บทที่ 10
จือหลินเมื่อเข้ามาในเรือนแล้ว นางก็นำสิ่งของออกมา ก่อนที่จะส่งถุงในใหญ่ที่เดิมที่ใส่เห็ดหลินจือ แต่ตอนนี้บรรจุตั๋วเงินจนแน่นขนัดให้ลี่อิน
“สวรรค์ มากถึงเพียงนี้” ลี่อินไม่รู้ว่าเงินมีมากเท่าใด แต่นางดูจากจำนวนตั๋วเงินที่เห็น
“ทั้งหมด สองหมื่นเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบห้าตำลึงทองเจ้าค่ะ”
เมื่อจือหลินพูดจบ ตั๋วเงินในมือของลี่อินก็ร่วงหล่นเต็มพื้น จือหลินส่ายหน้าก่อนจะก้มเก็บตั๋วเงินทั้งหมดใส่ถุงตามเดิม
“ท่านแม่ ท่านดื่มน้ำเสียก่อน” จือหลินรินน้ำส่งให้ลี่อิน
“หากผู้ใดรู้เข้าคงได้มาขโมยไปจนหมดแน่” ลี่อินเอ่ยพูดอย่างลนลาน
“หากท่านทำอาการเช่นนี้ต่อหน้าผู้อื่นคงได้มีคนสงสัยเป็นแน่เจ้าค่ะ” จือหลินกลอกตาอย่างเหนื่อยใจ เรือนของนางนอกจากชาวบ้านที่อยู่ใกล้ไม่กี่หลังก็ไม่มีผู้ใดคิดจะมา
จือหลินนำตั๋วเงินไปเก็บไว้ที่ห้องของนาง เพราะหากให้มารดาเป็นผู้เก็บเห็นทีคืนนี้นางคงนอนไม่หลับเป็นแน่
“ท่านแม่ข้าจะนำเห็ดดอกเล็กไปท่านปู่จง ท่านป้าหลิว และท่านป้าหั่ว เจ้าค่ะ”
ลี่อินนางพยักหน้าอย่างเห็นด้วย เพราะทั้งสามเรือนล้วนแล้วแต่หยิบยื่นสิ่งของให้นางสองคนแม่ลูกอยู่เสมอ
จือหลินเอ่ยเตือนมารดาไม่ให้ทำท่าทางประหลาดก่อนจะเดินออกจากเรือนไปที่เรือนทั้งสามหลัง
“ท่านปู่จง ท่านย่าจงอยู่หรือไม่เจ้าคะ” จือหลินเอ่ยร้องเรียกอยู่หน้าเรือน
“มาแล้ว มาแล้ว ผู้ใดกัน” ลุงจงกับป้าจงเดินออกมาจากเรือนอย่างสงสัย เพราะในตอนนี้แต่ละเรือนก็ล้วนแต่หุงหาผู้ใดกันที่มาหาในเวลาเช่นนี้
“อ้าวอาอินกับหลินเออร์มีอันใดให้ข้าช่วยรึ” ทั้งสองร้องถามอย่างแปลกใจ
“เข้าไปค่อยในเรือนก่อนเถิดเจ้าค่ะ” ลี่อินเอ่ยเสียงเบา เพราะนางไม่ค่อยได้ออกมาจากเรือนเท่าใดนัก
เมื่อเข้ามาในเรือน ท่านป้าจงก็เดินไปหาน้ำมาให้สองแม่ลูก
“ท่านลุง ท่านป้า หลินเออร์ขึ้นเขาเมื่อวาน ข้าไม่รู้จะตอบแทนท่านเช่นไรที่มีน้ำใจกับข้าสองแม่ลูก จึงนำเห็ดที่หาได้มาแบ่งให้ท่านไว้กินเจ้าค่ะ” ลี่อินเอ่ยพูดพร้อมทั้งส่งถุงในมือให้ทั้งสองคน
เมื่อทั้งคู่เปิดออกต่างก็ตกตะลึงจนอ้าปากค้างอย่างไม่อยากเชื่อ สองแม่ลูกรู้หรือไม่ว่านำสิ่งใดมาให้พวกเขา
เห็ดหลินจือแดงในถุงที่ให้ลุงจงมีขนาดเพียงแค่ฝ่ามือเล็กๆ ของจือหลินเท่านนั้น หากทั้งคู่ได้เห็นเห็ดที่จือหลินนางนำไปขายไม่รู้จะทำหน้าเช่นใด
“เจ้า เจ้า ข้ารับไว้ไม่ได้” ทั้งสองพูดอันใดไม่ออกได้แต่ผลักถุงคืนกลับไปตรงหน้าสองแม่ลูกแทน
“รับไว้เถิดท่านปู่ ท่านย่าจง หากไม่มีพวกท่านไม่รู้ว่าข้ากับท่านแม่จะมีชีวิตอยู่มาจนถึงวันนี้ได้หรือไม่” เมื่อเห็นสายตาที่จริงจังของจือหลินทั้งคู่ก็ถอนหายใจออกมา เมื่อคืนว่าน้ำใจที่หยิบยื่นให้เพียงเล็กน้อยทั้งสองจะตอบแทนกลับมามากถึงเพียงนี้
“ข้าจะรับไว้ ต่อไปหากมีเรื่องอันใดก็มาหาข้าได้ตลอด อย่างไรข้าก็เห็นเจ้าสองคนแม่ลูกเป็นลูกเป็นหลานมาโดยตลอด” ท่านป้าจงปาดน้ำตาที่ไหลออกมาจากหางตาของนาง
ลี่อินกับบุตรสาวอยู่พูดคุยอีกเล็กน้อยก็เดินไปที่เรือนหลังอื่นต่อ เพราะอยู่ไม่ห่างกันจึงใช้เวลาเดินไม่มากนัก
ทั้งสองเรือนก็มีอาการไม่ต่างจากเรือนตระกูลจงนัก พวกเขาล้วนอยากให้ทั้งคู่นำไปขายเพื่อแลกเงินมาซ่อมแซมเรือน แต่เมื่อเห็นทั้งคู่บอกว่าตนยังมีอีกสองดอกเหมือนกันจึงรับไว้อย่างเต็มใจ
ทั้งสามเรือนล้วนแต่รับปากทั้งคู่ว่าพวกตนจะเก็บเรื่องที่จือหลินพบเห็ดหลินจือให้เป็นความลับ แต่เมื่อใดที่ถูกผู้อื่นสงสัยเหตุใดถึงมีเงินมาซ่อมเรือนพวกเขาก็จะช่วยออกหน้าให้ว่าเป็นคนพาจือหลินไปหาของป่าแล้วพบเจอโชคในครั้งนี้เอง
สองแม่ลูกจึงกลับเรือนของตนไปจัดการทำอาหารที่จือหลินนางได้ซื้อมา
วันต่อมาเรื่องที่ทั้งสามตระกูลพาจือหลินน้อยไปหาของป่าก็ถูกชาวบ้านในหมู่บ้านรับรู้ เพราะทั้งสามตระกูลล้วนเข้าเมืองไปขายเห็ดหลินจือพร้อมกัน เรื่องที่ต้องการปกปิดจึงไม่อาจจะทำได้
ทั้งสามได้เงินกันมาคนละถึงหนึ่งร้อยห้าสิบตำลึงทอง ข่าวในเมืองล้วนกันแต่พูดถึงความโชคดีของหมู่บ้านไห่เหอที่พบเจอเห็ดล้ำค่าในครั้งนี้
ทั้งสามตระกูลล้วนพูดคุยตกลงกันที่จะมาช่วยสองแม่ลูกซ่อมแซมเรือน ส่วนเงินที่จือหลินนางขายเห็ดได้ทั้งสามตระกูลคิดตรงกันว่าควรให้ทั้งสองเก็บไว้รักษาตัวมารดาของนาง
ชาวบ้านต่างก็มาสอบถามทั้งสามตระกูลอย่างคึกคัก มีบางส่วนที่อยากจะมาสอบถามจือหลินแต่ก็ถูกพวกเขาห้ามไว้ ทั้งบอกว่าจือหลินจำทางที่ไปหามิได้ เพราะพวกตนเป็นผู้นำทาง ทั้งสามตระกูลบอกตำแหน่งมั่วๆ ให้พวกเขาไปหากันเอง
“ที่ที่เจ้าบอกข้าไปหาแล้วไม่เห็นจะมี”
“ก็ข้าบอกแล้วว่าข้าหากันมาหมดแล้วพวกเจ้าก็ไม่เชื่อ” แต่เมื่อไม่พบต่างก็มาต่อว่า แต่คนอย่างป้าจงมีหรือจะยอม
“เหอะ อยากเก็บไว้แต่ผู้เดียวสิท่า”
“โอวโยว ปากเจ้าเช่นนี้สวรรค์คงจะให้ของดีกับพวกเจ้าหรอก” ป้าจงตอบโต้อย่างไม่ยอม
เมื่อเห็นว่าไม่อาจทำอันใดได้ ต่างก็แยกย้ายกันกลับเรือนไป บางส่วนจึงเปลี่ยนทิศทางไปบ้านของจือหลินแทน
พอแถมนางเรื่องตำแหน่งที่พบนางก็ทำหน้าใสซื่อบอกจำไม่ได้ ไม่ว่าถามเรื่องอันใดก็จะเห็นเพียงใบหน้าขมวดคิ้วนึกหรือหน้าตาไม่เข้าใจคำถาม
“แล้วเห็ดของเจ้าเล่า ขายไปหรือยัง” บางคนโลภก็อยากจะขอจากจือหลินที่เป็นเพียงเด็กน้อยอย่างหน้าด้านๆ
"ข้าต้มให้ท่านแม่กินไปแล้วเจ้าค่ะ" จือหลินเอียงคอพูดอย่างไร้เดียงสา
“ห๊า เจ้าโง่ไปแล้วหรือ” ชาวบ้านต่างต่อว่าจือหลินเสียงดังไปทั่ว
“ข้าจะโง่ได้อย่างไร ในเมื่อมีของกินก็ต้องกินเจ้าค่ะ หรือเห็ดที่ได้จะมีพิษ” จือหลินแสร้งทำหน้าตกใจ
ลี่อินที่หลบอยู่ในบ้านเพราะบอกว่านางเจ็บป่วยก็กลั้นหัวเราะเสียท้องแข็ง เมื่อได้ยินคำพูดของบุตรสาว