อนแอไม่ได้
“ข้าขอพักสักครู่ได้หรือไม่หัวหน้า” นากิบเอ่ยออกมาเพื่อช่วยนายของเขาแต่ก๊อดดาธส่ายหน้า เขาต้องผ่านจุดนี้ไปให้ได้ เขาคิดถึงมารดา ส่งจิตขอพลังจากท่าน
“ทูลหม่อมแม่ โปรดเป็นกำลังใจให้ลูกทำงานนี้ผ่านไปด้วยดีด้วยเถิด”
ลมพัดวูบปะทะใบหน้าเนียนเกลี้ยงของก๊อดดาธ ความเย็นเหมือนละอองน้ำพรมทั่วใบหน้า ช่วยให้เขารู้สึกสดชื่นขึ้น เขาหลับตาขณะคิดถึงมารดา แปลกใจกับละอองน้ำ มารดาช่วยเขาจริง ๆ หรือ เขายิ้ม ลืมตาช้า ๆ
“ท่านปู่”
ใบหน้าอัสลามุยะอยู่ตรงหน้าเขา รอยยิ้มเมื่อครู่จางลง ผู้สูงวัยจ้องหน้าชายหนุ่มนิ่ง ครู่หนึ่งจึงเอ่ยเสียงเนิบ
“อย่าฝืน หากเจ้าไม่ไหว”
“มิได้ท่านปู่ ข้าไหวครับ ข้าไหว” ก๊อดดาธฝืนยิ้มทั้งที่เท้าไร้เรี่ยวแรงจะก้าวเดิน เขาสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ ความเย็นจากละอองน้ำช่วยให้เขาสดชื่นขึ้น รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้า เขาต้องอดทน เขาจะอ่อนแอไม่ได้ นากิบเป็นห่วงเขา หัวหน้าเผ่าจ้องหน้าเขาเขม็ง ดวงตาบ่งบอกถึงความเห็นใจ แววตาไหวเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ถ้าเช่นนั้น พักสักครู่ ข้าไม่อยากทรมานพวกเจ้าแต่ใช่ว่าข้าจะเห็นใจพวกเจ้าไปตลอด คนงานต้องแข็งแกร่ง ไม่ย่อท้อต่องานตรงหน้า ไม่ว่าจะหนักหรือเบาก็ตาม คนงานทุกคนต้องสู้และต้องทำให้ได้ จำไว้”
“ครับท่านปู่”
ก๊อดดาธก้มศีรษะ เขาแอบกลืนน้ำลายซึ่งบัดนี้หนืดลำคอเหลือทน เขายอมแพ้ไม่ได้ คำพูดเป็นนัยยะของหัวหน้าเผ่า ช่วยกระตุ้นให้เขามีพลังมากขึ้น อีกกำลังใจหนึ่ง มารดาของเขา
ทูลหม่อมแม่ของเขาช่วยให้เขามีพลัง เขาจะไม่แพ้ทะเลทราย พายุทรายกำลังคืบคลานมาถึงชนเผ่ากลุ่มน้อย กลุ่มนี้
หากหยุดพัก การเดินทางจะล่าช้า หัวหน้าคนงานกำลังจ้องมองเขาด้วยสายตาค้นหา อัสลามุยะยอมให้คนงานใหม่ 2 คนพักเพราะเหนื่อย เดินทางไม่ไหว นี่เป็นข้อสงสัยที่เดเมียนกับอัลคอนซา ไม่ยอมปล่อยผ่าน เขาจะไม่ทำให้อัสลามุยะลำบากใจ
“ท่านปู่ครับ เดินทางต่อเถอะครับ ข้าไหว เมื่อครู่หิวน้ำมากไปหน่อยจึงเหมือนกับจะเป็นลม ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วครับ เดินทางต่อเถอะครับ อย่าให้ข้าเป็นจุดบอดของกลุ่มเลยครับท่านปู่”
ก๊อดดาธคุกเข่าก้มศีรษะต่อหน้าอัสลามุยะ ชายชราผ่อนลมหายใจยาว พร้อมพยักหน้าช้า ๆ ก๊อดดาธไม่ต้องการให้ใครรับรู้ว่าเขาเป็นใคร คำขอร้องอ้อนวอนจากชายหนุ่มทำให้ชายสูงวัยเข้าใจ
“ถ้าเจ้าไหว เราเดินทางต่อ ผ่านเนินเขาลูกนี้ไปได้ เราจะปลอดภัยจากพายุทราย เร่งฝีเท้าได้แล้ว นอต เจ้าดูเพื่อนเจ้าด้วย หากไม่ไหวจริง ๆ ก็บอกเดเมียน”
“ครับท่านปู่”
“ปู่ ไม่เอาใจคนงานใหม่มากไปหรือครับ พวกมันไม่เข้มแข็งก็ไม่ต้องรับมันทำงาน ถึงพ่อค้าเมื่อไหร่ ให้มันไปหางานอื่นทำเถอะครับ”
เดเมียนระแวงสองหนุ่มมากกว่าเดิม อัลคอนซาสงสัยก๊อดดาธกับนากิบว่าเป็นพวกโจรเข้ามาแฝงตัวในคาราวานแกะเพื่อหาจุดอ่อนส่งข่าวให้พรรคพวกเข้ามาปล้นแกะ เขาจึงต้องระวังให้มากที่สุด หากผิดสังเกต เขาจะเป็นคนจัดการคนงานใหม่ด้วยตัวเขาเอง ทะเลทรายจะเป็นสุสานอย่างดีของพวกมัน
“พวกมันมาถึงที่นี่เกือบถึงจุดหมายแล้ว เจ้าคิดว่ามันไม่เอางานอย่างนั้นรึ”
อัสลามุยะรู้ว่าเดเมียนต้องการให้ทำอะไรกับสองหนุ่ม หากเป็นคนที่เขาไม่รู้ความเป็นมาของการมาสมัครงาน เขาคงไล่ออกไป ก่อนจะเดินทางแล้ว แต่เขารู้ รู้ทุกอย่าง หนุ่มหน้าเนียนอดทนถึงที่สุด กระทั่งเป็นลมกับเปลวแดดเพราะกระหายน้ำ เหนื่อยล้าในระยะทางยาวไกลซึ่งไม่เคยเดินไกลถึงเพียงนี้
ถ้าเขาทำไม่รู้ ปล่อยให้เดเมียนทรมานก๊อดดาธ เขาจะกลายเป็นคนโหดร้าย ใจดำไปโดยปริยาย สองหนุ่มมองหน้าผู้ชรา นากิบก้มศีรษะด้วยความเคารพอัสลามุยะ ขอบคุณอยู่ในใจ ก๊อดดาธมองหัวหน้าเผ่านิ่ง ผู้เฒ่ารักษาคำพูด เขาจะอยู่ในกองคาราวานนี้ได้อีกนาน
“ขอบคุณท่านปู่ครับ ที่เมตตาพวกเรา” ก๊อดดาธสำนึกในความซื่อสัตย์ของผู้สูงวัย ซื่อสัตย์ในคำพูดที่จะปกปิดฐานะอันแท้จริงของเขาไว้ตราบเท่าที่เขาจะปกปิดและเปิดเผยออกมาเอง
“พวกเจ้าเห็นข้าเป็นคนใจร้ายอย่างนั้นรึด๊าธ ใช่หรือไม่นอต หากเจ้าคิดก็ควรรีบออกไปจากคาราวานของข้า”
“มิได้ครับท่านปู่ ข้าไม่คิดเช่นนั้น ท่านปู่มีเมตตา ใจดี รับพวกข้าไว้ เราสำนึกในบุญคุณของท่านปู่ครับ ขอบพระคุณครับ”
ก๊อดดาธก้มศีรษะ นากิบทำตามอีกครั้ง อัสลามุยะเน้นเสียงให้เข้มขึ้นดูน่าเกรงขามเพื่อกลบเกลื่อนอะไรบางอย่าง ไม่มีใครรู้นอกจากพวกเขา เมื่อเป็นอย่างนี้ พวกเขาควรจะอ่อนแอหรือ ก๊อดดาธมีพลังเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณ
อัลคอนซาเหลือบสายตามองปู่อย่างใช้ความคิด กริยาของปู่อ่อนโยนเมื่อพูดกับก๊อดดาธ หล่อนมองไม่ผิด ปู่สงสารคนงานคนนี้มากกว่าทุกคนที่เคยเข้ามาเป็นคนงานใหม่ เขาพูดอะไรกับปู่ของหล่อนจึงโน้มน้าวให้ปู่ผู้มีจิตใจแกร่งอ่อนโยนลงได้