บทที่ 2
สนามบินแห่งชาติราเวีย~
ประเทศราเวีย~
การนั่งเครื่องบินเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลเป็นครั้งแรกของเราเล่นเอานอนไม่หลับนั่งไม่ติดเก้าอี้เลยทีเดียว แต่พอเอาเข้าจริงตอนเท้าได้ลงมาเหยียบผืนแผ่นดินประเทศราเวียจริงๆ แล้ว ความตื่นเต้นทั้งหมดกลับหายไปกับไอแดดร้อนๆ ที่แผ่เข้ามานี่ต่างหาก
โอ้โห้!!! ร้อนอะไรขนาดนี้!!!
ร้อนจนต้องร้องขอชีวิต!!!
ร้อนถึงขั้นต้องเปิดพยากรณ์อากาศดูมันซะเดี๋ยวนี้เลย
แท่น~ แท๊นนน ~~ อุณหภูมิตอนนี้คือ 40 องศาเลยเหรอ?
ประเทศไทยที่ว่าอากาศร้อนแล้วเจอแดดของประเทศราเวียเข้าไปพระอาทิตย์ที่ประเทศไทยต้องหลั่งน้ำตาเลยนะ แดดเปรี้ยงชนิดที่ตากผ้าห่มห้านาทีก็แห้งแล้ว
เราจะสามารถมีชีวิตรอดอยู่ในสภาพอากาศร้อนๆ อบอ้าวแบบไม่มีลมพัดแบบนี้ได้ยังไงกัน?
ทุกคนเอาใจช่วยพระจันทร์ด้วยนะ ..(สู้ๆ จ้า บีบมือนะพระจันทร์)
ถึงอากาศจะร้อนตับแตกยังไงแต่การเดินทางมาถึงที่พักก็มีแต่ความสะดวกสบายพร้อมกับแอร์เย็นฉ่ำตลอดทาง จนตอนนี้ยังอดตะลึงทึ่งว้าวกับความไฮเทคและการจัดการระบบโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งสาธารณูปโภค การคมนาคมต่างๆ ไม่ได้ และเพราะความสะดวกสบายนี้เองทำเอาใจที่ตื่นเต้นมาตลอดการเดินทางหลายชั่วโมงนี้ได้ปลดล็อกอาการเหนื่อยล้าจนง่วงนอนและอยากเอนตัวลงบนที่นอนนุ่มๆ นี่สักที แต่เราต้องไปรายงานตัวที่สถานเอกอัครราชทูตก่อนเป็นอันดับแรก ส่วนการไปติดต่อมหาวิทยาลัยเพื่อรายงานตัวไปพรุ่งนี้ก็ยังทัน ฉะนั้นวันนี้ไปสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงราเวียนก่อน
ถนนราเวียร่า
หลังจากไปรายงานตัวที่สถานเอกอัครราชทูตเรียบร้อยแล้ว ก็ถือโอกาสนี้เดินดูของกินแถวถนนราเวียร่าใกล้ๆ ก่อนกลับที่พักจะได้ไม่ต้องออกมาหาข้าวกินทีหลัง ยิ่งตอนนี้รู้สึกเพลียจนอยากนอนมากกว่าเดินออกไปไหนอีก ยังไม่นับรวมอาการ Jet Lag (เจ็ทแล็ก) ด้วยนะ
"อู้ว~ ขนมปังอะไร? น่ากินจัง"
"พ่อหนุ่มรับขนมปังชีสสักชิ้นไหมจ๊ะ"
"อ้อ..ขนมปังชีส งั้นเอาขนมปังชีสหนึ่งชิ้นครับ"
"5 ราเวียนจ๊ะ"
"นี่ครับ"
"ขอบคุณจ๊ะ พ่อหนุ่มมาเที่ยวเหรอ"
"มาเรียนครับ"
"โอ้ๆ หายากนะที่ชาวต่างชาติมาเรียนที่นี่ ป้าแถมคุกกี้ให้ด้วยนะ ถือเป็นการต้อนรับสู่ราเวียจ๊ะ"
"ขอบคุณมากครับ"
"วันหลังมาอุดหนุนป้าใหม่นะจ๊ะ ป้าจะแถมให้อีก"
"ได้ครับ ^^"
ที่นี่ก็มีคนใจดีเยอะเหมือนกันนะ ตอนแรกคิดว่าผู้คนที่นี่จะดุๆ เหมือนหน้าตาคมเข้มซะอีก แต่ทุกคนกลับช่วยเหลือเราไม่ว่าจะเป็นบอกทางขึ้นรถไฟ บอกทางมาสถานเอกอัครราชทูตหรือแม้กระทั่งคุณป้าร้านขนมเมื่อกี้ก็ใจดีมากๆ เหมือนกัน
อาจเพราะเห็นว่าเราเป็นคนต่างชาติมั้งบวกกับท่าทางเงอะงะจนต้องให้ความช่วยเหลืออย่างช่วยไม่ได้ ฮ่าๆๆ ยังไงก็ขอบคุณนะครับชาวราเวียนที่ทำให้การมาอยู่ต่างแดนของเราครั้งแรกมันดีมากๆ ขนาดนี้
ประทับใจตั้งแต่วันแรกที่มาถึงเลยแหะ
"แกเป็นชาวต่างชาติใช่ไหม!!"
"ห้ะ? ใช่ครับ"
"เจอตัวสักทีนะ!!"
"ครับ??"
จู่ๆ ก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์สามคนเดินเข้ามาทำหน้าตาถมึงทึงใส่จนงงไปเลย อาจจะแค่เห็นว่าเราแปลกตามั้ง..
ใช่ไหมนะ??
แต่ท่าทางดูคุกคามยังไงไม่รู้ มันสัมผัสได้ถึงความอันตรายเลยนะ
"ไปกับเราหน่อยนะ อย่าเสียงดังล่ะ ไม่งั้นไส้แตก"
"!!!"
ปืน!!!
พวกเขามีปืน
มุแง้~ ให้มันได้อย่างนี้ซิพระจันทร์ ก็ถึงว่าทุกอย่างมันดูเรียบง่ายราบรื่นจนเกินไป จะจับตัวเราไปทำไมกัน?! เอาไปเรียกค่าไถ่ก็ไม่มีประโยชน์หรอกนะ ไม่มีใครส่งเงินมาประกันตัวให้หรอก แม่ครูก็ไม่มีเงินมากมายขนาดนั้น หรือจะเอาเราไปค้าอวัยวะในตลาดมืดเหมือนในข่าวที่เคยเห็น!
บ้าน่าาาา!!! ร่างกายเราอ่อนแอขนาดนี้พวกคุณเอาเครื่องในเราไปก็ใช้การไม่ได้หรอกนะ T^T
แม่ครูช่วยพระจันทร์ด้วยครับ ~
พระจันทร์ยังไม่ทันได้โทรหาแม่ครูเลยนะ ขอโอกาสได้ร่ำลาก่อนได้มั้ย ~