บท
ตั้งค่า

๒.๒ น้ำผึ้ง(ไม่)หวาน

ร่างบางนอนหงายอยู่บนเตียงขนาดสามฟุต มือขวาจับทะเบียนสมรส มือซ้ายถือบัตรประชาชนอันใหม่ ชูทั้งสองอย่างอยู่ตรงหน้าตัวเอง ดวงตากลมจ้องมองกระดาษสองแผ่นนั้นสลับไปมา พลางถอนหายใจอย่างหนักอึ้งเป็นระยะกับสถานะใหม่ของตัวเอง ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วจนตั้งรับแทบไม่ทัน เมื่อวานเธอยังเป็นสาวโสดบริสุทธิ์ แต่มาวันนี้เธอกลายสภาพมาเป็นผู้หญิงที่มีสามีทั้งทางพฤตินัยและนิตินัยเรียบร้อยแล้ว ทว่าคู่ของเธอกับจอมทัพมันช่างต่างกับสามีภรรยาคู่อื่นๆ อย่างลิบลับ

สายน้ำผึ้งตัดเรื่องของจอมทัพออกไปจากความคิด แล้วเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อส่งใบสมัครงาน และภายในวันเดียวกันนั้นหญิงสาวก็ได้รู้ซึ้งว่านามสกุลและสถานะภรรยาของจอมทัพมันมีผลต่อชีวิตของเธอไม่น้อย เพราะหลังจากที่เธอส่งบัตรประชาชนและทะเบียนสมรสไปพร้อมกับการยื่นสมัครงานทางอินเทอร์เน็ตก็มีบริษัทโทร.มานัดให้ไปสัมภาษณ์งาน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีบริษัทไหนสนใจประวัติของเธอเลย

กริ๊ง…

เสียงโทรศัพท์มือถือเครื่องละไม่กี่พันดังขึ้น ทำให้หญิงสาวหยุดความคิดของตัวเองชั่วคราว แล้วหยิบโทรศัทพ์ขึ้นมากดรับสายเมื่อเห็นว่าคนที่โทร.มาคืออันดามัน

“หวัดดีจ้ะอาสะใภ้” อันดามันทักทายอย่างล้อเลียนทันทีที่สายน้ำผึ้งกดรับ

“มิ้ม...ห้ามเรียกหยีแบบนี้นะ ไม่งั้นโกรธจริงๆ ด้วย”

“โกรธทำไม ก็ตอนนี้หยีเป็นอาสะใภ้ของมิ้มแล้วนี่นา รู้ไหมว่ามิ้มดีใจแค่ไหน อุตส่าห์แอบวางแผนเอาไว้ซะเยอะแยะ บทจะง่ายก็ง่ายจนมิ้มยังไม่ได้ทำอะไรเลย”

“มิ้มคงไม่คิดว่าหยีจับอาภูของมิ้มใช่ไหม” สายน้ำผึ้งถามอย่างไม่ค่อยแน่ใจ

“บ้าสิ...มิ้มจะคิดบ้าๆ แบบนั้นได้ยังไง เรารู้จักกันมากี่ปีแล้ว มิ้มรู้ว่าหยีเป็นคนยังไง ถึงได้ดีใจมากไงที่ได้หยีเป็นอาสะใภ้จริงๆ”

“แต่คุณภูคงไม่ได้รู้สึกเหมือนมิ้มหรอก หยีรู้สึกผิดนะที่บังคับให้เขารับผิดชอบ” เจ้าของเสียงหวานพูดอ่อยๆ

“จะรู้สึกผิดทำไม ก็อาภูทำผิด อาภูก็ต้องรับผิดชอบสิ”

“หยีคิดว่าอีกไม่นานหยีจะหย่าให้คุณภู”

“บ้าน่าหยี มิ้มไม่มีทางยอมให้หย่าเด็ดขาด” อันดามันบอกอย่างฮึดฮัด และแอบมั่นใจลึกๆ ว่าความน่ารักของสายน้ำผึ้งจะเอาชนะใจอาของเธอได้ในที่สุด

“หยีไม่อยากฝืนใจเขาน่ะมิ้ม แต่ช่างเถอะเราเลิกพูดเรื่องนี้กันก่อนดีกว่า มิ้มเพิ่งแต่งงานหยีไม่อยากให้ได้ยินเรื่องหย่า เดี๋ยวจะเสียฤกษ์ดีเปล่าๆ ว่าแต่เล่าให้ฟังบ้างสิว่าบรรยากาศเข้าหอของมิ้มเป็นไงบ้าง”

“จะฟังจริงน่ะ ติดเรตนะ” อันดามันย้อนถามอย่างเซี้ยวๆ ทำเอาคนฟังหน้าแดง

“เซี้ยวตลอดเลยมิ้มนี่”

“ก็หยีถามก่อนนี่ กล้าถามก็กล้าเล่าไง” อันดามันหัวเราะคิกคักอย่างถูกใจ “ว่าแต่ตอนนี้หยีอยู่กับอาภูหรือเปล่า”

“เปล่าจ้ะ...หยีอยู่คนเดียวที่หอเหมือนเดิม”

“อ้าว...ทำไมเป็นแบบนั้นล่ะ”

“ก็หยีบอกแล้วว่าคุณภูเขาไม่ได้อยากจะรับผิดชอบหยี เขาพาไปจดทะเบียนแล้วก็มาส่ง บอกหยีว่าอยากทำอะไรก็ทำ ต่างคนต่างอยู่ เขาแค่จะส่งเสียเลี้ยงดูตามหน้าที่ อีกอย่างคุณภูเขาก็บอกตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้วว่าเขามีคนรักอยู่แล้ว ป่านนี้ก็คงจะอยู่กับแฟนนั่นแหละ นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งนะมิ้มที่หยีคิดว่าจะหย่าให้คุณภู หยีไม่อยากพรากคนรักของใคร มันบาปเปล่าๆ”

น้ำเสียงยามที่สายน้ำผึ้งเล่าเรื่องนี้ฟังดูเศร้าสร้อยชอบกลในความรู้สึกของอันดามัน

“เอาไว้ค่อยๆ คิดนะหยี อย่าเพิ่งรีบด่วนตัดสินใจเลย ดูสถานการณ์ไปก่อนดีกว่า ถ้ามีอะไรก็โทร.หามิ้มได้เลยไม่ต้องเกรงใจ”

“เกรงใจสิ เห็นว่าอาภีมจะพาไปฮันนีมูนเย็นนี้แล้วไม่ใช่เหรอ”

“ก็ไม่ได้ฮันนีมูนกันยี่สิบสี่ชั่วโมงเสียหน่อย”

“แต่หยีเห็นสายตาอาภีมที่มองมิ้มแล้ว หยีว่าอาภีมต้องพามิ้มฮันนีมูนยี่สิบสี่ชั่วโมงแน่ๆ” สายน้ำผึ้งรู้สึกว่าตัวเองมีความสุขขึ้นเมื่อพูดถึงความรักของอันดามันกับภีมภัทร

“สักวันอาภูก็ต้องพาหยีไปฮันนีมูนเหมือนกันแหละ ตั้งรับไว้ให้ดีๆ ก็แล้วกัน อาภูคงจะหื่นไม่เบาเหมือนกันแหละน่า ไม่งั้นคงไม่ปล้ำหยีหรอก”

“เลิกพูดเรื่องหยีได้แล้ว ไปเตรียมตัวฮันนีมูนไป๊ หยีเองก็จะเตรียมตัวไปสัมภาษณ์งานเหมือนกัน”

“เขินล่ะสิ รู้นะว่าตอนนี้กำลังหน้าแดง” อันดามันเย้าแหย่ราวกับเห็นว่าตอนนี้แก้มนวลของสายน้ำผึ้งแดงปลั่งอยู่จริงๆ

“แม่คนรู้มาก”

“แน่ล่ะ ไม่งั้นมิ้มจะเป็นเพื่อนสนิทของหยีได้ไง”

“ขอให้อาภีมมาอุ้มขึ้นเตียงทีเถอะ เพี้ยง!” สายน้ำผึ้งแช่งผ่านสาย

“ไม่มีทางเสียหรอก อุ๊ยว้าย! อาภีม ปล่อยมิ้มก่อนค่ะ...อุ๊ย...”

อันดามันร้องอุทานเสียงรัญจวนก่อนที่สายจะถูกตัดทิ้ง ไม่ต้องเดาสายน้ำผึ้งก็รู้ว่าคำแช่งของเธอเมื่อครู่นี้เป็นจริงแล้ว หญิงสาวจึงได้แต่ยิ้มกว้างไปกับความสุขของเพื่อน ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ เมื่อย้อนนึกถึงเรื่องของตัวเอง

แสงแรกของดวงตะวันยามเช้าวันใหม่ส่องสว่างขึ้นพร้อมกับความหวังอันเรืองรองของหญิงสาววัยยี่สิบสอง ซึ่งตอนนี้งัวเงียขึ้นจากการนอนหลับเพราะเสียงนาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้เวลาเดิมเกือบทุกวัน มือเล็กวาดไปหยิบโทรศัพท์มาปิดเสียงปลุก ก่อนจะลุกขึ้นเพื่ออาบน้ำแต่งตัวออกไปสัมภาษณ์งานตามที่นัดไว้ ทว่าความตั้งใจเดิมก็มีอันสะดุดลง เมื่อถูกอาการครั่นเนื้อครั่นตัวเล่นงานอย่างรุนแรง ตามมาด้วยอาการเวียนศีรษะจนเพดานหมุนติ้วๆ แถมตัวยังร้อนราวกับถูกไฟอัง สายน้ำผึ้งรู้ตัวทันทีว่าตัวเองกำลังเผชิญกับอาการไข้หวัดอย่างรุนแรง ปกติเธอเป็นคนที่สุขภาพแข็งแรง นานๆ ถึงจะไม่สบายสักครั้ง แต่หากได้เป็นครั้งใดก็มักจะหนักเอาการ

ร่างบางล้มตัวลงนอนใหม่อีกครั้ง พร้อมกับกดโทรศัพท์เพื่อโทร.ไปเลื่อนนัดสัมภาษณ์อย่างอดเสียดายไม่ได้ นานๆ จะมีโอกาสดีๆ แบบนี้เข้ามาสักครั้ง หลังจากที่คุยกับปลายสายเสร็จก็ค่อยสบายใจขึ้นบ้าง เพราะทางนั้นเข้าใจและตอบกลับมาอย่างสุภาพมาก ส่วนงานที่ร้านเธอตั้งใจว่าจะโทร.ไปลาในช่วงเย็น

สายน้ำผึ้งนอนซมในห้องพักอยู่หลายชั่วโมง แต่อาการก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น จึงแข็งใจรวบรวมเรี่ยวแรงเท่าที่มีเดินลงไปข้างล่างเพื่อซื้อโจ๊กและยาที่หน้าปากซอย ทั้งๆ ที่ร่างกายไม่อยู่ในสภาพที่จะเดินเหินได้ไกลขนาดนั้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel