ทาสรักคาเรนเทีย (ซีรีส์ 5หนุ่มแห่งฟีนิกซ์)

169.0K · จบแล้ว
yochita-uri
73
บท
66.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ฮึก...คุณพาหนูมาที่นี่ทำไม” เมลิสสาถามอย่างไม่เข้าใจ เธอคิดว่าทุกอย่างมันน่าจะจบแล้ว แต่เปล่าเลย เขากลับพาเธอมายังประเทศที่เธอไม่รู้แม้กระทั่งภาษา “เธอลืมไปแล้วเหรอว่าต้องรับผิดชอบอะไรฉัน” “ฮึก...เมื่อคืนหนูก็ชดใช้ให้ท่านไปแล้วไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง มันยัง...” “ยังไม่พอ! เพราะฉัน...เอ่อ...เพิ่งจะไปพบแพทย์มา และเขาบอกว่ามันอาจจะใช้งานไม่ได้ถาวร หรือใช้ได้เป็นบางครั้ง ไม่รู้สิ! ต้องรอดูอาการไปจนกว่าจะครบหนึ่งเดือน!” คนที่ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งจะเคยโกหกเป็นครั้งแรก พยายามหยิบยกเหตุผลขึ้นมาอ้าง “หมายความว่า...” เมลิสสาหยุดร้องไห้แล้วรอฟังชะตากรรมของตัวเองอย่างตั้งใจ เพราะต่อให้เธอหนียังไง เชื่อว่าเขาก็ต้องตามหาจนเจอ สู้ชดใช้ให้มันจบๆ ไปคงจะดีกว่า “เธอต้องอยู่กับฉันที่นี่ เพื่อชดเชยต่อความสุ่มเสี่ยงที่ฉันอาจจะสูญเสียของรักของหวง หากว่ามันจะใช้งานไม่ได้” “ถ้าครบหนึ่งเดือนแล้ว ทุกๆ อย่างเป็นปกติ คุณจะ...” “เธอกลับอังกฤษได้เลย” “แล้วงานที่...” “ไม่ต้องห่วง เธอจะได้ทำงานที่ PD กาสิโนเหมือนเดิม ฉันรับรอง” คาเรนเทียให้คำมั่น “งั้นหนูต้องทำอะไรบ้างคะ” เมลิสสายกมือขึ้นปาดน้ำที่หางตาทิ้ง พยายามยอมรับชะตากรรมที่มิอาจหลีกเลี่ยง คนเจ้าเล่ห์แอบจุดพลุฉลองในใจ ที่สาวตรงหน้ายอมเข้าใจอะไรง่ายๆ “ไม่ต้องทำอะไร แค่ตอบสนองฉันบนเตียงเหมือนเมื่อคืนก็พอ” “มันไม่มีวิธีอื่นแล้วเหรอคะ” เมลิสสาน้ำตาเอ่อล้นขึ้นมาอีกครั้ง หลังรู้ว่าเขาจะทำแบบนั้นกับเธออีก “แล้วเธอจะให้ฉันไปทำกับใครฮะ? ถ้าเกิดตอนที่ขึ้นเตียงกับสาวแล้วมันใช้งานไม่ได้ ฉันคงต้องสั่งฆ่าคู่นอนปิดปาก เพื่อกันไม่ให้พวกหล่อนเอาเรื่องที่น่าอับอายนี้ไปพูดต่อ อย่างงั้นสิ?” คาเรนเทียเลิกคิ้วถามด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างจะซีเรียส “ฮือๆๆ” เมลิสสาปล่อยโฮออกมาอย่างเก็บไม่อยู่ หลังรู้ว่าจะต้องเป็นตัวทดสอบเรื่องบนเตียงให้กับอีกฝ่ายไปจนกว่าจะครบหนึ่งเดือน “จะร้องทำไม มีผู้หญิงเป็นร้อยเป็นพันที่อยากมาอยู่ตรงนี้” คาเรนเทียกลอกตาอย่างเซ็งๆ “แต่หนูรับคุณไม่ไหว” คนที่ยังเจ็บ จุก และร้าวระบมไปทั้งเนื้อทั้งตัว บอกเสียงสั่น

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักประธานคนต่ำต้อยนอกใจรักแรกพบมาเฟียเศรษฐีฟินๆเลือดร้อน

1

ความเกี่ยวโยงของ 3 ซีรีส์

1 อเลกซานโดร ซานเดอร์ และ เชคาริก เบนเนโต้ ซี สองหนุ่มแห่งฟีนิกซ์ที่อายุมากสุด และเป็นที่นับถือของทุกๆ คนในสามกลุ่ม

2 อีเดน ไคเลอร์, แพททริกสัน โรคาซานเดอร์, แดเนียล (เสกสรร) ร็อฟเวลล์ และคาเรนเทีย บาร์เลนเซนต์ ทั้ง 4 หนุ่ม เป็นเพื่อนร่วมรุ่นและทำธุรกิจร่วมกัน

3 อีวาน ไคเลอร์, ออร์แลนโด้ โรคาซานเดอร์, คารอส (เพชรดนัย) ร็อฟเวลล์ และ คริสเตียนโน่ บาร์เลนไทน์ ทั้ง 4 หนุ่มเป็นเพื่อนร่วมรุ่นและทำธุรกิจร่วมกัน

4 เจคอป โรคาซานเดอร์ และ ไรอันต์ เบนเนโต้ ซี เป็นเพื่อนร่วมรุ่น และเป็นไม้เบื่อไม้เมาที่ชอบแกล้งกันมาตั้งแต่เด็ก

5 เซน น้องเล็กเด็กที่สุดในสามกลุ่ม

1 >>> ซีรีส์ 3 พี่น้องตระกูล Kyler

1. พี่ใหญ่ของตระกูล อีเดน อายุ 35 ปี

2. พี่รอง อีวาน อายุ 33 ปี

3. น้องเล็ก เซน อายุ 21 ปี

2 >>> ซีรีส์ อ้อมกอด 5 หนุ่ม R&R

1. พี่ใหญ่ของตระกูลโรคาซานเดอร์ แพททริกสัน อายุ 35 ปี

2. พี่รอง ออร์แลนโด้ อายุ 33 ปี

3. น้องเล็ก เจคอป อายุ 29 ปี

4. พี่ใหญ่ของตระกูลร็อฟเวลล์ แดเนียล (เสกสรร) อายุ 35 ปี

5. น้องเล็ก คารอส (เพชรดนัย) อายุ 33 ปี

3 >>> ซีรีส์ 5 หนุ่มแห่ง Phoenix

Phoenix 1. Alexsandro Sander อายุ 37 ปี สูง 195 ซม. เจ้าของสายการบิน ซานเดอร์ แอร์ไลน์

Phoenix 2. Cristiano Barlentine อายุ 33 ปี 190 ซม. เจ้าของบ่อน้ำมันรายใหญ่ของตะวันออกกลาง

Phoenix 3. Ryan Bennato Z อายุ 30 ปี 193 ซม. เจ้าของบริษัทส่งออก-นำเข้ารายใหญ่

Phoenix 4. Chacarick Bennato Z 37 อายุ ปี สูง 191 ซม. เจ้าของสโมสรฟุตบอลและเจ้าของสนามแข่งรถ

Phoenix 5. Carentia Barlensent อายุ 35 ปี สูง 192 ซม. เจ้าของบริษัทผลิตอะไหล่รถยนต์รายใหญ่และมีหุ้นในกาสิโนอีกสิบแห่ง

มือขวาของ 5 ฟีนิกซ์

ชาร์ลี เบนจามิน มือขวาของ อเลกซานโดร

บรูค เบนจามิน มือขวาของ เชคาริก

แอนดรู เบนจามิน มือขวาของ คาเรนเทีย

ไบรตัน เบนจามิน มือขวาของ คริสเตียนโน่

บอนด์ เบนจามิน มือขวาของ ไรอัน

(คาเรน) คาเรนเทีย บาร์เลนเซนต์ อายุ 35 ปี สูง 192 ซม. เจ้าของบริษัทผลิตอะไหล่รถยนต์รายใหญ่ มีหุ้นในกาสิโนหลายแห่ง รวมไปถึงธุรกิจสีเทาอีกมากมาย เป็นบุตรชายคนเดียวของนายพลวินเซ่น กับมาดามเอลลีซึ่งหย่าร้างกันไปเมื่อสิบปีก่อน

คาเรนเทียเป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่ฟันดารา-นางแบบดังไปทั่วทั้งวงการ แต่เขาไม่เคยให้สาวไหนอยู่เคียงข้างกายข้ามวันเลยสักครั้ง จนกระทั่งได้มาเจอกับสาวเสิร์ฟจอมเซ่อซ่าที่ทำซุปร้อนๆ หกใส่ของสงวน ทำเขาโกรธจนเลือดขึ้นหน้า ลากเธอไปชำระความไกลถึงมอสโก แต่ทว่า...ความความไร้เดียงสากลับหลอมละลายและเติมเต็มหัวใจที่ด้านชา ให้พานพบกับความสุขอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน!

(มิรา) เมลิสสา แอดดิสัน สาวสวยลูกครึ่งไทย-อังกฤ วัย 20 ปี สูง 161 ซม. ใบหน้าจิ้มลิ้มงดงาม ดึงดูดสายตาของใครต่อใครให้หันมามองราวกับต้องมนต์สะกด ดวงตาสีดำกลมโตรายล้อมไปด้วยขนตาที่หนาและงอน จมูกโด่งที่รั้นนิดๆ รับกับริมฝีปากอวบอิ่ม ทำเอาผู้ที่พบเห็นยากที่จะละสายตาไปได้

เมื่อสองปีก่อน...คาลกับมีนา (บิดากับมารดา) ของเมลิสสาได้จากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ในวันที่เธอเรียนจบไฮสคูล มันเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต เหมือนฝันร้ายที่ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่า...คนรักที่สุดในชีวิตหายไปพร้อมกันทั้งสองคน และที่ร้ายไปกว่านั้น...บ้านที่เธออาศัยอยู่มาตั้งแต่เด็กก็ถูกธนาคารยึด หลังจากผ่านพ้นพิธีฝังศพไปได้เพียงสามวัน เธอเหมือนติดอยู่ในเรือที่ลอยเคว้งคว้างกลางทะเลที่ไกลสุดลูกหูลูกตา ไม่มีแม้แต่ไม้พาย ไร้ซึ่งหนทางจะไปต่อ โชคดีที่ได้เพื่อนบ้านอย่างชาร์ลอท หญิงวัย 60 ปี อดีตแม่บ้านของโรงแรมดัง ฝากเธอให้เข้าทำงานเป็นผู้ช่วยเชฟที่ PD กาสิโน ทำให้ชีวิตของเธอกลับมามีความหวังอีกครั้ง เพราะรายได้ต่อเดือนทำให้เธอมีเงินจ่ายค่าห้องเช่า และเหลือเก็บมากพอที่จะกลับไปเรียนต่ออีกครั้ง

1

jasmin Grand Hotel {England}

หลังจากที่เดินทางไปร่วมงานแต่งของคารอส น้องชายของเพื่อนสนิทอย่างแดเนียล ร็อฟเวลล์ เสร็จ คาเรนเทียก็ต้องรีบเดินทางมาอังกฤษตาม คำเรียกร้องของมารดา ที่บอกว่ามีธุระสำคัญจะคุยด้วย

“คาเรนทางนี้” เอลลีลุกขึ้นโบกมือให้บุตรชายอย่างดีใจ

“ครับ” คาเรนเทียรีบเดินไปหามารดา ที่นั่งตรงโซนวีไอพี

“ลูกสบายดีไหม?” เอลลีเอ่ยถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม หลังจากที่บุตรชายนั่งลงยังเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม

“ผมสบายดีครับ คุณพ่อก็สบายดี” คาเรนเทียหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นใบหน้าของมารดาบูดบึ้งขึ้นมานิดๆ หลังจากได้ยินตนเอ่ยถึงบิดา

“แม่ไม่อยากรู้หรอกว่าตาบ้านั่นจะเป็นยังไง แม่สนแค่ลูกคนเดียวเท่านั้นแหละ” เอลลีมองค้อนบุตรชายที่ชอบหยอกเรื่องของอดีตสามีที่เลิกรากันไปหลายปี เพราะเธอทนนิสัยชอบบงการและเอาแต่ใจของอีกฝ่ายไม่ไหว

“หึๆ แต่พ่อบ่นคิดถึงแม่ทุกวันเลยนะครับ”

“คาเรน!” เอลลีถอนหายใจอย่างรู้สึกหงุดหงิด

“ขอโทษครับ ว่าแต่แม่มีเรื่องอะไรจะบอกผม” คาเรนเทียรีบเปลี่ยนเรื่องคุย

“ลูกอายุเท่าไหร่แล้ว”

“35 ครับ” คาเรนเทียรู้ทันทีว่ามารดากำลังจะพูดเรื่องอะไร

“ฟังนะ! แม่ไม่อยากจะจู้จี้อะไรนักหรอก แต่แม่อยากอุ้มหลาน”เอลลี เอ่ยเข้าเรื่อง ทำเอาคนที่กำลังยกแก้วน้ำขึ้นมาจิบถึงกับสำลักจนหน้าแดงก่ำ

แค่กๆๆ

“นี่แม่ซีเรียสอยู่นะ” เอลลีต่อว่าพร้อมกับส่งผ้าเช็ดหน้าให้บุตรชาย

“ผะ...ผมก็ซีเรียสเหมือนกันครับ” คาเรนเทียกลอกตาอย่างเซ็งๆ เพราะช่วงหลังๆ เรื่องที่มารดาจะพูดคุยกับตนมีเพียงเรื่องเดียว คือ...เรื่องคู่ครอง ซึ่งมีหลายต่อหลายครั้งที่ถูกจับให้ออกเดตด้วยสถานการณ์ที่ดูเหมือนจะบังเอิ๊ญบังเอิญ แต่เขารู้ว่ามันคือการเตี๊ยมกันมาก่อน

“ลูกควรแต่งงานกับผู้หญิงสักคนได้แล้ว” เอลลีบอกด้วยสีหน้าจริงจัง

“โธ่...แม่ครับ ผมยังไม่อยากจะมีใคร” คนหล่อที่ยังรักสนุกบอกพร้อมกับยักไหล่ขึ้นนิดๆ

“แต่ลูกใช้ชีวิตสุ่มเสี่ยงมากเลยรู้ตัวไหมคาเรน” เอลลีบอกอย่างทนไม่ไหว เพราะงานที่บุตรชายทำสืบต่อจากสามีมันทำให้เธอผวา และจิตตก

“ยะ...ยังไงครับ” คนที่รู้ดีแสร้งถามเหมือนไม่รู้

“ก็ธุรกิจสีเทาที่ทำอยู่น่ะ ไม่รู้ว่าจะถูกฆ่าตายวันไหนน่ะสิ” เอลลีกัดฟันบอกด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

“แต่พ่อก็อยู่มาจนอายุ 63 แล้วนะครับ” คาเรนเทียหยิบยกบิดาที่เป็นแค่ผู้ถือหุ้นลับๆ ในกาสิโนหลายแห่งขึ้นมาอ้าง

“ตาแก่นั่นโชคดี”

“เอาเป็นว่า...ถ้าพ่อกับแม่กลับมาอยู่ด้วยกันเมื่อไหร่ ผมจะแต่งงานทันทีครับ” คาเรนเทียบอกพลางหัวเราะเบาๆ

“ไม่มีทาง!” เอลลีบอกพร้อมกับเชิดหน้าขึ้นอย่างถือดี ชาตินี้ทั้งชาติเธอจะไม่มีวันกลับไปอยู่กับคนอย่างวินเซ่นอีกเด็ดขาด

“งั้นเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นครับ” คาเรนเทียบอกอย่างอารมณ์ดี

“เฮ้อ...นี่แม่อายุจะ 54 แล้วนะ จะอยู่ได้อีกกี่ปีก็ไม่รู้” เมื่อสั่งไม่ได้ ขอร้องไม่ได้ อ้อนวอนไม่ได้ เอลลีก็เข้าสู่โหมดดราม่าต่อทันที

“ผมรักแม่นะครับ แต่ผมยังไม่เจอผู้หญิงคนที่ใช่ ต่อให้แต่งงานกันไป แต่อีกเดี๋ยวก็ต้องได้เลิกกันอยู่ดีครับ” คนที่ผ่านอะไรมามากมายบอกด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง

“แล้วผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงนั้นล่ะ ลูกคิดว่าเป็นยังไงบ้าง” เอลลีพยักหน้าให้บุตรชายมองหญิงสาวที่เพิ่งจะเดินผ่านล็อบบี

คาเรนเทียมองตามอย่างถึงบางอ้อ “พระเจ้า! อย่าบอกนะว่าแม่ กำลังจะ...”

“เธอชื่อเอมเบอร์ อายุ 25 ปี เป็นเจ้าของห้องเสื้อแบรนด์ดัง” เอลลีรีบบอก

“ผม...ขอตัวก่อนนะครับ พอดีเพิ่งจะนึกได้ว่ามีธุระด่วน” คาเรนเทีย บอกพลางหยิบมือถือเตรียมจะลุกขึ้น แต่ก็ถูกมารดารั้งที่ข้อมือเอาไว้

“คาเรน! นั่งลงเดี๋ยวนี้ ไม่ชอบก็ไม่เป็นไร แค่กินข้าวด้วยกันสักมื้อก็พอ” เอลลีบอกด้วยสีหน้าตึงๆ กลัวว่าหญิงสาวที่หมายมั่นจะให้เป็นลูกสะใภ้จะหันมาเห็นท่าทีของบุตรชายเข้า

“ก็ได้ครับ กินเสร็จแล้วผมขอตัวกลับเลยนะ”

“โอเค! ได้ตามนั้น” เอลลีฉีกยิ้มออกมาทันใด ก่อนจะหันไปยกมือให้กับบุตรสาวคนเดียวของรัฐมนตรีกระทรวงการคลังมาที่โต๊ะ

“สวัสดีค่ะเอลลี” เอมเบอร์ฉีกยิ้มหวานให้กับลูกค้าประจำของห้องเสื้อ ก่อนจะหันไปยิ้มให้หนุ่มหล่อคนดังที่นั่งอยู่ด้วย ‘พระเจ้า! ตัวจริงหล่อกว่าที่คิดเอาไว้ซะอีก’

“สวัสดีจ้ะเอมเบอร์ นี่ลูกชายของฉันเองชื่อคาเรนเทีย” เอลลีเอ่ยแนะนำ

“สวัสดีค่ะคุณคาเรนเทีย” เอมเบอร์จ้องมองหนุ่มตรงหน้าอย่างรู้สึกหลงใหล ยิ่งรู้ถึงกิตติศัพท์อันร้อนฉ่าบนเตียงจากเหล่านางแบบ ก็ทำให้อยากจะครอบครอง โชคดีที่มารดาของเขาเป็นลูกค้าประจำของร้านเธอ ทุกๆ อย่างจึงดูง่ายไปหมด

“สวัสดีครับเอมเบอร์” คาเรนเทียส่งมือไปจับเบาๆ อย่างมีมารยาท

“ฉันกำลังจะสั่งอาหาร หนูอยากทานอะไรจ๊ะ” เอลลีถามอย่างเอาใจ เมื่อเห็นหญิงสาวนั่งลงข้างๆ กับบุตรชาย

“อืม...ที่นี่มีเมนูอะไรที่โดดเด่นบ้างคะ?” เอมเบอร์เอ่ยถามคนหล่อด้วยหัวใจสั่นๆ

“คาเรนแนะนำหนูเอมเบอร์หน่อยสิ ลูกมาทานที่นี่บ่อยๆ ไม่ใช่เหรอ?” เอลลีพยายามจะสานสัมพันธ์ให้หนุ่มสาว

“คือ...ผมไม่ได้มาทานอาหารครับ แต่มาทำอย่างอื่น” คาเรนเทียบอกตามตรง เพราะเชื่อว่าหญิงสาวตรงหน้าคงจะรู้เรื่องราวของตนจากสื่อต่างๆ มาพอสมควร

“อะ...อะไร?” เอลลีถามอย่างสงสัย

“เชื่อเถอะครับว่าแม่ไม่อยากจะรู้หรอก” คาเรนเทียบอกยิ้มๆ ก่อนจะล้วงมือถือที่ตั้งสั่นเอาไว้ในกระเป๋าเสื้อสูทออกมาเปิดดู

“ใครโทรมา?” เอลลีเริ่มสังหรณ์ใจ ทุกครั้งที่บุตรชายออกไปรับสายตอนที่มีนัดดูตัว อีกฝ่ายจะหายไปและไม่กลับเข้ามาอีก ทิ้งให้เธอต้องรับหน้าแทนตลอด

“สายสำคัญ ถ้ายังไงก็สั่งรับประทานกันได้เลยนะครับ ผมขอไปรับสายที่ข้างนอกสักครู่” คาเรนเทียแทบจะลุกขึ้นเต้นอย่างดีใจ เมื่อเห็นชื่อของแพททริกสัน โชว์หราบนหน้าจอ