สาวใช้หน้าเหลือง
จากทาหน้าเสร็จเสิ่นฟางหรูคิดว่าตนต้องเข้าไปขอบคุณคุณหนูก่อน เริ่มทำความเข้าใจกับตัวละครนางเอก ซึ่งตอนนี้นางสามารถเอาสินเดิมมาดูแลในมือได้ตามพล็อตเรื่องที่ตนได้อ่านมาพอดีเป๊ะเลย ซึ่งแสดงว่าสวีกุ้ยฟางได้ย้อนเวลามาได้สักพักแล้วและเริ่มวางแผนเอาคืนรายตัว
คนแรกก็คือแม่เลี้ยงของนางซึ่งเลื่อนขั้นจากอนุมาเป็นภรรยาเอก ด้วยเหตุผลอย่างหนึ่งก็คือนางสามารถคลอดบุตรชายหญิงฝาแฝดคู่หนึ่งให้นายท่านตระกูลสวีได้
คนที่สองน่าจะเป็นสามีของนางในอดีตซึ่งแอบคบชู้กับน้องสาวของนางเอกอยู่นาน จนกระทั่งนางเอกจับได้ว่าทั้งสองแอบกินกันมานานแล้ว นางเอกในตอนนั้นทั้งต้องแสร้งเป็นใจกว้างรับน้องสาวเป็นอนุของสามีเพราะว่านางไม่มีบุตรสักที
ชาติก่อนนางเอกใช้ชีวิตอย่างอดสู ท่ามกลางความเสแสร้งของน้องสาวและสามีที่ไม่เอาไหน กิจการในตระกูลเป็นนางต้องวิ่งเต้นทำงานอย่างหนักจนรุ่งเรืองขึ้นมาได้ แต่ผลตอบแทนที่นางได้รับกลับเป็นการนอกใจและความเย็นชาของสามีซึ่งไม่ได้รักนางเลยสักนิด
อีกทั้งนางยังตายจากการร่วมมือวางยาของสามีและน้องสาวเพื่อให้น้องสาวได้ขึ้นเป็นภรรยาเอก!
ตามต้นฉบับในนิยายนางเอกใน เรื่องบุปผาพยาบาท คือการกลับมาแก้แค้นของนางเอกที่ฟาดทุกคนอย่างเชือดเฉือนสะใจ
เสิ่นฟางหรูนึกคิดเนื่อเรื่องจนกระทั่งมาถึงห้องของนางเอก เมื่อทุกคนในห้องเห็นนางต้องเป็นอันตกตะลึงกับใบหน้าสีเหลืองของนาง
เสิ่นฟางหรูก้มหน้าครุ่นคิด เมื่อมาถึงเบื้องหน้าของคุณหนูจึงรีบเอ่ยว่า “คุณหนูข้ารู้ว่าท่านใจดีกับข้าอย่างมาก ข้าจึงมาขอบคุณเจ้าค่ะ”
สิ่งที่เสิ่นฟางหรูสงสัยคือมีการออกนอกพล็อตเรื่อง คือการเอาคืนติงฝานเป้าให้สาวใช้อย่างนาง ในใจของนางแอบซาบซึ้งกับการกระทำของนางเอกอย่างมาก
สวีกุ้ยฟางแค่บอกให้อี้หลันทาบาง ๆ เท่านั้นพอแต่ไม่รู้ว่านางจะหนักมือไปขนาดนี้ นางในตอนนี้กลั้นขำจนไหล่สั่น
“เจ้าไม่ต้องขอบคุณข้า เป็นสิ่งที่ข้าสมควรทำอยู่แล้ว”
เสิ่นฟางหรูเงยหน้ามองสวีกุ้ยฟางพบว่านางแอบหัวเราะตนอยู่ เพราะความหน้าเหลืองเป็นเหตุ นางจึงถลึงตาใส่อี้หลันซึ่งยืนกลั้นขำอยู่ด้านข้างเหมือนกัน
“เป็นข้าที่มือหนักไปเจ้าค่ะคุณหนู”
“เอาเถอะ มันเป็นแค่สมุนไพรพอกผิวแต่มันค่อนข้างล้างออกยาก แต่ถ้าหากเจ้าอยากล้างออกข้าจะให้คนจากร้านยานำมาให้”
สวีกุ้ยฟางไม่คิดว่าผลลัพธ์มันจะออกมาเป็นเช่นนี้ ถ้าหากนางหน้าเหลืองขนาดนี้คงไม่กล้าออกไปไหนมาไหนแน่
“ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะ ข้าเป็นเช่นนี้อาจจะดีกับข้าก็ได้”
นางรู้ว่าตัวยานี้ต้องล้ำค่ามากแน่ อีกทั้งกิจการร้านยาของนางเอกไม่สู้ดี เพราะติงชื่อแอบยักยอกเงินจากร้านไปมากแค่ไหนจากเนื้อเรื่อง
“แล้วแต่เจ้าแล้วกัน อีกไม่นานข้าต้องไปวัดเมี่ยวซานในอีกไม่กี่วันแล้ว”
“เจ้าค่ะ คุณหนู” พวกนางพยักหน้าตอบรับพร้อมกัน เพราะว่าพวกนางต้องจัดสัมภาระให้คุณหนูเพื่อไปวัด เพื่อถือศีลกินเจสวดมนต์เนื่องในโอกาสครบรอบวันตายของอดีตฮูหยิน
เสิ่นฟางหรูนึกถึงเนื้อเรื่องว่าพระนางน่าจะได้พบกันครั้งแรกตอนนางเอกไปวัดพอดี นางเอกจะต้องช่วยพระเอกเอาไว้จากการถูกฝ่ายตัวร้ายไล่ล่าระหว่างกลับเมืองหลวง ดังนั้นนางในฐานะผู้ช่วยต้องทำให้พวกเขาตกหลุมรักกันตั้งแต่แรกพบให้ได้
ตามพล็อตเรื่องกว่าพระนางจะรักกันนั้น ต่างฝ่ายต่างฝ่าฟันอุปสรรค และกว่านางเอกจะเปิดใจให้พระเอกก็ปาไปเกือบครึ่งเรื่องเลย เพราะนางเอกมีอดีตที่ไม่ดีจึงไม่ยอมเปิดใจให้พระเอกง่าย ๆ
พอวันรุ่งขึ้นเสิ่นฟางหรูต้องมาทำงานปกติ พอนางออกมาทำงานข้างนอกเท่านั้นแหละคนทั้งจวนต่างมาสอบถามนางด้วยความเป็นห่วงและอยากรู้อยากเห็น
“จูเหยาทำไมหน้าเจ้าถึงเป็นเช่นนี้ล่ะ”
บ่าวชายคนหนึ่งเอ่ยถามตกใจขณะกวาดลานจวนด้วยกัน จูเหยาเป็นสาวใช้ที่งดงามที่สุดของจวนสวีจู่ ๆ นางหน้าเหลืองแบบนี้ทำเอาเขาที่แอบชอบนางอยู่เป็นห่วงกระวนกระวายใจยิ่งนัก
เสิ่นฟางหรูได้คิดคำตอบเอาไว้แล้ว “เป็นเพราะข้าตกน้ำในทะเลสาบเมื่อวันก่อน บางทีข้าอาจจะถูกบางอย่างในน้ำเข้าก็ได้ ถึงหน้าเหลืองเช่นนี้”
เมื่อพูดถึงทะเลสาบ เสิ่นฟางหรูคิดจะไปกระโดดน้ำอีกสักรอบ เผื่อว่าตนจะกลับไปยังโลกเดิมของตนได้
“แล้วเจ้ารู้สึกไม่สบายตรงไหนอีกหรือไม่? เดี๋ยวข้าจะพาเจ้าออกไปหาหมอข้างนอก ข้าพอจะมีเงินเก็บอยู่พอสมควร...” เขาแอบหน้าแดงหูแดงแต่ดีที่เขาสีผิวคล้ำจึงทำให้เสิ่นฟางหรูมองไม่ออก
แต่นางรู้ว่าบ่าวคนนี้น่าจะแอบชอบนางอยู่ แต่เบี้ยหวัดของบ่าวน้อยแสนน้อยนางไม่อยากจะเดือดร้อนเขา
“ไม่เป็นไร อย่าลืมว่าข้าเป็นสาวใช้ของคุณหนูนะ เจ้าไม่ต้องห่วงข้าหรอก ตอนนี้ข้าสบายดีเพียงแต่บางทีข้าอาจจะหน้าเหลืองไปตลอดชีวิตเลยก็ได้” นางตอบน่าเศร้า
ขณะที่เขาเริ่มมีเหงื่อซึมที่หน้าผากจากนั้นรีบถอยห่างนางทันที หลังจากนางกล่าวจบ “ถ้างั้นข้าขอตัวไปกวาดที่อื่นก่อนนะ เจ้าดูแลตนเองด้วย”
“เดี๋ยว...”
นางหัวเราะออกมาในทันทีนึกว่าจะแน่สักแค่ไหน เสิ่นฟางหรูถอนหายใจนางรับรู้ว่าตนก็แอบฮอตปรอทแตกเหมือนกันนะ จากที่ออกมาข้างนอกนับจำนวนบ่าวชายในจวนที่ชอบนางเดิมมีมากกว่าสิบคนเลยทีเดียว
แต่การที่นางโกหกพวกเขาไปก็นับว่าดีเหมือนกัน จะได้ไม่มีใครมายุ่งกับตนอีก
