บทที่ 6
บทที่ 3
“ไม่! เป็นไปไม่ได้ ฮาคิมไม่ได้ขโมย”
“ผมไม่ได้ขโมยสร้อยเพชรของแม่เลี้ยง”
ทั้งสองแม่ลูกต่างก็ตะโกนเสียงดังลั่น เพื่อประกาศถึงความบริสุทธิ์ของพวกตน พรวลัยผู้เป็นมารดาตกใจหน้าซีดเผือดแทบจะเป็นลม ส่วนฮาคิมเบิกตาโตไม่เชื่อว่ามีสร้อยเพชรอยู่ในตู้เสื้อผ้าของตน
ก็แน่นอน...ในเมื่อเขาไม่ได้ขโมยสร้อยเพชร แล้วสร้อยมูลค่ามหาศาลจะมาอยู่ในตู้เสื้อผ้าของเขาได้อย่างไรกัน ถ้าหากเขาไม่ถูกปรักปรำ
“ผมไม่ได้ขโมย” ฮาคิมตะโกนเสียงดังยืนยันความบริสุทธิ์ของตนอีกครั้ง
และดารินกับเจ้าสัวสารัชก็ชี้นิ้วไปยังตู้เสื้อผ้าเก่าๆ ให้แม่เลี้ยงรุจิราผู้เป็นเจ้าของสร้อยเพชรเส้นนี้ได้เห็นหลักฐานมัดตัวขี้ขโมยด้วย
“มึงยังกล้าปฏิเสธอีกหรือไอ้ฮาคิม นี่ยังไง...หลักฐานสำคัญคือสร้อยเพชรของแม่เลี้ยงรุจิรา ถูกซ่อนไว้ใต้เสื้อผ้าของมึง”
เจ้าสัวสารัชบอกเสียงดัง และแม่เลี้ยงรุจิราก็รีบเดินมาดูหลักฐานให้เห็นกับตาตนเอง
“ใช่! นี่มันสร้อยเพชรของฉัน” แม่เลี้ยงรุจิรารีบคว้าสร้อยเพชรมาถือไว้ในมือแล้วกำไว้แน่น เค้นเสียงด่าฮาคิมด้วยความโกรธจัด
“แกขโมยสร้อยของฉัน แล้วยังกล้าปฏิเสธว่าไม่ได้ขโมย”
“ผมไม่ได้ขโมยจริงๆ ครับ แม่เลี้ยง” ฮาคิมส่ายหน้าขณะหันไปปฏิเสธกับแม่เลี้ยงรุจิรา
“ใช่ ฮาคิมไม่ได้ขโมย ลูกของฉันไม่ได้ขโมยสร้อยของแม่เลี้ยง ทุกคนกำลังเข้าใจผิด”
พรวลัยกำลังจะเป็นลมอยู่รอมร่อแล้ว รู้ว่าลูกชายของตนเป็นผู้บริสุทธิ์ แม้พวกเธอจะยากจน แทบไม่มีเงินยาไส้ แต่กระนั้นก็ไม่เคยสอนให้ลูกเป็นหัวขโมย
“ถ้าไอ้ฮาคิมไม่ได้ขโมย แล้วสร้อยเพชรของแม่เลี้ยงจะมาอยู่ในตู้เสื้อผ้าของมันได้ยังไง คิดสิ!”
ดารินชี้นิ้วด่าเสียงดังลั่น และเจ้าสัวสารัชก็ก้าวเท้ายาวๆ เข้ามาใกล้ ก่อนจะซัดหมัดเต็มแรงลงบนใบหน้าของฮาคิม
ผัวะ!!!
“ฮาคิม! ลูกแม่”
พรวลัยร้องลั่นเมื่อเห็นลูกชายถูกชกเต็มแรงจนทรุดลงไปกองกับพื้น ขณะเดียวกันนั้น คุณหนูนารากรซึ่งยืนดูเหตุการณ์อยู่ตลอดเวลา ก็ร้องลั่นไม่แพ้กัน เมื่อเห็นเพื่อนของเธอถูกบิดาชกอย่างไม่ยั้งมือ
“ฮาคิม!!!”
นารากรตะโกนเรียกเพื่อนรักด้วยความตกใจ สีหน้าเหยเกจะร้องไห้ขณะทำท่าจะเข้าไปช่วยฮาคิม แต่ก็ถูกป้าแก้วจับยึดร่างเล็กไว้ พร้อมกับกระซิบบอกข้างใบหู
“คุณหนู อยู่เฉยๆ ค่ะ”
“แต่...ฮาคิมถูกคุณพ่อทำร้าย”
น้ำตาถึงกับเอ่อคลอเบ้า เพราะเห็นมีเลือดแดงฉานไหลทะลักจากจมูกของเด็กหนุ่ม ซึ่งดูเหมือนว่าจมูกของฮาคิมจะหักด้วย
“คุณหนู เชื่อป้าแก้วนะคะ”
ป้าแก้วกระซิบบอก จากนั้นก็ดึงร่างเล็กของคุณหนูที่เธอเลี้ยงดู ให้ขยับกายถอยห่างออกมาให้พ้นจากรัศมีที่อาจจะโดนลูกหลงได้
ฮาคิมยกมือกุมจมูกของตัวเอง แล้วก็ต้องตกใจกับความเหนียวเหนอะหนะของเลือดแดงฉานที่ไหลจากจมูก เจ็บ
ปวดจนน้ำตาซึม แน่นอนว่าจมูกของเขาหักจนผิดรูปจากการถูกเจ้าสัวสารัชชกเต็มแรง แต่ไม่ว่าจะเจ็บปวดมากเพียงใด เด็กหนุ่มก็ยังคงประกาศถึงความบริสุทธิ์ของตนเอง
“ผมไม่ได้ขโมย”
ผัวะ!
อีกครั้งที่ฮาคิมถูกเจ้าสัวสารัชทำร้าย แต่คราวนี้ไม่ใช่ด้วยฝ่ามือ แต่เป็นเท้าหนักๆ ที่เตะไปบนร่างของฮาคิมอย่างไม่ออมแรง พร้อมกับชี้นิ้วด่าดังลั่น
“ไอ้งูพิษ ไอ้เนรคุณ เลี้ยงเสียข้าวสุก กูอุตส่าห์ให้ที่อยู่อาศัย เลี้ยงดูตั้งแต่แรกเกิด แต่มึงกลับมาแว้งกัด ขโมยของเพื่อนรักของกู”
ผัวะ!
เจ้าสัวสารัชเตะช้ำลงไปบนร่างของฮาคิมอีกครั้ง ซ้ำกับตำแหน่งเดิมที่เตะเมื่อสักครู่ และคราวนี้ก็ทำให้เด็กหนุ่มต้องร้องลั่นเพราะความเจ็บปวด
“โอ๊ยย!!!”
พรวลัยร้องไห้โฮตั้งแต่เห็นลูกชายถูกชกกระทั่งจมูกหักเลือดไหลนอง นางถลาเข้าไปกอดลูกชายไว้แน่น ยิ่งฮาคิมถูกเจ้าสัวเตะซ้ำ กระทืบเท้าลงบนร่างอย่างไม่ปรานี ก็กอดลูกไว้ใช้ร่างของตนเป็นเกราะกำบังปกป้องลูกชาย ร้องไห้ขอความเมตตาจากเจ้าสัวสารัช
“เจ้าสัว...พอแล้วค่ะ อย่าทำร้ายฮาคิมเลย”
“ลากนังพรวลัยออกมา” เจ้าสัวสารัชสั่งคนรับใช้คนอื่นๆ ที่ยืนมุงดูเหตุการณ์อยู่ไม่ห่าง
แม้ไม่อยากทำตามคำสั่ง แต่ก็ไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งของผู้เป็นเจ้านาย คนรับใช้ผู้ชายสองคนเข้าไปจับต้นแขนของพรวลัยไว้ แต่นางก็สะบัดหนี ยกมือไหว้อ้อนวอนทั้งน้ำตานอง
“เจ้าสัว...ฉันกราบละค่ะ อย่าทำร้ายลูกของฉันเลย ฮาคิมไม่ได้ขโมย...”
“แม่...อย่าไปกราบเขา ผมไม่ผิด ผมไม่ได้ขโมย”
ดวงตาคมกริบแดงก่ำด้วยความเจ็บปวดเพราะพิษบาดแผลระคนโกรธแค้นผู้เป็นเจ้านาย เด็กหนุ่มจ้องมองดารินด้วยแววตาแข็งกร้าวขณะเค้นเสียงดัง
“ต้องมีคนใส่ร้ายผม เอาสร้อยเพชรมาไว้ในตู้เสื้อผ้าของผม”
เผียะ!!!
คราวนี้เป็นดารินที่ถลาเข้ามาตบหน้าของฮาคิมเต็มแรง ตัวสั่นเทิ้มขณะชี้นิ้วกราดด่า
“ไอ้สารเลว มึงกำลังจะพูดว่าฉันเป็นคนเอาสร้อยเพชรไปไว้ในตู้เสื้อผ้าของมึงใช่ไหม! ดูสารรูปของมึงซะก่อนๆ ที่จะมาว่าฉัน...ฉันเป็นใคร มึงเป็นใคร ฉันมีเครื่องเพชรมากมายที่เจ้าสัวซื้อให้ ฉันจำเป็นต้องขโมยสร้อยเพชรของแม่เลี้ยงรุจิราไหม ส่วนมึง...แม้แต่เงินที่จะซื้อข้าวสารกรอกหม้อยังไม่มี ฉันกับเจ้าสัวทำดีกับพวกมึงตลอดมา ทั้งให้ที่อยู่ ทั้งให้ข้าวกิน แต่มึงกลับขโมยสร้อยเพชรของแม่เลี้ยงแล้วยังมาปรักปรำฉันอีก”
“ผมต่างหากที่ถูกปรักปรำ”
ฮาคิมตอบเสียงแข็ง เลือดแดงฉานยังไหลไม่หยุด ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยฝ่ามือทั้งจากของเจ้าสัวสารัชและดาริน แต่กระนั้นเด็กหนุ่มก็ไม่ร้องขอความเมตตา มีแค่เพียงความยุติธรรมเท่านั้นที่เขาต้องการ
“ฉันจะโทร.เรียกตำรวจให้ลากคอมึงเข้าคุก!”
“เจ้าสัว...ได้โปรดเถอะค่ะ...ฮาคิมไม่ได้ขโมย...อย่าแจ้งตำรวจเลยค่ะ” พรวลัยรีบคลานเข้าไปกอดขาของเจ้าสัวสารัชไว้ ขณะร่ำไห้อ้อนวอนขอความเมตตาให้กับลูกชาย
“ถอยไป!”
ไม่ได้ตะโกนไล่แค่ปากเปล่าเท่านั้น แต่เจ้าสัวสารัชได้ยกเท้าถีบร่างเล็กของพรวลัยเต็มแรง จนนางกระเด็นไปอีกทาง
“โอ๊ยยย...”
พรวลัยร้องครางเสียงดัง เพราะเจ็บปวดราวกับกระดูกกำลังจะหักจากฤทธิ์ของฝ่าเท้าหนักๆ ของเจ้าสัวสารัช
“แม่...”
ฮาคิมเข้าไปกอดร่างเล็กของมารดาไว้แน่น ใช้ร่างของตนเองปกป้องมารดาไม่ให้ถูกเจ้าสัวสารัชทำร้ายได้อีก ขณะเดียวกันก็หันไปเกรี้ยวกราดใส่เจ้าสัว
“อย่าทำร้ายแม่ของผมอีก”
เจ้าสัวสารัชไม่คิดเชื่อฟังคำสั่งของฮาคิม เขากดโทรศัพท์โทร.แจ้งตำรวจ พอกดวางสายแล้วก็หันไปสั่งคนรับใช้คนอื่นๆ ต่อ
“ลากตัวไอ้ฮาคิมไปที่บ้าน รอตำรวจมาลากคอมันไปเข้าคุก”
“ครับเจ้าสัว...”
ลุงผวนรับคำเสียงแผ่วเบา ขณะเข้าไปประคองฮาคิมให้ลุกขึ้นยืนก็เต็มไปด้วยความสงสารเด็กหนุ่ม เพราะเขาเองก็มั่นใจว่าฮาคิมไม่ใช่ขโมยตัวจริง
“ฮาคิมเอ๋ย...ลุงไม่รู้จะช่วยฮาคิมยังไง”
“ไม่เป็นไรครับ ขอแค่ลุงเชื่อว่าผมไม่ใช่คนขโมยก็พอแล้วครับ”
ฮาคิมกัดฟันแน่นเมื่อความเจ็บปวดแล่นมาปะทะกาย ขณะพยายามลุกขึ้นตามแรงประคองของลุงผวนและมารดาที่รีบเข้ามาช่วย จากนั้นก็เดินตัวงอตามทุกคนเข้าไปภายในคฤหาสน์หลังใหญ่
และขณะกำลังก้าวเดินอยู่นั้น หนูน้อยนารากรก็วิ่งเข้ามาจับมือของฮาคิมพร้อมกับยัดผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กให้กับฮาคิมด้วย
“ฮาคิมเช็ดเลือดออกก่อน คุณเจ็บมากไหม”
หนูน้อยนารากรเอ่ยถามเสียงสั่นเครือพร้อมกับสูดสะอื้น ดวงตาคู่สวยแดงก่ำจากการร้องไห้ด้วยความสงสารเพื่อนรัก
ฮาคิมอยากตอบว่าเจ็บปวดไปทั้งตัว แต่เมื่อเห็นหยาดน้ำตาที่เอ่อคลอเบ้าก่อนจะหยดแหมะลงบนใบหน้าของนารากร ก็ส่ายหน้าปฏิเสธ ฝืนยิ้มให้กับนารากรด้วย
“ไม่เจ็บเท่าไรครับ ผมทนได้”
ปากนั้นบอกว่าไม่เจ็บ แต่เจ้าตัวกลับเดินตัวงอตามแรงประคองของมารดาและลุงผวน และในตอนท้ายก็ไม่ลืมเอ่ยปลอบนารากร
“คุณนาราอย่าร้องไห้นะครับ ผมไม่เป็นอะไรมากหรอกครับ”
“ค่ะ นาราจะไม่ร้องไห้ค่ะ”
หนูน้อยนารากรรับคำ ทว่าน้ำตายังคงรื้นขอบตาเหมือนเดิม จากนั้นก็เดินตามฮาคิมไป อยากช่วยเพื่อนรักคนนี้ แต่ไม่รู้ว่าจะช่วยฮาคิมได้อย่างไร