บทที่ 13
จือหลินเข้าไปด้านในของมิติทันที นางยืนมองรอบๆ มิติอย่างคะนึงหา ไม่อยากจะเชื่อว่าในยามนี้ภายนอกล้วนไม่ต่างจากเมื่อก่อนเลยสักนิด
นางเดินเข้าไปด้านใน ก่อนจะหยุดมองที่ห้องทดลองของนางอย่างเหม่อลอย ในยามนี้ได้แต่ถอนหายใจออกมา เพราะสิ่งของด้านในล้วนไม่อาจนำออกมาใช้ให้ผู้อื่นในภพนี้เห็นได้ อีกอย่างเหตุการณ์ในครั้งนั้นนางก็ไม่คิดอยากจะทดลองยาตัวใดขึ้นมาอีกเลย
ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างที่นางนำเข้ามาล้วนอยู่ครบ จือหลินเดินไปล้มตัวลงนอนที่เตียงอย่างโหยหา ก่อนนางจะหลับตาที่เหนื่อยล้าลงแล้วเข้าสู่ความฝันอย่างรวดเร็ว
จือหลินไม่รู้ว่าตอนที่นางสะดุ้งตื่นนั้นเป็นเวลาเท่าใด แต่ที่นางตกใจตื่นเพราะได้ยินเสียงร้องของมารดา จือหลินรีบออกจากมิติทันทีเพื่อดูว่าเกิดสิ่งใดขึ้น
ก็พบมารดาที่วิ่งหานางพร้อมกับร้องเรียกไปทั่วเรือน
“ท่านแม่ ข้าอยู่นี่เจ้าค่ะ” จือหลินเข้าไปหามารดาอย่างรวดเร็ว
“หลินเออร์ หลินเออร์ เจ้าหายไปที่ใดมา แม่ แม่กลัวเหลือเกิน” ลี่อินคิดว่าต้าจูหรือจินฮวามาลักพาตัวบุตรสาวของนางไปเสียแล้ว
จือหลินที่ตกใจกับท่าทางของลี่อินก็ไม่รู้จะปลอบนางเช่นไร จึงได้สวมกอดมารดาไว้แน่นเพื่อให้นางวางใจลง ลี่อินก็กอดบุตรสาวไว้แน่นอย่างหวงแหน หากขาดจือหลินไปนางก็ไม่รู้ว่าตัวนางจะใช้ชีวิตอยู่เพื่อใคร
“ท่านแม่ ท่านฟังข้าพูดก่อนเจ้าค่ะ” จือหลินประคองมารดาเข้าไปภายในห้องของนาง
“ข้าจะให้ท่านดูสิ่งหนึ่ง แต่ท่านอย่าได้ตกใจนะเจ้าคะ” จือหลินจ้องมองใบหน้าของลี่อินอย่างจริงจัง เมื่อเห็นนางพยักหน้ารับ จือหลินก็จับมือนางไว้แน่นเพื่อพาเข้าไปด้านในมิติ
นางก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะสามารถพามารดาเข้าไปด้านในด้วยได้หรือไม่ เพราะนับตั้งแต่มีมิตินางก็ยังไม่เคยพาผู้ใดเข้าไปด้านใน
ลี่อินหลับตาลงอย่างเชื่อฟัง แต่เมื่อนางลืมตาขึ้นอีกครั้งกลับพบว่านางอยู่ที่เดิม จือหลินที่อยู่ด้านข้างในยามนี้ไม่อยู่เสียแล้ว
นางมองไปรอบๆ ห้องอย่างตื่นตระหนก เวลาเพียงอึดใจ เป็นไปไม่ได้ที่จือหลินจะวิ่งไปซ่อนตัว ทันทีที่ความรู้สึกว่ามือของจือหลินหลุดออกจากมือของนาง นางก็ลืมตาทันที
“หลินเออร์” ลี่อินเอ่ยเรียกบุตรสาวอย่างคนไม่มีสติ
จือหลินที่อยู่ภายในมิติ ได้ยินเสียงของมารดาที่อยู่ด้านนอก นางจึงรู้ว่ามารดาไม่อาจเข้ามาด้านในได้ อาจจะเป็นเพราะห้วงมิติของนางอยู่ในขั้นทดลอง นางเป็นกลุ่มคนในองค์กรแรกๆ ที่ถูกเลือกให้ทดลองใช้ ต่อไปอาจจะมีการพัฒนาระบบให้สามารถพาคนเข้าออกด้วยได้ แต่ไม่ใช่กับระบบของนางในตอนนี้
“ท่านแม่” จือหลินปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าลี่อิน
ลี่อินตกใจจนถอยหลังหนี เพราะอยู่ดีๆ บุตรสาวก็เหมือนจะโผล่ขึ้นมาจากความว่างเปล่าได้ นางเคยพบเจอเรื่องเช่นนี้ที่ใดเล่า
“เจ้า เจ้า” ลี่อินชี้มือไปที่จือหลินอย่างตื่นตกใจ
“ท่านแม่ ฟังข้าเล่าก่อนเจ้าค่ะ”
จือหลินบอกเรื่องที่นางมีห้วงมิติอีกแห่งที่มีเพียงนางเท่านั้นที่สามารถเข้าออกได้ ด้านในเป็นที่อยู่อาศัย ที่นางเคยใช้ชีวิตเมื่อภพก่อนอย่างที่นางเคยเล่าให้มารดาได้ฟังไม่แล้ว
ยิ่งเห็นสีหน้าตกตะลึงของมารดา จือหลินจึงเรียกตั๋วเงินที่นางนำเข้าไปซ่อนตอนที่ต้าจูเข้ามาในเรือนออกมาให้มารดาได้ดู และเก็บเข้าไปใหม่อยู่หลายครั้งจนมารดาหายตกใจจึงได้หยุดมือลง
“อย่างที่ท่านเห็น ข้าก็ไม่รู้ว่ามันติดตัวข้ามาได้อย่างไร วันที่ต้าจูเข้ามาในเรือน ระบบก็กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง” จือหลินเอ่ยอย่างเรียบเฉย
นางยังนำของกินเล่นที่อยู่ด้านในมิติของนางออกมาให้มารดาได้ลองกินอีกด้วย ความจริงนางอยากจะเอาที่นอน หมอน ผ้าห่ม ออกมาใช้ แต่มีเพียงแค่ชุดเดียวยหากนางใช้แล้วมารดาเล่า
จะให้ย้ายมานอนห้องเดียวกันนางก็ไม่คุ้นชินเท่าใดนัก เพราะภพก่อนนางก็ใช้ชีวิตเพียงตัวคนเดียวมาจนชินเสียแล้ว
สองแม่ลูกพูดคุยเล่นกันอีกไม่นาน จือหลินนางก็ออกจากห้องไปจัดการเรื่องอาหารให้มารดา เพราะเหตุการณ์เมื่อคืนที่เกิดเรื่องขึ้นกว่าพวกนางจะได้พักสายตาก็เกือบฟ้าสว่างแล้ว
เมื่อตื่นขึ้นอีกครั้งก็เป็นเวลาตะวันตรงหัวแล้วพอดี จือหลินเข้าไปในมิติเพื่อนำอาหารแช่แข็งที่นางเก็บไว้เป็นจำนวนมากไปอุ่นเพื่อให้มารดาได้ลองกินสิ่งแปลกๆ บ้าง
ลี่อินที่ไม่เคยสัมผัสรสชาติอาหารอย่างอื่นนอกจากความเค็มของเกลือ และความหวานจากน้ำตาล เมื่อได้ลิ้มรสอาหารที่ครบทุกรสชาติก็อดที่จะติดใจไม่ได้
“ท่านแม่ เรื่องที่ท่านพูดว่าอยากจะออกไปอยู่ที่อื่นจริงหรือไม่เจ้าคะ” จือหลินเอ่ยถามทันที เมื่อทั้งคู่ทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว กล่องอาหารนางก็เก็บเข้าไปในมิติ นางไม่กล้าทิ้งไว้ด้านนอกหากมีผู้ใดมาพบเข้าจะเกิดเรื่องวุ่นวายได้
“แม่คิดอยากจะไป แต่ไม่รู้จะไปอยู่ที่ใด” ลี่อินเหม่อมองไปทางอื่นอย่างสับสน
นางใช้ชีวิตอยู่ที่หมู่บ้านไห่เหอมาตั้งแต่เกิด จะให้นางย้ายไปอยู่ที่อื่น นางก็หวาดกลัวการเปลี่ยนแปลง แต่ถ้าไม่ไปก็ไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะมีเรื่องยุ่งยากเพียงใดเข้ามาอีก
จินฮวาที่ถูกหย่าขาดกับจางอู๋ไม่มีทางยอมให้นางสองแม่ลูกได้ใช้ชีวิตสงบเป็นแน่ หากมีชาวบ้านคนอื่นที่ละโมบเช่นเดียวกับต้าจู นางกับจือหลินเป็นเพียงสตรีบอบบางจะจัดการเรื่องนี้ได้อย่างไร
“ไว้ข้าลองถามเรื่องหัวเมืองต่างๆ ในแคว้นเสียก่อน ท่านค่อยตัดสินใจก็ยังไม่สาย” จือหลินยิ้มให้มารดาเล็กน้อยก่อนที่นางจะประคองมารดาเข้าไปพักด้านในห้อง
นางคิดว่าจะเข้าไปในมิติ เพื่อดูว่ามีตัวยาตัวใดที่สามารถรักษาอาการเจ็บป่วยของมารดานางได้หรือไม่