บทที่ 4
“ถ้าไม่ยอมเปิดปากพูดฉันจะทำให้พูดไม่ได้อีกเลยชั่วชีวิต จะเอายังไง! เลือกมา!”
เสียงคำรามกดต่ำเหมือนพยายามจะควบคุมอารมณ์สุดขีดนั่น ทำให้ไม่กล้าสบตาด้วย ทำได้แค่หลับหูหลับตาตะโกนบอกสิ่งที่อยากจะบอกออกไป เพราะอย่างน้อยเราก็ได้ทำในสิ่งที่ต้องทำอย่างถึงที่สุดแล้ว ต่อจากนี้ถ้าหากว่าเราจะต้องตายก็ไม่มีอะไรให้เสียดายอีกแล้วล่ะ
“เราไม่รู้เรื่องจริงๆ เราเพิ่งเดินทางมาถึงที่นี่วันแรก ไปถามสถานทูตก็ได้นะ ฮึกๆ”
“จะไม่ยอมพูดจริงๆ ใช่ไหม!” มือแกร่งบีบที่คางแรงซะจนเจ็บกรามไปหมด
“จะให้เราพูดในสิ่งที่เราไม่ได้ทำได้ยังไง เราไม่รู้เรื่องขโมยเอกสารอะไรทั้งนั้นแหละ เราแค่ซื้อขนมปัง” อ๊ะ! ใช่ ให้ถามป้าที่ร้านขนมปังซิ
“...”
“ถ้าอยากรู้ว่าทำไมไอ้กระดาษบ้าๆ นั่นมาอยู่ในขนมปังเราได้ยังไงก็ไปถามป้าที่ขายขนมปังซิ เราแค่ไปซื้อขนมปังร้านป้าเฉยๆ นะ”
“ฉลาดโยนความผิดนักนะ เจ้าของร้านขนมปังนั่นชิงฆ่าตัวตายไปตั้งแต่ที่มาถึงที่นี่แล้ว รู้เอาไว้ซะด้วย”
“ป้าาา~” ความหวังสุดท้ายพังทลายลงต่อหน้าเลยพระจันทร์เอ๊ย T^T
ทำไมป้าทำกับเราอย่างนี้ล่ะ ป้าเป็นคนที่ขโมยเอกสารอะไรนั่นแล้วเอามาซ่อนในขนมปังนี่ใช่ไหม หรือว่าป้าก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน แต่ถ้าไม่รู้เรื่องป้าจะฆ่าตัวตายทำไม?
เอ๊ะ?? หรือว่าพวกเขาจะโกหก ..ไม่ๆ ไม่ใช่ โอ๊ยยย!!! ไม่รู้เว้ย!!!
“ฉันจะพูดดีๆ ด้วยครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายนะ”
ครืด~ ครืดดด~~
โทรศัพท์เรา! ใครโทรเข้ามาตอนนี้กันนะ แต่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามขอบคุณมากนะที่โทรเข้ามา
“นายท่านครับ มีโทรศัพท์โทรเข้ามาที่เครื่องของมันครับ” พี่โหดเบอร์หนึ่งหยิบโทรศัพท์ของเราที่วางอยู่บนโต๊ะให้กับนายท่าน
..ใช้คำโบราณเหมือนกันนะ นายท่าน..
“ปิดปากมัน”
“ครับ”
อื้อๆๆ พี่โหดเอาผ้ามามัดปากแน่นจนเจ็บ พร้อมกับคนที่เป็นนายท่านอะไรนั่นกดรับสายโทรศัพท์และเปิดลำโพงจนได้ยินเสียงปลายสายชัดเจน จบกันความหวังที่จะร้องขอความช่วยเหลือ ได้แต่ภาวนาว่าให้คนปลายสายนั่นรับรู้ถึงความผิดปกติอะไรบ้างนะ
“ฮัลโหล น้องพระจันทร์พี่จ๋าจากสถานทูตนะคะ น้องพระจันทร์ลืมเอกสารของทางมหาวิทยาลัยไว้ที่นี่ค่ะ น้องพระจันทร์จะมารับเอกสารวันนี้หรือพรุ่งนี้คะ พี่จ๋าจะฝากพี่รักษาความปลอดภัยด้านหน้าไว้ให้” พี่จ๋าที่ทำงานในสถานเอกอัครราชทูตที่เราเพิ่งเจอไปเมื่อตอนกลางวันนี่
พี่จ๋าครับช่วยพระจันทร์ด้วย!!
“อื้อๆๆ”
“น้องพระจันทร์คะ ฮัลโหลๆ น้องพระจันทร์ได้ยินเสียงพี่ไหมคะน้องพระจันทร์”
ติ๊ด!!
“อื้อๆๆ”
ความพยายามดิ้นรนที่จะส่งเสียงเฮือกสุดท้ายได้ถูกตัดฉับลงไปพร้อมกับเสียงติ๊ดที่กดวางสายไปนั่น
พี่จ๋าช่วยพระจันทร์ด้วยครับ ได้โปรดโทรมาอีกสักครั้งนะครับ
ครืด~ ครืดดด~~
ติ๊ด!
พี่จ๋าคงจะโทรเข้ามาอีกครั้งแต่ไอ้คนที่เป็นนายท่านกลับกดตัดสายไปดื้อๆ เลย และแน่นอนว่าการกดตัดสายไปถึงสองครั้งทำให้พี่จ๋าไม่ได้โทรเข้ามาอีก
ฮื้ออออ~ เราคงต้องยอมรับในชะตากรรมนี่จริงๆ ซินะ ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางรอดออกไปได้หรอก พูดความจริงก็ไม่เชื่อจะให้พูดโกหกก็ไม่ได้ ชีวิตมันแสนอาภัพอะไรขนาดนี้นะพระจันทร์
“ในโทรศัพท์ไม่มีเบอร์ติดต่อใครเลยครับนายท่าน มีแค่เบอร์สถานทูตกับมหาวิทยาลัย”
เสียงของพี่โหดเบอร์สองพูดขึ้นหลังจากที่เอาโทรศัพท์ไปกดไล่ๆ ดู มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วซิก็เพิ่งจะซื้อซิมโทรศัพท์ตอนมาถึงเมื่อเช้านี้เอง ถ้ามันมีเบอร์อื่นนอกเหนือจากนั้นก็แปลกมากแล้วล่ะ
“อืม ส่งคนไปสถานทูตแล้วเอาประวัติของคนนี้มาก่อนที่ฉันจะกลับมา”
“ครับ”
แล้วทุกคนก็เดินออกจากห้องไป ทิ้งไว้แค่เราที่ถูกผ้ามัดปากเอาไว้ จะบอกว่าโชคดีไหมนะที่ยังมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกนิดนึง แต่อย่างน้อยก็ช่วยเอาผ้ามัดปากออกก่อนได้ไหมครับ มันเจ็บปากนะ T^T