บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 เจ้าป่าเรือพ่วง

“มีอะไรเจ้าเท็น ปลุกพ่อทำไมตั้งแต่เช้า” สีหราชถามเด็กชายวัยสิบสองปีที่กำลังยืนตีสีหน้าระอา พร้อมกวาดสายตามองทั่วร่างเขา

“วันนี้เท็นไปอยู่หอโรงเรียนวันแรก พ่อบอกว่าจะไปส่งด้วยตัวเอง จำไม่ได้แล้วหรือ”

“จำได้สิ แล้วนี่กี่โมงแล้วล่ะ” ชายหนุ่มตื่นจากความงัวเงียทันที เมื่อนึกถึงนัดหมายที่ให้ไว้กับบุตรชายคนเดียว

“หกโมงเช้า เท็นมาปลุกพ่อไว้ก่อน เมื่อคืนคนในบ้านบอกว่าพ่อกลับมาตั้งแต่สองทุ่ม แต่กว่าไฟในห้องทำงานจะปิดลงก็เลยตีสองไปแล้ว เท็นเลยกลัวว่าพ่อจะตื่นสาย” เจ้าของวงหน้าที่มีเค้าความคมสันไม่ต่างจากเขาพูดพลางหลิ่วตา

“อืม ไปรอข้างล่างก่อน พ่ออาบน้ำ แต่งตัวเสร็จ แล้วจะตามลงไปกินข้าวมื้อเช้าด้วย”

“ครับ” เด็กชายวัยกำลังโตรับคำก่อนยกกระเป๋าเป้ใบใหญ่แบกไว้บนหลัง แล้วก้าวลงบันไดสู่ชั้นล่าง สีหราชมองตามจนลับตา ก่อนจะปิดประตูเพื่อจัดการทำธุระส่วนตัวตามที่บอกลูกชาย

เกือบสี่สิบนาทีจากนั้น เมื่อชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องรับประทานอาหาร เขาก็นึกแปลกใจที่เห็นชายชราร่างเล็กและบิดานั่งสนทนาอยู่ด้วยสีหน้าจริงจัง โดยมีบุตรชายวัยสอดรู้สอดเห็น (ตามความคิดของเขา) นั่งฟังอยู่ใกล้

“ผมไม่รู้ว่าคุณปู่จะรับมื้อเช้าที่นี่ ไม่งั้นจะรีบลงมา”

“จะรีบทำไม นี่ก็ยังไม่ถึงเวลากิน อีกอย่างปู่แค่แวะมาคุยธุระกับพ่อของเรา เสร็จก็จะกลับไปกินพร้อมย่าของแก แต่สิงโตมาก็ดี ปู่มีเรื่องจะบอก”

นายโมกข์ ชายชราหัวใจแกร่งผู้เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของตระกูลบอกด้วยน้ำเสียงแหบพร่าทว่ายังคงทรงอำนาจ

“มีอะไรหรือครับคุณปู่” สีหราชถามพลางทรุดกายนั่งข้างบุตรชาย ซึ่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับบิดาและปู่ของเขา

“ปู่เห็นว่าผู้จัดการธุรกิจห้องเย็นลาออกไปสักพักแล้ว และตอนนี้สิงโตก็เปิดนิคมอุตสาหกรรมเฟสใหม่ขึ้นมา งานคงหนักน่าดู ปู่เลยคิดจะให้น้าของเจ้าเท็นเข้ามาช่วย แกเห็นเป็นยังไง”

“ความจริงงานทั้งหมดที่ผมดูอยู่ก็ไม่หนักหนาอะไรนี่ครับ ในส่วนธุรกิจห้องเย็น ผมอยากรอรับคนที่เหมาะสมเข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้จัดการตัวจริงมากกว่าจะให้ใครมาช่วยเป็นครั้งคราว”

“หมายความว่าแกไม่เห็นด้วยกับปู่งั้นหรือ” นายโมกข์ถามย้ำหลานชายตัวโต อีกฝ่ายถอนหายใจหนักหน่วง ก่อนจะตอบ

“เพชรสีไม่เหมาะกับงานที่สะพานปลาหรอกครับ หนักไปสำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆ” ...และเหยาะแหยะ คำท้ายสีหราชแค่คิดไว้ในใจ

“งานในสำนักงานล่ะ พอจะมีตำแหน่งว่างหรือเปล่า อย่างพวกงานบัญชีที่เห็นว่าจะหาคนมาช่วยคุณอุ๊นั่นแหละ” ผู้อาวุโสสูงสุดยังคงรุกถาม ซึ่งคราวนี้สีหราชต้องถอนหายใจหนักยิ่งกว่าเดิมเมื่อคาดเดาถึงเจตนาของชายชรา

“คนที่จะมาช่วยคุณอุ๊ ผมตั้งใจจะให้เธอคัดเลือกด้วยตัวเอง ผมอยากให้เกียรติคนเก่าแก่ที่ทำงานด้วยกันน่ะครับ”

นายมานพผู้เป็นบิดาของสีหราช ชายที่เข้าสู่วัยชรามาได้สองปี หากว่ายังคงกระฉับกระเฉงนั่งฟังการโต้ตอบของสองปู่หลานมาได้สักพัก เมื่อเห็นว่าคงยากที่จะตกลงกันได้ จึงเอ่ยแทรกขึ้นมา

“ปู่อยากจะช่วยให้เพชรสีมีการมีงานทำ ถ้าสิงโตคิดว่าตำแหน่งที่บอกยังไม่เหมาะสม ก็ดูตำแหน่งอื่นมาแทนแล้วกัน”

สิ้นคำของบิดา สีหราชก็เหล่ตามองปู่อย่างรู้ทัน และคนถูกมองก็เมินหนีพร้อมตีสีหน้าไม่รู้ไม่เห็นไปตามเรื่องตามราว ในการณ์นี้ชายหนุ่มเพียงตอบรับว่าจะช่วยดูให้ แต่ก็ไม่รับปากว่าจะสมความปรารถนาคนที่เข้ามาขอร้องเขาตั้งแต่เช้าตรู่หรือไม่

หลังเสร็จสิ้นธุระ ต่างคนก็แยกย้ายกันไป บนโต๊ะอาหารในบ้านหลังใหญ่จึงเหลือเพียงสีหราชซึ่งนั่งจิบกาแฟรอเจ้าเท็นหรือเด็กชายธีรัณย์ที่กำลังจ้วงข้าวต้มถ้วยใหญ่ใส่ปากอย่างไม่สนใจใคร จนได้เวลาสองพ่อลูกจึงเดินตรงไปที่รถซึ่งถูกนำมาจอดรอเหมือนเช่นทุกวัน

“ความจริงถ้าเท็นจะอยู่บ้าน แล้วช่วงไหนซ้อมว่ายน้ำจนดึกก็โทร. มาเรียกคนรถให้ไปรับก็ได้ ไม่จำเป็นต้องไปอยู่หอพักโรงเรียน”

คุณพ่อยังหนุ่มเปรยขณะบังคับรถให้แล่นในช่องจราจรบนถนนสายหลักมุ่งออกนอกเมืองไปในทิศทางของโรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่ง ซึ่งมีเด็กนักเรียนที่อยู่ประจำเป็นส่วนใหญ่ และไปกลับเป็นบางส่วนอย่างบุตรชายของเขา

“ไม่ละครับ เท็นขอไปพักที่โน่นดีกว่า นอกเวลาซ้อมเท็นจะได้เล่นสนุกกับเพื่อนด้วย” คนนั่งบนเก้าอี้โดยสารข้างคนขับโต้กลับเร็วทันใจ

“สรุปว่าที่บอกคุณปู่กับคุณย่าเรื่องซ้อมว่ายน้ำในวันนั้นก็เป็นแค่ข้ออ้างละสิ ใช่หรือเปล่า แล้วทำยังไงคุณย่าถึงยอมให้ไปอยู่หอพักล่ะ” คนรู้ทันดักคอถามเสียงกลั้วหัวเราะ

“ตอนแรกไม่ยอมหรอก คุณย่าบอกจะให้ซ้อมว่ายในสระที่บ้าน แต่เท็นว่าต้องซ้อมในสระว่ายน้ำยาวๆ ตามมาตรฐานโอลิมปิกแบบที่โรงเรียนเท่านั้น คุณย่าถึงยอมแพ้แล้วให้เท็นไปอยู่หอเพื่อจะได้ซ้อมว่ายน้ำอย่างเต็มที่”

เจ้าคนขี้โอ่บอกอย่างภาคภูมิใจที่หลอกคุณย่าวัยชราได้สำเร็จ สีหราชส่ายหน้าอย่างระอาระคนขบขัน ไม่รู้ว่านิสัยแบบนี้ได้มาจากใครกัน ถึงได้กะล่อนลื่นไหลตั้งแต่เล็กกระทั่งเริ่มโตก็ยังไม่เปลี่ยน แล้วจึงเหลือบมองเด็กชายเมื่อได้ยินคำถามแปลกหู

“ว่าแต่พ่อเถอะ คุณทวดรุกใหญ่แล้ว มีอะไรให้เท็นช่วยก็บอกได้นะ”

“เรื่องอะไรของเรา หืม”

“โธ่! ก็เรื่องที่คุณทวดจะหาเมียให้พ่อน่ะสิ อะไรกัน ตกลงว่าเมื่อกี้พ่อไม่รู้ทันหรอกเหรอ เท็นว่าแล้วเชียว เฮ้อ! เท็นไม่อยู่ดูแลสักคนแล้วพ่อจะรอดจากเงื้อมมือน้าเพชรได้ไหมเนี่ย เป็นห่วงจริงๆ” ท้ายเสียงบ่นพึมอย่างหนักอกหนักใจเสียเต็มประดา จนคนฟังรู้สึกทนไม่ไหวต้องร้องขึ้นด้วยความหมั่นไส้

“ไอ้เด็กแก่แดด เงียบไปเลย ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของผู้ใหญ่ มีหน้าที่เรียนหนังสือก็เรียนไป หรือจะว่ายน้ำเป็นนักกีฬาทีมชาติก็ทำของนายไป”

“เท็นก็ไม่อยากยุ่งเรื่องของผู้ใหญ่หรอก ไม่อยากปวดหัวด้วย แต่เรื่องนี้ของผู้ใหญ่กระทบต่อความเป็นอยู่ของเท็น เท็นจึงต้องเข้าไปมีส่วนร่วม เท็นขอนะพ่อ ว่าอย่ามุบมิบตัดสินใจโดยที่เท็นไม่รู้ไม่เห็นอย่างเด็ดขาด ไม่อย่างนั้น โกรธกันเลยนะ”

เจอเข้าแบบนี้ สีหราชก็ไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะขำหรือโมโหกับความตื่นตัวในการมีส่วนร่วมต่อ ‘เรื่องนี้ของผู้ใหญ่’ อย่างออกหน้าออกตาของลูกชายดี แต่ความเป็นจริงชายหนุ่มได้แต่ตอบรับคำตามที่อีกฝ่ายร้องขอเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา

“เอาน่า ถ้ามีอะไรพ่อต้องบอกเท็นเป็นคนแรกอยู่แล้ว ไม่ทำมุบมิบหรอก ว่าแต่เราเถอะ ไปอยู่หอพักกี่วัน แล้วกลับบ้านวันไหน จะให้พ่อไปรับหรือเปล่า”

“เท็นตั้งใจจะอยู่ตลอดสัปดาห์ ป้าวาดช่วยจัดเสื้อผ้าของใช้ให้จนถึงวันศุกร์เลย ถึงเวลาจะโทร. บอกพ่อแล้วกัน”

เด็กชายตอบฉะฉาน ซึ่งสีหราชก็พอใจที่จะให้ธีรัณย์เป็นแบบนี้ แบบที่โตขึ้นมาอย่างคนกล้าคิดกล้าทำและสามารถตัดสินใจในทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามา

กระทั่งรถแล่นผ่านประตูรั้วเข้ามาจอดหน้าหอพักนักเรียน เด็กชายใช้เวลาล่ำลาบิดาไม่นานก็ผลุบกายเข้าไปข้างในอย่างร่าเริง สีหราชนั่งมองจนลับตาก่อนจะถอยรถออกมา แล้วมุ่งสู่สำนักงานซึ่งเป็นอาคารสามชั้นที่ปลูกสร้างขนาบด้วยอาคารเล็กอีกสองหลังบนพื้นที่กว่าสิบไร่ที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel