ตอนที่ 2 ใช้ตัวล้างหนี้ (1)
ตอนที่ 2
ใช้ตัวล้างหนี้
ก่อนถึงวันครบกำหนดหนึ่งวันนางพิมพ์ทองตัดสินเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นและถามความสมัครใจของลูกสาวก่อนเป็นอันดับแรก และแน่นอนว่าลูกสาวของนางโวยวายพร้อมกับปฏิเสธเสียงแข็ง
“แม่จะบ้าเหรอ จู่ ๆ จะขายลูกกินไม่อายบ้างหรือไง ให้ตายแพนก็ไม่ไป ถ้าแม่บังคับแพนจะหนีออกจากบ้าน” หญิงสาวยื่นคำขาด แม้จะโล่งใจที่ได้ยินการปฏิเสธจากลูกสาว แต่...
“ถ้าลูกไม่เต็มใจแม่จะไม่ทำเด็ดขาด แต่ช่วยแม่คิดได้ไหมว่าจะเอาเงินล้านห้าที่ไหนมาคืนเขา” นางพิมพ์ทองบอกอย่างหนักใจ ทว่าพิมพ์มาดากลับอมยิ้มเหมือนกำลังคิดอะไรดี ๆ ออก “เอาอย่างนี้ไหมคะ ทำไมแม่ไม่ให้ยัยไอซ์ไปแทนล่ะ นายอรัญนั่นไม่รู้สักหน่อยว่าใครคือลูกแม่”
ได้ยินอย่างนั้นเหมือนฟ้าประทานความสว่างมาให้นางเบิกตากว้างพร้อมกับเปิดยิ้มอย่างดีใจ “ใช่ ทำไมแม่คิดไม่ถึงกันนะ ยังไงซะมันก็แค่กาฝาก สั่งอะไรมันก็ต้องทำ”
“ใช่ค่ะ พ่อกับแม่มีบุญคุณท่วมหัว ทั้งชีวิตนี้มันก็ทดแทนไม่หมด” พิมพ์มาดาเอ่ยเสริมด้วยแววตาเป็นประกาย เพราะเท่ากับว่าถ้าไอริณไปแทน เงินห้าแสนก็จะเป็นของเธอกับแม่ นอกจากกำจัดยัยกาฝากตัวภาระออกไปได้แล้ว หนี้ก็หมดแถมยังได้เงินก้อนใหญ่มาใช้อีกด้วย
ไม่มีอะไรที่ดีไปกว่านี้อีกแล้ว
สองแม่ลูกเดินเข้ามาในบ้านเจอไอริณกำลังทำความสะอาดอยู่ ต่างก็พากันรีบเข้าไปหาด้วยหน้าตาอารมณ์ดีอย่างผิดปกติ “ไอซ์ป้าขอคุยอะไรด้วยหน่อยสิ”
“คะ” ไอริณที่กำลังเช็ดหลังตู้อยู่เงยหน้าขึ้นมามอง ก็เห็นคนเป็นป้าที่เข้ามาคุย เดินผละออกไปพยักหน้าเรียกพร้อมกับตบให้ไปนั่งที่โซฟาเธอจึงวางผ้าไว้แล้วเดินไปนั่ง “มีอะไรคะ”
“รู้ใช่ไหมว่าฉันกับลุง เอาแกมาเลี้ยงตั้งแต่เด็กจนตอนนี้แกก็โตเป็นสาว จะเรียนจบในอีกไม่กี่เดือนนี้แล้ว”
“ค่ะ” ไอริณรับคำพลางขมวดคิ้ว จู่ ๆ ก็เรียกมาลำเลิกบุญคุณอย่างนี้เธอรู้สึกว่ากำลังจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นหรือเปล่า
“เห็นแก่บุญคุณที่ฉันกับลุงแกเคยเลี้ยงดูแกมาอย่างดี ฉันขอให้แกทำอะไรสักอย่างเพื่อพวกเราบ้างได้ไหม” นางพิมพ์ทองยิ้มอ่อนโยนอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน นั่นไม่ได้ทำให้ไอริณรู้สึกดีแม้แต่น้อย แต่กลับทำให้หญิงสาวระแวงมากกว่า
“ทำอะไรคะ”
“ก่อนตาย ลุงแกเป็นหนี้เขาอยู่ล้านห้า...” นางพิมพ์ทองพูดยังไม่ทันจะจบไอริณก็แทรกขึ้นทันที “แต่ไอซ์ไม่ได้มีเงินเยอะขนาดนั้นหรอกนะคะ เต็มที่ก็แค่หลักหมื่น” คราวนี้เธอไม่ได้โกหก แต่ทั้งเนื้อทั้งตัวมีอยู่แค่นั้นจริง ๆ เธอเก็บเอาไว้เพื่อที่ว่าเมื่อเรียนจบ หางานทำได้แล้วจะออกไปอยู่ข้างนอกคนเดียว ดังนั้นการที่จะออกไปจำเป็นต้องมีเงินจำนวนหนึ่งด้วย
“แกไม่ต้องเอาเงินหมื่นอะไรนั่นมาหรอก เก็บไว้ใช้เถอะ” พิมพ์มาดาบอกติดจะรำคาญ ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับเงินแค่หลักหมื่นของลูกพี่ลูกน้องคนนี้เลยสักนิด
“แล้วป้าจะให้ไอซ์ทำอะไรล่ะคะ”
“ไม่ยากเลยงานง่าย ๆ สบาย ๆ” น้ำเสียงของนางพิมพ์ทองเน้นหนักเบา สีหน้าชักชวนให้คล้อยตาม ทว่าคนฟังกลับไม่รู้สึกอย่างนั้นสักนิดจึงแย้งขึ้น “งานสบายทำไมยัยแพนไม่ทำล่ะคะ”
“ก็ฉันไม่อยากทำ แม่กับพ่อมีบุญคุณกับแกท่วมหัวทำแค่นี้จะไม่ได้หรือไงกัน” พิมพ์มาดาเอ่ยแทรกขึ้นเสียงเข้ม มองไอริณด้วยสายตาดูถูก เธอไม่รู้หรอกว่าตอนเด็กเธอเคยมองอีกฝ่ายเป็นญาติบ้างหรือเปล่า แต่เท่าที่จำได้คือไม่เคย คนเป็นแม่บอกเสมอว่าไอริณเป็นแค่คนอาศัย เธอสามารถใช้ทำอะไรก็ได้
“งานอะไรคะ” หญิงสาวถามอย่างระแวง งานง่าย ๆ สบาย ๆ ที่เธอคิดออกมันมีไม่กี่งานหรอก
“คุณอรัญเขาอยากได้คนไปดูแลเพื่อแลกกับหนี้ทั้งหมดของลุงแกน่ะ” นางพิมพ์ทองทำหน้าตาตื่นเต้นราวกับมันเป็นอะไรที่ดีเลิศเลอ “เป็นไง ง่าย ๆ สบาย ๆ ใช่ไหมล่ะ”
แต่คนฟังถึงกับอึ้งกลืนน้ำลายลง แล้วถามกลับเสียงสั่น “นี่หมายความว่าป้าจะยกไอซ์ให้เขาเพื่อล้างหนี้อย่างนั้นเหรอคะ” ไอริณมองสองแม่ลูกที่ทำหน้าตาท่าดีอกดีใจอย่างตัดพ้อพลางกัดเม้มปากตัวเองไว้แน่น
“หรือแกจะให้ยัยแพนไปอย่างนั้นเหรอ แกมันไม่เหลือใครแล้ว ฉันเลี้ยงแกมาจนทุกวันนี้ได้อะไรบ้าง เพราะมีแกเพิ่มมาเป็นภาระอีกคน เงินมันถึงขาดมือหาจ่ายหนี้เขาไม่ทัน รู้เอาไว้เสียด้วย” นางพิมพ์ทองโยนความผิดนั้นให้กับหลานสาวทั้งที่รู้ดีว่ามันไม่ใช่ความจริง แต่ใครจะสน ถ้ามีสักคนที่จะต้องลงนรก คนคนนั้นก็ต้องเป็นไอริณ อีเด็กกาฝากที่สามีเธอเอามาเลี้ยงโดยที่นางไม่ได้เต็มใจ ไม่ใช่ลูกสาวที่น่ารักของนาง
ไอริณสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ กำมือทั้งสองข้างแน่นจนสั่น แล้วเค้นเสียงถามป้าสะใภ้ “งั้นถ้าบอกเขาว่าไอซ์จะหาเงินมาทยอยคืนเขาเองได้ไหมล่ะคะ”