๑.๗ บุษบาริมทาง
“อย่านะคะคุณภาคิม!”
“อย่าอะไร เธอคิดว่าฉันจะทำอะไรเธอ” ภาคิมยิ้มร้าย ก้มลงมาใกล้ยิ่งกว่าเดิมทำให้วิโรษณาต้องหลับตาปี๋กลั้นใจรอรับสถานการณ์ แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าหัวเราะหึๆ ในลำคอเท่านั้น
“ตาคิม!” เสียงของอยุทธ์ดังแทรกขึ้นก่อนที่ภาคิมจะทำอะไรมากไปกว่านั้น “นั่นแกจะทำอะไรหนูปุ้ม ปล่อยหนูปุ้มเดี๋ยวนี้นะ”
ภาคิมปล่อยมือจากแขนเล็กแล้วยักไหล่เหมือนไม่ยี่หระ วิโรษณารีบวิ่งไปยืนหลบอยู่ข้างหลังของอยุทธ์ ร่างน้อยสั่นเทาเหมือนลูกนกเปียกฝน สีหน้ายังคงซีดเผือดด้วยความตกใจปนอับอาย
“จะเสียงดังไปทำไมครับคุณพ่อ ผมก็แค่ทักทายเด็กของคุณพ่อก็เท่านั้นเอง” ภาคิมเน้นคำว่า ‘เด็กของคุณพ่อ’ เป็นพิเศษ
“ทักทายอีท่าไหน หนูปุ้มถึงได้ตัวสั่นงันงกแบบนี้”
“ก็เด็กของคุณพ่อเป็นคนพิเศษไม่ใช่เหรอครับ ถ้าทักทายกันแบบธรรมดาทั่วไปมันก็ไม่พิเศษสมฐานะน่ะสิครับ” ภาคิมตอบอย่างยียวน
“แกนี่มันจริงๆ เลยนะ” อยุทธ์ได้แต่ส่ายหัวระอา
“แล้วคุณพ่อจะให้เธอทำหน้าที่อะไรในนี้ล่ะครับ”
“พ่อจะให้หนูปุ้มมาเป็นผู้ช่วยเลขาฯ ของพ่อ”
“ก็ไม่เลวนี่ครับ ตำแหน่งนี้ได้รับใช้ใกล้ชิดเจ้านายเสียด้วย คงจะเหมาะกับเธอ” น้ำเสียงของภาคิมยังเต็มไปด้วยอาการเหน็บแนมพร้อมกับปรายตาไปทางวิโรษณา
“ต้องเหมาะอยู่แล้วเพราะหนูปุ้มเป็นคนมีความสามารถ” อยุทธ์การันตีด้วยตัวเองอย่างมั่นใจ
“ถ้าอย่างนั้นก็เชิญคุณพ่อพาเด็กของคุณพ่อไปสอนงานเถอะครับ คุณพ่อการันตีด้วยตัวเองแบบนี้ท่าทางจะเรียนรู้อะไรต่อมิอะไรได้เร็วจริงๆ อย่างที่ว่า เพราะคุณพ่อน่าจะรู้จักเธอลึกซึ้งกว่าใครๆ ผมไปละ” ไหล่แกร่งยักขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะซุกมือทั้งสองข้างลงในกระเป๋ากางเกงแล้วเดินไปยังห้องทำงานของตัวเอง
“ลูกชายลุงรังแกอะไรหนูหรือเปล่า” อยุทธ์หันมาถามกับวิโรษณาหลังจากที่ภาคิมไปแล้ว
“เปล่าค่ะคุณลุง” วิโรษณาจำต้องปดเพื่อไม่ให้อยุทธ์ต้องเป็นกังวล
“อดทนหน่อยนะ สักวันเขาก็จะเห็นว่าหนูปุ้มน่ารักแค่ไหน”
“ปุ้มไม่หวังขนาดนั้นหรอกค่ะ ปุ้มรู้ว่าคุณภาคิมไม่ค่อยพอใจปุ้มนัก ถ้าการที่ปุ้มมาทำงานที่นี่ทำให้คุณลุงกับคุณภาคิมต้องมีปัญหากัน ปุ้มขอถอนตัวก็ได้นะคะ”
“ไม่เอาน่าหนูปุ้ม ลืมแล้วเหรอว่าทำไมลุงถึงอยากให้ปุ้มมาทำงานที่นี่” อยุทธ์เอ่ยปลอบ รู้ดีว่าวิโรษณากำลังเสียขวัญเพราะคงจะถูกลูกชายของตนข่มขู่เป็นแน่
“นี่มันเพิ่งจะเริ่มต้นใช่ไหมคะ”
“ลุงเชื่อว่าปุ้มทำได้” อยุทธ์กล่าวอย่างมั่นใจ
“ขอบคุณที่เชื่อใจปุ้มค่ะ”
“ลุงต่างหากที่ต้องขอบใจปุ้มที่ยอมรับในสิ่งที่ลุงขอร้อง”
“คุณลุงคือผู้มีพระคุณของปุ้มนี่คะ ถ้ามีสิ่งไหนที่ปุ้มทำให้ได้ปุ้มก็ยินดีตอบแทนค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นเข้าไปในห้องทำงานกับลุงเถอะ ลุงจะให้คุณอรชามาสอนงานให้”
“ค่ะคุณลุง”
จากนั้นประธานของธนากิจกรุ๊ปจึงเดินนำสาวน้อยเข้าไปในห้องทำงานจนกระทั่งอรชาซึ่งเป็นเลขานุการของอยุทธ์มาถึงก็ถูกเรียกตัวเข้าไปสอนงานให้กับวิโรษณา
ภาคิมทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ในห้องทำงานของตัวเอง คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างไม่พอใจที่เมื่อครู่นี้บิดาออกโรงปกป้องเด็กสาวคนนั้น ตั้งแต่มารดาของเขาเสียชีวิตไปเมื่อสิบกว่าปีก่อนอยุทธ์ก็ครองตัวเป็นโสดมาโดยตลอดและหันไปทุ่มเทให้กับการทำการกุศลและสาธารณประโยชน์แทน จนกระทั่งได้พบกับวิโรษณาบิดาของเขาก็ทำท่าว่าหลงเด็กคนนี้เป็นพิเศษจนกระทั่งเทียวไปเทียวมาสถานสงเคราะห์เป็นว่าเล่น และล่าสุดก็พามาทำงานในตำแหน่งที่ใกล้ชิดเสียด้วยสิ ความโกรธชนิดหนึ่งพุ่งวาบขึ้นมาจับหัวใจของภาคิมเมื่อคิดว่าวันใดวันหนึ่งบิดาอาจจะพาเด็กคนนี้เข้ามาแทนที่มารดาของเขาจริงๆ ก็ได้
ก๊อก... ก๊อก...
ประตูห้องทำงานของภาคิมถูกเคาะขัดจังหวะความคิดของเขาชั่วคราว และเมื่อภาคิมเอ่ยปากอนุญาตประตูก็ถูกเปิดเข้ามาโดยเลขานุการของเขานั่นเอง
“มีอะไรหรือเปล่าคุณนุชนารถ”
“หัวหน้าทีมวิศวกรส่งแบบโครงการใหม่มาให้คุณภาคิมอนุมัติค่ะ” นุชนารถตอบเจ้านายแล้วเดินเอาแฟ้มเอกสารไปวางไว้ให้ที่โต๊ะ
ภาคิมยกขาขึ้นไขว่ห้างแล้วประสานสองมือบนตักตัวเองขณะมองหน้าของเลขานุการวัยสี่สิบของตนแล้วคิดอะไรบางอย่างได้ในตอนนั้นจึงผุดยิ้มมุมปากออกมา
“คุณภาคิมมีอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมมองหน้าดิฉันแบบนั้น” นุชนารถถามอย่างงงๆ กับท่าทีของเจ้านาย
“คุณลาพักร้อนครั้งล่าสุดเมื่อไหร่”
“เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้วค่ะ”
“นี่ก็ใกล้จะครบปีแล้วสิใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ” นุชนารถตอบรับอย่างไม่เข้าใจนักว่าภาคิมถามทำไม จะว่าเพื่อตำหนิเรื่องการทำงานหรือการลางานของตนก็ไม่น่าใช่ เพราะเธอไม่เคยมาทำงานสายและแทบจะไม่เคยลางานด้วยซ้ำ
“ถ้าอย่างนั้นผมจะให้คุณลาพักร้อนหนึ่งเดือนเพื่อเป็นโบนัสในการทำงานที่ดีเยี่ยมมาตลอดของคุณ” ภาคิมยื่นข้อเสนอตามแผนการของตัวเองทันที
“จริงเหรอคะ!” นุชนารถอุทานด้วยความดีใจเพราะการได้หยุดยาวแบบนี้หาไม่ได้ง่ายนักกับการทำงานในบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างธนากิจกรุ๊ป หรือแม้แต่บริษัทอื่นๆ ก็ตามที
“จริงสิ”
“ว่าแต่เจ้านายให้ดิฉันลาพักร้อนนานขนาดนั้นแล้วใครจะทำงานแทนดิฉันล่ะคะ เจ้านายไม่ได้คิดจะไล่ดิฉันออกใช่ไหมคะ” นุชนารถอดสงสัยไม่ได้
“ไม่หรอกน่าอย่ากังวลไปเลย ส่วนเรื่องคนทำงานแทนคุณนั้นไม่ต้องห่วง พอดีท่านประธานรับผู้ช่วยเลขาฯ มาใหม่ ผมจะให้มาทำงานแทนคุณชั่วคราวเพื่อประเมินประสิทธิภาพการทำงานว่าจะไหวหรือไม่ไหว” ภาคิมบอกพลางลอบยิ้มร้ายอย่างหมายมาด
“แล้วถ้าเธอทำงานดีดิฉันจะไม่ตกงานเหรอคะ” นุชนารถสัพยอกผู้เป็นเจ้านายอย่างไม่รู้ความนัย
“ผมรับรองว่าคุณจะได้ทำงานในตำแหน่งเดิมหรืออาจจะเป็นตำแหน่งที่ดีกว่านั้นเมื่อคุณกลับมา” ภาคิมยืนยันหนักแน่น
“ขอบคุณเจ้านายมากค่ะ”
นุชนารถกลับออกไปจากห้องทำงานของภาคิมด้วยความสบายใจโดยไม่รู้ว่าผู้เป็นเจ้านายกำลังนั่งยิ้มมุมปาก แววตาคู่คมฉายประกายเจ้าเล่ห์ออกมาชัดเจน คราวนี้ลูกกวางน้อยแสนดื้ออย่างวิโรษณาจะหนีรอดจากน้ำมือของเขาไปไหนได้!