บทย่อ
เพราะดวงตากลมโตที่จ้องมองด้วยแววหวาดกลัวระคนอ้อนวอนให้ช่วยชีวิตให้พ้นจากโจร ทำให้เขาต้องบอกกับตัวเองว่าจะปกป้องเชลยผู้นี้ด้วยชีวิตของเขา...
บทที่ 1
บทที่ 1
“สาธุ! ขอให้ลูกสัมภาษณ์งานผ่านด้วยเถอะค่ะ”
แสนรัก เจ้าของน้ำเสียงหวาน ยกมือไหว้กล่าวบนบานต่อศาลพระพรหม ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าของอาคารใหญ่โตนับสิบๆ ชั้น ในย่านธุรกิจใจกลางเมืองกรุงเทพฯ
“ขอให้ลูกได้ทำงานนี้เถอะค่ะ ไม่เช่นนั้นลูกอดตายแน่เลยค่ะ”
เรียวปากอิ่มทำปากขมุมขมิบกล่าวบนบานอีกครั้ง ไหว้ขอพรจากศาลพระพรหมแล้ว ก็ยกมือเล็กทั้งสองขึ้นลูบศีรษะ พร้อมกับตบเบาๆ ไปบนกระหม่อมของตนเอง
“สาธุๆ”
แสนรักสูดลมเข้าปอดลึกๆ เพื่อเรียกความกล้าและความมั่นใจให้กับตนเอง ก่อนจะก้าวเท้ายาวๆ เดินเข้าไปในตัวอาคาร ตรงไปยังเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์แล้วเอ่ยบอกกับพนักงานว่า
“ดิฉันมาสัมภาษณ์งานในบริษัท เดอะ ทราเวล ไลน์ เฟรน (The Travel like friends) ค่ะ”
ประชาสัมพันธ์สาวพยักหน้ารับรู้ แล้วเอ่ยบอกต่อ “ขอบัตรประชาชนเพื่อแลกกับบัตรผู้มาติดต่อด้วยค่ะ”
“ได้ค่ะ” แสนรักรีบยื่นบัตรประชาชนให้โดยไม่รอช้า
“ติดบัตรผู้มาติดต่อบนหน้าอกให้เห็นชัดเจนนะคะ” ประชาสัมพันธ์สาวแนะนำขณะยื่นบัตรให้
“ขอบคุณมากค่ะ” พอได้รับบัตรผู้ติดต่อมาแล้ว แสนรักก็เอ่ยขอบคุณอีกฝ่าย พร้อมกับหนีบบัตรไว้ตรงหน้าอกของตนเองด้วย
ขณะเดินตรงไปยังลิฟต์ แสนรักก็ใจเต้นแรง ยิ่งลิฟต์วิ่งขึ้นไปด้านบน ตัวเลขสีแดงๆ บอกจำนวนชั้นที่กำลังจะไปถึง ก็ใจเต้นไม่เป็นส่ำ ในหัวคิดไปสารพัดว่าตนเองจะถูกสัมภาษณ์งานอย่างไรบ้าง
พอลิฟต์เปิดออกกว้าง ซึ่งอยู่ด้านหน้าบริษัทเดอะ ทราเวล ไลน์ เฟรน พอดี แสนรักก็ถึงกับหน้าเหี่ยว ความผิด
หวังวิ่งเข้ามาจู่โจมในทันที เมื่อเห็นเหล่ามัคคุเทศก์ นับจำนวนแล้วได้สิบคนพอดิบพอดี ต่างก็นั่งเรียงรายอยู่บนเก้าอี้ ซึ่งทุกคนมีเป้าหมายอันเดียวกัน คือมาสัมภาษณ์งานเป็นมัคคุเทศก์ในบริษัทเดอะ ทราเวล ไลน์ เฟรน
“มีเพื่อนร่วมชะตากรรมเยอะถึงเพียงนี้เลยหรือ”
แสนรักบ่นอุบ ขณะกวาดสายตามองเหล่ามัคคุเทศก์ ที่ต่างก็นั่งรอเรียกสัมภาษณ์ หญิงสาวยิ้มแห้งๆ ให้คนอื่นๆ แล้วเดินไปยื่นเอกสารเรียกนัดสัมภาษณ์ให้กับเลขาฯ สาวสวย ซึ่งนั่งอยู่หน้าห้องของกรรมการบริษัท
“สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อแสนรัก มาสัมภาษณ์งานตามใบนัดค่ะ”
กนกพร ผู้เป็นเลขาฯ รับเอกสารมากวาดสายตามอง พลางหยิบบัตรคิวยื่นให้ “คุณได้คิวที่ 11 เชิญไปนั่งรอก่อนค่ะ เดี๋ยวฉันจะเรียกให้เข้าไปสัมภาษณ์ทีละคนค่ะ”
“ขอบคุณมากค่ะ”
รับบัตรคิวมาแล้ว แสนรักก็เดินมาทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ในแถวหลังสุด แอบลอบสังเกตผู้มาสัมภาษณ์งานไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง ซึ่งแต่ละคนดูมีประสบการณ์ในการทำหน้าที่เป็นไกด์มาอย่างโชกโชน จนนึกหวั่นว่าตัวเธอจะผ่านการสัมภาษณ์ให้เข้าทำงานเป็นไกด์ในบริษัทนี้หรือเปล่า
บริษัทเดอะ ทราเวล ไลน์ เฟรน เป็นบริษัทจัดนำเที่ยวทั่วโลกด้วยราคามิตรภาพ ทำให้มีลูกค้ามากมาย เส้นทางการท่องเที่ยวที่บริษัทแห่งนี้จัดนำเที่ยว มีทั้งยุโรป เอเชีย แอฟริกาใต้ และตะวันออกกลาง
การท่องเที่ยวในประเทศแถบตะวันออกกลาง เต็มไปด้วยทะเลทรายสีทองและโอเอซิสกลางเนินทรายอันสวยงาม เป็นเส้นทางการท่องเที่ยวที่แสนรักสนใจและอยากไปเที่ยวที่สุด
เมื่อเห็นบริษัทแห่งนี้เปิดรับสมัครไกด์เป็นจำนวนมาก เพื่อเน้นนำนักท่องเที่ยวไปท่องเที่ยวยังดินแดนแถบตะวัน
ออกกลางโดยเฉพาะ แสนรักก็รีบยื่นใบสมัครผ่านระบบออนไลน์บนเว็บไซด์ของบริษัทในทันที พอได้รับจดหมายนัดให้มาสัมภาษณ์ก็ยิ่งตื่นเต้น และภาวนาให้ผ่านการสัมภาษณ์ เพราะเธออยากเป็นไกด์ อยากไปเที่ยวยังดินแดนทะเลทรายเหลือเกิน
“คิวที่ 11 เชิญค่ะ”
ด้วยยังตกอยู่ในภวังค์ของความคิด แสนรักจึงไม่ได้ยินเสียงเลขาฯ เรียก เมื่อถึงคิวสัมภาษณ์ของตนเองแล้ว เดือดร้อนเลขาฯ คนสวยต้องตะโกนเรียกซ้ำอีกครั้งและเสียงดังกว่าเดิมด้วย
“คุณแสนรัก เชิญเข้าไปสัมภาษณ์ได้แล้ว ได้ยินไหมค่ะ”
แสนรักสะดุ้งโหยงรีบเอ่ยตอบรัวเร็ว “เอ่อ...ค่ะๆ ได้ยินแล้วค่ะ”
“ใจลอยไปถึงไหนคะ ถ้าได้เป็นไกด์จะมัวแต่ใจลอย ไม่สนใจลูกทัวร์ไม่ได้นะคะ”
“ค่ะๆ”
แสนรักยิ้มเจื่อนกับคำตำหนิจากกนกพร ขณะเดินผ่านอีกฝ่ายเข้าไปในห้องของกรรมการบริษัท เมื่อเข้าไปในห้องปะทะกับสายตาของอลงกรณ์ ผู้เป็นเจ้าของบริษัททัวร์ และทำหน้าที่สัมภาษณ์เธอด้วย ก็เกิดอาการขนลุกจนชะงักฝีเท้าไปชั่วขณะ
“เชิญนั่งสิ คุณแสนรัก ไม่ต้องทำหน้าหวาดกลัวแบบนั้น”
อลงกรณ์ผายมือไปยังเก้าอี้ที่อยู่ตรงหน้าตน เอ่ยดักคออย่างรู้เท่าทัน เมื่อเห็นสีหน้าและแววตา ซึ่งเผยความหวาดกลัวจากผู้มาสัมภาษณ์งาน
“ขอ...ขอบคุณค่ะ” แสนรักทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ ก่อนจะยกมือไหว้เอ่ยแนะนำตัวเองติดเสียงสั่น “สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อแสนรักค่ะ เรียนจบสาขาการจัดการการท่องเที่ยว มหา...”
“ไม่ต้องบอกประวัติการเรียนของคุณก็ได้ ผมอ่านมาหมดแล้ว” อลงกรณ์โบกมือห้าม เอ่ยแทรกก่อนแสนรักจะทันพูดจบ จากนั้นก็เริ่มการสัมภาษณ์ว่าที่ไกด์ของบริษัทตนเอง “ตอนเข้ามาในห้องเมื่อสักครู่ คุณชะงักไป เพราะกลัวผมใช่ไหม”
เจอคำถามที่ตรงกับความรู้สึกของตนเองมากที่สุด แสนรักก็จำต้องพยักหน้ารับคำอย่างไม่อาจโกหกได้ “ใช่ค่ะ ดิฉันรู้สึกกลัวอยู่บ้างค่ะ”
อลงกรณ์หัวเราะเบาๆ กับการรับคำอย่างตรงไปตรงมา “ไม่ใช่คุณแค่เพียงคนเดียวที่รู้สึกกลัวผม ทุกคนที่เข้ามาสัมภาษณ์งาน มีอาการไม่ต่างจากคุณสักเท่าไร นั่นคงเป็นเพราะว่าผมมีใบหน้าที่ค่อนข้างดุ ใครๆ ก็เลยหวาดกลัวผมไปหมด แต่หากได้ร่วมงานกับผมแล้ว คุณจะรู้ว่าผมเป็นเจ้านายที่ใจดีที่สุด”
แสนรักคลายความเกร็งและความหวาดกลัว เมื่ออลงกรณ์คลี่ยิ้มให้ “ดิฉันก็หวังว่าจะได้ร่วมงานกับคุณและทุกคนในบริษัทค่ะ”
“แน่นอน หากคุณตอบคำถามนี้ได้ตรงใจของผมมากที่สุด ผมจะรับคุณเข้าทำงานในทันที” อลงกรณ์เอ่ยยิ้มๆ พลางถามต่อว่า “ทำไมคุณถึงเลือกมาสมัครเป็นไกด์ในบริษัทของผม”
“เพราะดิฉันอยากไปเที่ยวประเทศแถบตะวันออกกลาง ดิฉันใฝ่ฝันอยากไปเห็นทะเลทราย อยากไปนอนในกระโจมกลางทะเลทรายค่ะ”
แสนรักบอกเหตุผลตามความเป็นจริง ก่อนจะมาสมัครเป็นไกด์ เธอได้แบกเป้ออกท่องเที่ยวคนเดียวไปในหลายประเทศแล้ว ทว่า...ยังไม่เคยไปแถบตะวันออกกลางแม้แต่ครั้งเดียว ด้วยตั๋วเครื่องบิน รวมทั้งค่าครองชีพในประเทศเหล่านั้นค่อนข้างสูง ทำให้เธอไม่มีโอกาสได้เดินทางไปท่องเที่ยวสักที หากได้เป็นไกด์พานักท่องเที่ยวไปยังดินแดนทะเลทรายก็เป็นกำไรสำหรับเธอ นอกจากได้ทำงาน ได้เงินเดือนแล้ว ยังได้ท่องเที่ยวไปในตัวด้วย