บทที่ 4
ได้ยินแค่คำว่า ‘โจรทะเลทราย’ ก็เริ่มใจไม่ดี แถมเป็นกังวลเป็นอย่างมาก เพราะไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมารับรู้เรื่องนี้
ไซนันแปลกใจกับคำถามของแสนรัก นี่หมายความว่าหญิงสาวพาลูกทัวร์มายังดินแดนทะเลทราย โดยไม่รู้ข้อมูลอะไรเลย
“ผมส่งข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ภายในประเทศคาลาส์ไปให้ทางบริษัทของคุณ เพื่อแจ้งให้ทราบว่าตอนนี้ทางรัฐบาลของเรา อยากให้ชะลอการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศของเราไว้สักหนึ่งถึงสองเดือน หรือหากยังต้องการเดิน
ทางมาท่องเที่ยวจริงๆ ก็อยากให้นักท่องเที่ยวทุกคนระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ รวมทั้งไกด์ต้องกำชับให้ลูกทัวร์ทำตามคำเตือนของไกด์ท้องถิ่นอย่างเคร่งครัด เพราะตอนนี้มีโจรทะเลทรายคอยดักปล้นสะดมรถของนักท่องเที่ยว ซึ่งทางรัฐบาลกำลังกวาดล้างโจรกลุ่มนี้ให้สิ้นซากไปจากบ้านเมืองของเรา”
“เอ่อ...โจรพวกนี้มันโหดเหี้ยมมากเลยใช่ไหมคะ”
แสนรักเอ่ยถามเสียงสั่นเทา แม้ยังไม่ได้รับคำตอบจากไซนัน แต่ใบหน้างามก็ซีดเผือดไปล่วงหน้าแล้ว แถมดวงตาคู่สวยยังเผยความหวาดกลัวให้เห็นอย่างชัดเจน
“หลังจากรีดทรัพย์สินเงินทองจนหมดตัวแล้ว ฆ่าหมกทะเลทรายคือสิ่งที่พวกมันมอบให้สำหรับนักท่องเที่ยวผู้ชาย และความน่ากลัวซึ่งเป็นซะยิ่งกว่าฝันร้ายที่นักท่องเที่ยวผู้หญิงจะได้รับคือ ถูกเรียงคิวข่มขืนจนหนำใจ ก่อนจะเอาไปขายต่อในตลาดทาส มันไม่ต่างจากเหมือนตกนรกทั้งเป็นเลยครับ”
แสนรักถึงกับเบิกตาโพลง นั่งแทบไม่ติดเก้าอี้ “ทำไมบอสและหัวหน้าไกด์ไม่บอกฉันเลย” แสนรักโอดครวญกับตนเอง ก่อนจะเอ่ยพูดกับไซนันบ้าง
“ฉันไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน เจ้านายพูดถึงแค่ความงดงามของแผ่นดินทะเลทรายแห่งนี้ แต่ไม่พูดถึงเรื่องโจรทะเลทรายแม้แต่คำเดียว”
“และคงไม่ได้บอกลูกทัวร์ด้วย” ไซนันคาดเดา
ซึ่งแสนรักก็พยักหน้ารับในทันที “ใช่ค่ะลูกทัวร์ไม่มีใครรู้เหมือนกัน”
“ถึงตอนนี้ผมไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมลูกทัวร์ของคุณแต่ละคน ถึงได้ใส่เครื่องประดับหรูหรา ถือกระเป๋าแบรนด์เนมแทบจะทุกคน”
ไซนันสังเกตเห็นตั้งแต่ไปรอรับแสนรักและนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้แล้ว ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าในก่อนหน้านี้ กลุ่มโจรที่โหดเหี้ยมและน่ากลัวที่สุด ซึ่งมีหัวหน้ากองโจรชื่อ ‘นาฟซา’ คงพากันป้วนเปี้ยนปะปนกับนักท่องเที่ยวอยู่ในสนามบินเพื่อคอยสังเกตการณ์และส่งข้อมูลไปรายงานให้หัวหน้ามันทราบแล้วก็เป็นไปได้
“แล้วเราจะทำยังไงดีคะ ช่วยฉันคิดหน่อยคะ พรุ่งนี้มีโปรแกรมทัวร์ทะเลทรายกับโอเอซิสด้วย ซึ่งฉันไม่มีอำนาจยกเลิกการทัวร์ประเทศคาลาส์ และหากจะให้ลูกทัวร์อยู่แต่ในโรงแรมหรือท่องเที่ยวแค่ในตัวเมือง พวกเขาคงไม่ยอม และฉันคงถูกถล่มเละแน่”
แสนรักรู้สึกปวดหัวตุบๆ ขึ้นมาทันที อยากร้องไห้เหลือกำลัง ทำหน้าที่ไกด์เป็นครั้งแรก ก็ดันเจออุปสรรคใหญ่โตถึงชีวิตซะแล้ว
“ผมจะลองติดต่อกับทางทหารดูก่อนนะครับว่าต้องทำอย่างไร บางทีอาจต้องส่งทหารนอกเครื่องแบบมาคอยคุ้มกันกรุ๊ปทัวร์ของคุณก็ได้ครับ” ไซนันเอ่ยแนะนำ ซึ่งน่าจะเป็นการออกที่ดีที่สุดในขณะนี้
แสนรักมีสีหน้าดีขึ้นมาบ้างกับคำพูดของไซนัน “ถ้าเป็นแบบนั้นได้ก็ดีค่ะ ขอกำลังทหารหลายๆ คนมาคอยคุ้ม
ครองพวกเรานะคะ”
“ผมจะพยายามครับ”
ไซนันแบ่งรับแบ่งสู้ ยังไม่มั่นใจว่าจะสามารถติดต่อให้กองกำลังทหาร มาคอยคุ้มกันกรุ๊ปทัวร์ของแสนรักได้มากน้อยเพียงใด
“สถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจแบบนี้ ฉันต้องแจ้งให้ลูกทัวร์ทราบไหมคะ” แสนรักเอ่ยปรึกษา นาทีนี้ทำตามคำแนะ
นำของไซนันคงเป็นการดีที่สุด
ไซนันช่างใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบว่า “อย่าบอกดีกว่าครับ แต่คุณกำชับให้ลูกทัวร์ทำตามคำแนะนำของผม เพราะพรุ่งนี้ผมจะไปทัวร์ทะเลทรายกับพวกคุณด้วย และพยายามตะล่อมไม่ให้พวกเขาใส่เครื่องประดับมากมายตอนออกไปเที่ยว เพื่อไม่ให้เป็นที่สะดุดตาจนมากเกินไป”
“ค่ะ คุณไซนัน ฉันพอมีวิธีพูดเพื่อให้พวกเขางดใส่เครื่องประดับได้ค่ะ”
“ดีมากครับ ส่วนเรื่องขอกำลังทหารนอกเครื่องแบบมาคอยคุ้มกัน เดี๋ยวผมจะติดต่อขอความช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนเลยครับ”
“ขอบคุณมากค่ะ ถ้าได้เรื่องยังไง คุณไซนันแจ้งให้ฉันทราบด้วยนะคะ”
“แน่นอนครับ”
“ถ้ายังงั้นฉันขอไปดูแลลูกทัวร์ก่อนนะคะ ไม่รู้ว่าป่านนี้เป็นยังไงบ้าง”
“เชิญครับ ถ้าต้องการความช่วยเหลือคุณโทร.หาผมได้ตลอดเวลาครับ”
“ขอบคุณอีกครั้งค่ะ คุณไซนัน”
แสนรักคลี่ยิ้มให้ไซนัน ก่อนจะผุดลุกขึ้นยืนเดินตรงไปยังลิฟต์ แต่ไม่ทันได้เข้าไปในลิฟต์ก็มีข้อความส่งรัวเข้ามือถือของเธออีกนับสิบๆ ข้อความ พอเปิดอ่านข้อความที่ลูกทัวร์แต่ละคนส่งหา ก็ได้แต่กลอกตาขึ้นบนด้วยความหนักใจ พร้อมกับบ่นอุบว่า
“โธ่เอ๋ย...แค่เปิดฝาขวดน้ำไม่ได้ ก็เรียกหาไกด์ให้ไปรับใช้ เฮ้อ...คิดถูกหรือเปล่านะยายแสนรัก ที่กระโจนมาทำอาชีพนี้”