บท
ตั้งค่า

บทที่ 3

ทั้งชีวิตที่ผ่านเรื่องราวเจ็บปวดและสิ้นหวังมามากมายหลายครั้ง แต่ไม่มีครั้งไหนที่จะรู้สึกกลัวจนหัวใจเต้นแรงขนาดนี้มาก่อน

แม้จะสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิอันเย็นเฉียบแต่เหงื่อกลับไหลซึมไปทั่วทั้งฝ่ามือฝ่าเท้า หน้าอกร้อนผ่าวกระตุกแรงยิ่งกว่าถูกไฟช็อตอีก มือกับขาสองข้างถูกมัดไว้แน่นจนขยับไม่ได้ ไหนจะผ้าคลุมหัวนี่อีก มันทำให้มองอะไรไม่เห็นเลย เพราะอย่างนั้นจึงทำได้แค่จินตนาการจากเสียงที่ลอยเข้ามาในโสตประสาท และนั่นก็ยิ่งทำให้น่ากลัวขึ้นไปเป็นล้านเท่า

ขนลุกชันไปทั่วทั้งตัว

นี่ซินะ! อาการของคนที่เข้าใกล้ความตาย

มันคงรู้สึกแบบนี้แน่ๆ

แต่พอได้ลองดำดิ่งไปในห้วงความคิดอันมืดมนนี้ดูแล้ว ถ้าได้จากไปอย่างสงบแบบไม่ต้องห่วงอะไรก็คงดีเหมือนกัน ไหนๆ ก็จะตายแล้วก็ขอให้อย่าทุกข์ทรมานเลยนะ แค่ตอนเกิดมาไม่เป็นที่ต้องการของใครก็รันทดพอแล้ว...

หรือว่าจริงๆ แล้ว..เราไม่ควรอยู่บนโลกใบนี้ตั้งแต่แรกแล้วด้วยซ้ำ เราเป็นส่วนเกินของโลกใบนี้ตั้งแต่แรกแล้ว เราฝืนชะตากรรมจนมีอายุมาถึงป่านนี้ได้ก็เกินพอแล้วล่ะ

"เห้ย! เอาผ้าคลุมหน้ามันออก"

"T^T"

"ร้องไห้เหรอ อย่ามาทำเป็นคนอ่อนแอหน่อยเลย เสแสร้งตีหน้าซื่อเก่งนักนะ"

"เราไปทำอะไรให้เหรอ? ทำไมต้องมาจับตัวเราด้วย เราเป็นแค่นักศึกษาคนหนึ่งนะ"

กว่าจะกลั่นเสียงออกมาจากลำคอได้แต่ละคำมันยากลำบากยิ่งกว่ากลืนหินร้อนๆ ซะอีก เรี่ยวแรงที่จะขยับปากมันแทบจะไม่มีเลย ปากมันหนักซะจนคิดว่าไม่มีเสียงออกมาแล้วด้วยซ้ำไป

"คนที่ขโมยเอกสารลับไปคือแกแน่ๆ"

"เอกสารอะไร? เราไม่รู้เรื่อง"

"ทำไมจะไม่ใช่ พวกเราเห็นกับตา"

"ไม่ใช่ ..ไม่ใช่เรานะ คุณเข้าใจผิดแล้ว เราไม่ได้ขโมยเอกสารอะไรของคุณทั้งนั้นแหละ"

เอกสารอะไร?? เพิ่งจะเดินทางเหยียบประเทศนี้ไม่กี่ชั่วโมงจะไปเอาเวลาไหนไปขโมยเอกสารกัน ทั้งวันก็แค่ไปที่พัก ไปสถานเอกอัครราชทูตแล้วก็ร้านขนมปังเท่านั้นเอง

"จะไม่ใช่ได้ยังไง ก็ไอ้ก้อนขนมปังนี่มันจะมาอยู่ในมือของแกได้ยังไง ถ้าแกไม่ใช่พวกของคนขโมยเอกสารลับ"

"ระ..เราไม่รู้ ..เราแค่เห็นขนมปังมันน่ากิน เราก็เลยซื้อมันก็เท่านั้น"

"แล้วไอ้กระดาษที่ซ่อนอยู่ในขนมปังนี่ล่ะ จะว่ายังไงห้ะ!! ต้องให้ทรมานก่อนใช่ไหม! ถึงจะยอมคายออกมา"

"เราไม่รู้จริงๆ เราไม่รู้ว่าในขนมปังมีอะไร แล้วเราก็ไม่ใช่คนขโมยด้วย"

มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น? ทำไมถึงกลายเป็นว่าเราไปขโมยเอกสารลับอะไรที่ซ่อนอยู่ในขนมปังนั่นด้วย ต่อให้ปฏิเสธยังไงคนพวกนี้ก็ไม่เชื่อ จะทำยังไงดี ..??ติดต่อขอความช่วยเหลือจากใครได้บ้าง ติดต่อสถานเอกอัครราชทูตได้ไหมนะ ถ้าให้คนพวกนี้ติดต่อไปที่นั่นก็จะได้รู้ว่าเราเป็นผู้บริสุทธิ์

เพี๊ยะ!!

"โอ๊ย!"

แรงปะทะจากฝ่ามือแกร่งนั่นกระแทกเข้ามาที่หน้าเต็มแรงอย่างไม่ทันตั้งตัวจนฟันขบเข้ากับริมฝีปากอย่างจัง กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งเต็มปาก รสชาติเค็มๆ ปะแล่มๆ ซึมไปทั่วลิ้น

"จะยอมพูดออกมารึยัง! ว่าพวกที่เหลือมันไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหน!"

"เราไม่รู้ ฮึกๆ ฮือออ"

ความชาที่แก้มค่อยๆ เลือนหายไปช้าๆ แต่ถูกแทนที่ด้วยความเจ็บแปล๊บ เจ็บจนหัวฝั่งที่ถูกตบนั้นปวดไปด้วยเลย

"ใช้ไม้อ่อนดีๆ ไม่ชอบ ก็ต้องโดนแบบนี้แหละ"

"ฮึกๆ ยะ..อย่าทำอะไรเรานะ เราไม่รู้เรื่องจริงๆ จะไปถามเรื่องของเราที่สถานทูตก็ได้นะ ฮื้อออออ~ เราเพิ่งเดินทางมาถึง เรามาเรียนต่อเท่านั้นเอง ฮึกๆ ระ..ระ..เราไม่ได้ขโมยอะไรเลย"

เหตุการณ์ถูกกลั่นแกล้งใส่ร้ายว่าเป็นคนขโมยของก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยเกิดขึ้นกับเรา ตั้งแต่ตอนเด็กเราถูกกล่าวหาแบบนี้หลายครั้ง เพียงเพราะแค่เราไม่มีพ่อแม่อยู่บ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าและไม่ได้มีเงินทองเหมือนคนอื่น

แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนกันมันเกินคำว่าใส่ร้ายแบบตอนเด็กๆ ไปมาก หรือว่าเราควรจะยอมรับให้เรื่องมันจบๆ ไปสักที ขืนเรายังปฏิเสธอยู่อย่างนี้เราคงถูกซ้อมจนตายแน่ ถ้าเรายอมรับสารภาพผิดคนพวกนี้คงส่งเราไปให้ตำรวจดำเนินคดีแน่ๆ

แกร๊ก!

แอ๊ดดดด~~

"ยังไม่ได้เรื่องอีกเหรอ"

เสียงทุ้มของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นมาหลังจากประตูถูกเปิดออก สายตาพร่ามัวไปด้วยน้ำตาปะทะเข้ากับดวงตาคมเหมือนเหยี่ยวคู่นั้นจนขนลุกซู่ คนที่อยู่ในห้องก่อนหน้านี้ต่างทำความเคารพอย่างนอบน้อม คนที่ดูมีอำนาจคนนี้คงจะเป็นเจ้านายใช่ไหม?

"พวกคุณเข้าใจผิดจริงๆ นะ ฮึกๆ ..เราไม่ได้ขโมยอะไรทั้งนั้น คุณจับมาผิดคนแล้ว"

ความหวังที่ดับมอดไปเหมือนจะลุกโชนขึ้นอีกครั้ง อย่างน้อยคนนี้น่าจะเจรจาได้ง่ายกว่า แต่ก็เหมือนจะคิดผิด เพราะทันทีที่เราพูดจบเขากลับเดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่แปลไม่ออก แต่รังสีอันตรายมันแผ่ซ่านออกมาจนขนคอลุกชัน เหมือนกับเวลาที่เราเผชิญหน้ากับงูพิษตัวใหญ่ไม่มีผิด

"ยะ..อย่าเข้ามานะ อย่าทำร้ายเราเลย เรากลัวแล้ว"

"ก็ยอมคายความลับออกมาซิ"

เสียงทุ้มเหยียบเย็นถูกเอื้อนเอ่ยออกมาเนิบๆ อีกครั้ง พร้อมกับปลายนิ้วเย็นๆ ที่ลูบไล้รอยฝ่ามือที่แก้มช้าๆ อย่างแผ่วเบา แต่แรงกดดันผ่านทางสายคมเหมือนเหยี่ยวนั่นมันหนักหน่วงจนแทบลืมหายใจ

"ฮื้อออออ~"

น้ำตามันไหลออกมาเป็นเขื่อนพัง ความน้อยเนื้อต่ำใจในโชคชะตา ความสิ้นหวังพังทลายถาโถมมาทั้งหมด

ฟ้าดินอยากลงโทษอะไรพระจันทร์กันแน่ ทำไมถึงต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์บ้าๆ แบบนี้ด้วย ทำไมการดิ้นรนของคนคนหนึ่งมันถึงได้ยากลำบากขนาดนี้ มันเกินไปแล้วนะ ..

แม่ครู พระจันทร์คิดถึงแม่ครูจังเลย ตอนนี้แม่ครูคิดถึงพระจันทร์บ้างไหม??

T^T

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel