3
“ยะ...อย่าค่ะ” เมลิสสาถึงกับสั่นไปทั้งเนื้อทั้งตัว เมื่อถูกอีกฝ่ายล่วงล้ำความเป็นหญิง จึงพยายามปัดมือหนาออก
“อื้อ...เธอนั่นแหละอย่าดื้อ!” ชายหนุ่มครางในลำคออย่างขัดใจก่อนจะดึงบราที่โอบดอกบัวงามออก แล้วเลื่อนตัวลงมาดูดกลืนปลายถันสีชมพูอ่อนๆ อย่างหิวกระหาย ขณะที่มืออีกข้างก็บีบคลึงดอกบัวงามที่เต่งตึงเบาๆ
“อะ...อืม...อะ...” เมลิสสาครางเบาๆ อย่างเสียวซ่านกับสัมผัสวาบหวามที่ไม่เคยพานพบมาก่อน ทำให้เธอหลงลืมตัวไปชั่วขณะ
คาเรนเทียไล้ปากต่ำลงมาเรื่อยๆ จนถึงจุดกึ่งกลางของอิสตรี ก็ใช้นิ้วเกี่ยวแพนตี้ตัวจิ๋วออกให้พ้นทางอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็จับขาเรียวเล็กทั้งสองข้างให้อ้าออก แล้วจ้องมองกลีบดอกไม้งามที่อวบอูมเต็มๆ สองตา
“ยะ...อย่าค่ะ...” เมลิสสาได้สติกลับมาอีกครั้ง จึงรีบอ้อนวอน
คาเรนเทียรีบแทรกตัวไปอยู่ระหว่างขาเรียวงามคู่นั้น พร้อมกับก้มลงใช้ลิ้นควานหาน้ำหวานจากเกสรของดอกไม้งามอย่างไม่รอช้า
“อะ... อย่าค่ะ...อื้อ...” เมลิสสาพยายามจะร้องห้าม แต่ก็ไม่อาจต้านทานได้
ชายหนุ่มทั้งดูดกลืนและตวัดลิ้นเลียดอกไม้งามอย่างบ้าคลั่งก่อนจะค่อยๆ สอดนิ้วเข้าไปยังทางรักที่คับแน่นช้าๆ ด้วยความยากลำบาก
“ไม่นะ!” เมลิสสาดีดดิ้นทันทีที่มีบางอย่างพยายามจะลุกล้ำเข้ามาในพื้นที่สงวน
“ธะ...เธอยังไม่เคย...ใช่ไหม?” คาเรนเทียเงยหน้าขึ้นถาม
“ค่ะ ปล่อยหนูไปเถอะนะคะ” เมลิสสาพยักหน้ารับพร้อมกับอ้อนวอนขอความเมตตา
“ฉันจะค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป” คาเรนเทียบอกก่อนจะก้มหน้าลงไปตวัดลิ้นเลียขึ้นลงช้าๆ รู้สึกตื่นเต้น และดีใจที่จะได้เป็นชายคนแรกของสาวตรงหน้า
“อะ...อื้อ....” เมลิสสาจิกผ้าปูที่นอนแน่น แขนขาไร้เรี่ยวแรงจะต่อต้านใดๆ จึงทำได้เพียง...แอบหวังว่าเขาจะปรานีอย่างที่บอก
คาเรนเทียยิ้มกริ่ม ค่อยๆ สอดนิ้วเข้าไปสร้างความคุ้นเคยขณะที่หยดน้ำหวานจากเกสรของดอกไม้ ไหลเยิ้มออกมาชโลมนิ้ว ก่อนจะค่อยๆ สอดแทรกเข้าไปทีละนิดๆ
“อะ...อืม...” เมลิสสาครางเสียงสั่นๆ ทั้งตื่นเต้น ทั้งกลัว และเสียวซ่านอย่างบอกไม่ถูก
คาเรนเทียเริ่มขยับนิ้วเข้าออกเร็วขึ้น เมื่อเห็นร่างบางบิดเร่าและเริ่มเกร็งมากขึ้นเรื่อยๆ ก็รู้ว่าเธอกำลังจะแตะขอบสวรรค์
“อะ...อ๊ะ!...กรี๊ดดดดดด” เมลิสสากรีดร้องออกอย่างทนไม่ไหวจิกเล็บลงกับผ้าปูที่นอนแน่น เกร็งกระตุกติดๆ กันสามสี่ครั้ง ก่อนจะชาวาบไปทั้งตัว เหมือนกำลังล่องลอยไปที่ไหนสักหนแห่ง คาเรนเทียมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่หายใจหอบไปมา และหน้าอกคู่สวยที่ขยับตามแรงหายใจ เขาจึงรีบถอดเสื้อคลุมออก แล้วก้มลงลิ้มลองหยดน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ที่เปื้อนเปรอะต้นขางาม
“อ๊ะ...พะ...พอแล้ว!” เมลิสสารีบท้วง เมื่อลิ้นอุ่นๆ ของเขาแตะสัมผัสลงยังจุดกึ่งกลางของความเป็นหญิง แถมยังดูดกลืนและรัวลิ้นขึ้นลงเร็วๆ สร้างความเสียวซ่านรัญจวนใจอย่างต่อเนื่องโดยไม่ปล่อยให้เธอได้พักหายใจหายคอ
“อะ...อะ...ไม่นะ...กรี๊ดดดด” เมลิสสากรีดร้องเสียงดังอีกครั้งอย่างสุขสม พร้อมกับกระตุกติดๆ จนสั่นไปทั้งตัว
น้ำหวานจากดอกไม้งามทะลักออกมาอย่างพรั่งพรู ทำให้คนที่รออยู่ได้ลิ้มรสชาติอีกครั้ง รีบดูดกลืนอย่างติดใจ ตลอดเวลาที่ผ่านมา...เขาไม่เคยจะทำแบบนี้ให้กับผู้หญิงคนไหน แม้ว่าพวกเธอจะอาบน้ำและล้างตรงนั้นจนสะอาด แต่เขาก็ยังรู้สึกว่ามันยังสะอาดไม่พอที่เขาจะใช้ริมฝีปากกับตรงนั้นของพวกเธอ แต่กับสาวตรงหน้า! เขากลับทำมันโดยไม่ลังเล
ชายหนุ่มจูบซุกไซ้ต้นขาและเอวบางขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงดอกบัวงามที่เบ่งบานรับสัมผัส
“มะ...ไม่เอาแล้ว อะ...อื้อ...” เมลิสสาที่เริ่มจะได้สติอีกครั้งอ้อนวอนคนที่กำลังขย้ำและดูดกลืนปลายถันของเธอ
คนเจ้าเล่ห์ค่อยๆ จับความเป็นชายขนาดใหญ่แตะกลีบดอกไม้งามที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำหวาน แล้วถูไถขึ้นลงช้าๆ
“อะ...อื้อ...” ความเสียวซ่านทำให้เมลิสสาส่งเสียงครางออกมา อย่างลืมตัว คาเรนเทียยกยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะจับความเป็นชายแทรกผ่านทางรักที่คับแคบ แล้วออกแรงดันเข้าไป โดยไม่ปล่อยให้สาวเจ้าได้ตั้งตัวและเตรียมใจแต่อย่างใด
กึก!
“อ๊ะ! กรี๊ดดดดดดด” เมลิสสาที่กำลังเคลิบเคลิ้ม ถึงกับสะดุ้งเฮือก! น้ำตาไหลอาบแก้มทันใด เมื่อความเสียวซ่านถูกแทนที่ด้วยความเจ็บปวด
“พระเจ้า!” คาเรนเทียอุทานเบาๆ หลังจากที่เพิ่งจะทะลวงผ่านเยื่อบางๆ ที่เรียกว่าพรหมจรรย์ มาได้หยกๆ
“เจ็บ...เอาออกไป ได้โปรด...” เมลิสสาอ้อนวอนเสียงสั่น
“อย่าเพิ่งดิ้น! มะ...ไม่งั้นเธอจะเจ็บกว่านี้” คาเรนเทียหยุดชะงักการกระทำทั้งหมด แล้วใช้มือเกลี่ยหยดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มนวลทั้งสองข้างออกให้อย่างแผ่วเบา เขาเองก็ทั้งเจ็บและทรมานกับความคับแน่นที่บีบรัดจนแทบจะทนไม่ไหว แต่กระนั้นก็รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นชายคนแรกของเธอ แม้ว่าจะเข้าไปได้แค่เพียงสองส่วนสามของทั้งหมดที่เขามีก็ตาม
“อะ...อื้อ...” เมลิสสาครางเบาๆ เมื่อริมฝีปากหยักได้รูปจูบ และซุกไซ้อย่างอ่อนโยน ขณะที่ความเจ็บปวดที่เต้นตุบๆ เริ่มคลายตัว
คาเรนเทียหลอกล่อให้สาวเจ้าเคลิบเคลิ้ม แล้วดันส่วนที่เหลือเข้าไปจนสุดทางรัก
กึก!
“กรี๊ดดดดด” เมลิสสากรีดร้อง พร้อมกับจิกเล็บลงบนแผ่นหลังกว้างของอีกฝ่ายทันที
“โอ้พระเจ้า!” คาเรนเทียกัดฟันข่มความเสียวซ่านที่โอบล้อมความเป็นชายและบีบรัดแน่นจนแทบจะหายใจไม่ออก มันเป็นความรู้สึกวิเศษที่สุดที่เคยพานพบมา เขาเล้าโลมต่อครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้าออกอย่างช้าๆ เพื่อสร้างความคุ้นเคย
“อะ...อะ...อ่า...” เมลิสสาใจสั่นทุกครั้ง ที่คนตรงหน้าเคลื่อนตัวเข้า-ออก ทั้งเจ็บและเสียวซ่านกับขนาดที่ใหญ่และยาวจนน่ากลัว ทำให้เธอต้องดันหน้าท้องที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเอาไว้ เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายโถมตัวเข้ามาลึกเกิน
“ฉันมีความสุขที่สุดเลย” คาเรนเทียก้มกระซิบเสียงสั่นพร่า ก่อนจะค่อยๆ เร่งจังหวะขึ้นตามแรงปรารถนา
“อะ...อะ...อะ...กรี๊ดดดด” เมลิสสากรีดร้องสุดเสียง ขนลุกซู่ไปทั้งตัว เมื่อพ่อเทพบุตรสุดหล่อส่งเธอแตะขอบสวรรค์
“โอ้ว...พระเจ้า” คาเรนเทียเร่งจังหวะตามไปแตะขอบสวรรค์ พร้อมกับปลดปล่อยสายธารสีขาวขุ่นเข้าไปในตัวของสาวเจ้าทุกหยาดหยด ก่อนจะเกร็งกระตุก 6-7 ครั้ง ติดๆ กัน แล้วฟุบหน้าลงที่ซอกคอระหงของสาวเจ้า
เมลิสสานอนพักหายใจได้ไม่ถึงสิบนาที ก็ถูกปลุกเร้าอารมณ์ด้วยความเสียวซ่าน จากนั้นเกมรักครั้งใหม่ก็เริ่มขึ้นอีกหลายต่อหลายครั้งกระทั่งหลับไปลึกอย่างไม่รู้สึกตัว
วันต่อมา...สหพันธรัฐรัสเซีย (กรุงมอสโก)
เมลิสสาลืมตาตื่นขึ้นมาในห้องที่เปลี่ยนไปจากเดิม เธอกวาดตามองไปรอบๆ พยายามนึกว่าเธอมานอนอยู่บนเตียงขนาดคิงไซซ์นี้ได้อย่างไร
“ตื่นแล้วเหรอ?” คาเรนเทียเอ่ยถามพร้อมกับจ้องมองใบหน้างามอย่างไม่วางตา เมื่อคืนหลังจากที่ดื่มด่ำกับความหอมหวานจนหนำใจ เขาก็อุ้มคนที่หลับคาอกไปขึ้นรถที่คนสนิทเอามาจอดรอรับที่ด้านหลังวิลล่า จากนั้นก็ตรงไปขึ้นเครื่องบินส่วนตัวที่ลานจอดนอกเมือง แล้วบินกลับรัสเซียทันที เพราะไม่อยากให้ข่าวของตนกับพนักงานเสิร์ฟหลุดไปเข้าหูหุ้นส่วนคนอื่นๆ
“ทะ...ท่าน” เมลิสสาจ้องมองหนุ่มหล่อที่นั่งข้างเตียงอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
“ใช่! ฉันเอง” คาเรนเทียยิ้มรับ หลังจากที่นั่งมองหญิงสาวมาได้ชั่วโมงกว่าๆ
“ที่นี่...” เมลิสสาหลบสายตาที่มองมาอย่างรู้สึกเขินอาย ไม่แน่ใจว่านี่คือความจริง...หรือเป็นเพียงแค่ความฝัน
“รัสเซีย” คาเรนเทียเฉลยก่อนจะแสร้งมองไปทางอื่น เพื่อปกปิดบางอย่างในแววตา
“ระ...รัสเซีย” เมลิสสาหน้าเจื่อนไปทันใด พลัน! ภาพเหตุการณ์ต่างๆ ของเธอกับเขาเมื่อคืน ก็ผุดขึ้นมาราวกับไปกดโดนปุ่ม Replay เข้า
“ใช่! เธออยู่ที่บ้านของฉันในรัสเซีย” คาเรนเทียขยายความให้คนที่ยังดูเหมือนจะมึนๆ งงๆ เข้าใจ
“มะ...ไม่จริง!” คนที่เพิ่งจะได้สติ หลังจากที่หยิกเนื้อตัวเองไปหลายครั้ง เริ่มน้ำตาคลอขึ้นมาทันใด
“จริง! เธอจำเรื่องของเราเมื่อคืนไม่ได้เหรอ?” คนที่จดจำทุก ๆ วินาทีที่ผ่านมาได้ดี หันมาเอ่ยถาม
เมลิสสากะพริบตาไล่หยดน้ำอุ่นๆ ที่กำลังเอ่อล้น ขณะภาพต่างๆ ของผู้ชายตรงหน้า ฉายชัดขึ้นมาในม่านตาอย่างต่อเนื่อง เมื่อคืนเธอยกอาหารไปเสิร์ฟที่วิลล่าหลังใหม่ แล้วดันทำซุปหกใส่ตรงบริเวณของสงวนของเขาเข้า จากนั้นเขาก็ลากเธอไปลงโทษด้วยการ...พรากสิ่งที่สำคัญที่สุดไปหลายต่อหลายครั้ง จนเธอหลับลึกไปโดยไม่รู้สึกตัว