5
จือหรานยังคงอดทนนั่งคุกเข่าตากหิมะหน้าลานเรือน
เจ้าอ๋องคนชั่ว !!!
แม้จะมีเสื้อคลุมขนสัตว์ มันก็ยังทำให้นางหนาว หญิงสาวหน้าแดงไปหมดแล้ว เพราะโดนหิมะกัด นางจะไม่ไหวแล้ว
ภาพตรงหน้าพร่ามัวยิ่งนัก จากนั้นนางก็ล้มลงไป ท่ามกลางหิมะที่ตกลงมา...
พอลืมตาอีกที นางพบว่าเข้ามานอนในเรือนแล้ว โดยมีอาหลินยืนเฝ้าไม่ห่าง
"คุณหนูฟื้นแล้ว"
"อาหลิน ข้าหลับไปกี่ชั่วยาม"
"หนึ่งชั่วยามเจ้าค่ะ พอท่านสลบ เซียวอ๋องรีบให้คนไปตามหมอทันทีเจ้าค่ะ อีกอย่างเซียวอ๋องเพิ่งออกไป อีกทั้งเหมือนเซียวอ๋องจะเป็นห่วงคุณหนูมาก"
ไม่น่าเชื่อ จือหรานไม่อยากจะเชื่อว่าเซียวอ๋อง จะห่วงนาง บุรุษสมควรตายผู้นั้น ไม่รักใครหรอกนอกจากตัวเอง
ย้อนไปหนึ่งชั่วยามก่อนหน้านี้ เซียวอ๋องจือหรานมองล้มลงกองกับหิมะ ในใจของเขาพลันรู้สึกผิด รีบให้คนไปตามหมอมาทันที
ชายหนุ่มถึงกับอุ้มร่างบางเข้ามาที่เรือนทันที ท่านหมอมาถึงตรวจดูอาการของนาง บอกว่าร่างกายนางอ่อนแอนัก ไม่ควรที่จะให้โดนไอเย็นประเดี๋ยวจะล้มป่วย สาเหตุมาจากนางเสียเลือดมาก ในการคลอดบุตรครั้งนั้น
ทำให้บุตรของเขาตายไปในจากโลกนี้ ลูกของเขากับหญิงชั่วผู้นั้นได้ตายไปแล้ว ก่อนออกจากจวนเขาไม่ลืมสั่งอาหลินไปเคี่ยวยาให้หญิงชั่ว
ในยามนี้ใกล้จะพลบค่ำแล้ว เซียวอ๋องยังคงอยู่ค่ายทหาร เขาคงจะไม่กลับจวนไปพบหน้านาง กระนั้นจึงรับสำรับเย็นที่ค่ายทหาร
มองดูอาหารที่นายทหารทำ มันช่างแตกต่างกันยิ่งนัก เซียวอ๋องกินได้คำเดียว เขาคายทิ้งทันที
"ท่านอ๋อง" ฟูเหิงอดเป็นห่วงเจ้านายไม่ได้ ปกติในค่ายทหารนายทหารมีพ่อครัวอยู่ แต่ทว่าพ่อครัวป่ายตายเสียก่อน อีกทั้งทหารพวกนั้นจับคมหอกคมดาบ จะไปจับตะหลิวทำอาหารจะไปอร่อยได้อย่างไร
"กลับจวนกับข้า" เซียวอ๋องทนไม่ไหวจริง ๆ
จวนเซียวในเมืองจินยามนี้ จือหรานรู้สึกว่าร่างกายพลันอบอุ่น สุขภาพนางไม่ค่อยดีนัก อาการคล้ายกันเมื่อห้าปีที่แล้ว อย่าบอกนะจะกลับมาป่วยอีกแล้ว หลังจากที่นางเนรเทศให้มาอยู่ที่เมืองจิน จือหรานในตอนนั้นอ่อนแอสุด ๆ นางได้หมอเทวดาท่านหนึ่งเป็นหมอหญิงชรา แซ่หยาง หรือหยางไหน หยางไหนชอบขึ้นเหนือล่องใต้ ท่องเที่ยวยุทธภพรักษาผู้คนไปทั่วใต้หล้า
เพราะซาลาเปาเนื้อของจือหราน ทำให้หยางไหนรักษาจือหราน จนหายดี เวลาผ่านไปไม่คิดว่า จือหรานนั่งคุกเข่า ครึ่งชั่วยามจะมีอาการกำเริบ
แม้ท่านหมอจะเขียนเทียบยาบำรุงให้แล้ว แต่ทว่านางไอเป็นเลือด จือหรานรู้ดี อาการพวกนี้มันกลับมาแล้ว
ช่างน่ากลัวนัก นางอยากจะพบหมอหยางไหนอีกสักครั้ง เพื่อรักษาร่างกายนี้เอาไว้ นางยังไม่อยากจะตายจากสองแฝด
"แม่นางจือ" เสียงนี้ทำให้จือหรานและอาหลินรีบนำสองแฝดไปซ่อน
ประตูเปิดออก อาหลินเป็นคนเปิดประตูให้ ฟูเหิงนั่นเอง
"คุณชายฟู"
"แม่นางอาหลิน ซาลาเปาเนื้อพวกท่านมีรึไม่" แม้เซียวอ๋องจะเกลียดนาง แต่เขาอยากกินซาลาเปาเนื้อของนาง
จือหรานจึงอาหลินส่งซาลาเปาเนื้อให้ฟูเหิงนับสิบลูก โชคดีที่อาหลินไม่ได้นำซาลาเปาเนื้อไปส่งเถ้าแก่เนี้ยที่ร้าน เพราะต้องดูแลจือหราน กระนั้นเซียวอ๋องจึงได้ลาภปากไป
เซียวอ๋องมองซาลาเปาเนื้อแป้งฟู ๆ นับสิบลูก กลิ่นหอมเหลือเกิน ทันทีที่เขากัดคำแรกรสชาติที่ไม่เค็มมากผสมกับเครื่องเทศ มันช่างลงตัวยิ่งนัก ทำให้ฟูเหิงมองเจ้านายอย่างตาละห้อยเชียวล่ะ
"เอาไปหนึ่งลูกพอ"
"ขอรับ" ฟูเหิงพลันดีใจอย่างมากรีบกัดกินซาลาเนื้อลูกใหญ่ เพราะกลัวท่านอ๋องจะเปลี่ยนใจเสียก่อน
เซียวอ๋องกินไปกินมาจนหมด ซาลาเก้าลูกอยู่ในท้องของเขาเสียแล้ว ชายหนุ่มรู้สึกดีไม่น้อย สตรีนางนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสียจริง ๆ
"นางเป็นอย่างไรบ้าง" เขาจึงหันมาถามฟูเหิง เห็นองครักษ์คนสนิทเคี้ยวซาลาเปาจนตาเหลือก
ฟูเหิงกินจนหมดแล้วรีบตอบคำถามเจ้านายทันที
"นางน่าจะหายแล้วขอรับ" ฟูเหิงตอบเยี่ยงนี้ ทำให้เซียวอ๋องทำหน้าปกติ ไม่ยินดียินร้ายกับนาง
"ข้าจะนำตัวนางไปเมืองหลวงด้วย หลังปีใหม่" เขาคิดเช่นนั้น เพราะฝีมือการทำอาหารของนางดีไม่น้อย
"ท่านอ๋อง แต่นางเคยเป็นชายาเอกนะขอรับ อีกอย่างชายาเอกฟางไห่เล่าขอรับ"
"ข้าจะให้นางเป็นคนครัว วางใจเถอะ ข้าไม่เคยรักนางแม้แต่น้อย"
หญิงชั่วเยี่ยงนาง ผู้ใดจะรักลงเล่า วางแผนเพื่อให้ได้เขา ไร้ยางอายสิ้นดี
จือหรานเป็นเพียงคนถือรองเท้าให้ฟางไห่ นางยังไม่คู่ควรเสียด้วยซ้ำ คนอย่างนางดีแค่ไหนแล้วที่เขาเมตตา
ยามเช้าของวันถัดมา จือหรานสวมผ้าคลุมหนา ๆ บนศีรษะปักด้วยปิ่นไม้ธรรมดา วันนี้นางต้องเร่งมือส่งซาลาเปาเนื้อให้เถ้าแก่เนี้ย เพราะรอบบ่ายเมื่อวานนางไม่ได้ทำส่งเขา มันจะทำให้นางขาดรายได้
แม้ร่างกายนางจะกลับมาอ่อนแออีกครั้ง ยามนี้นางจะต้องตามหาหมอเทวดาหยางไหนให้เจอ เสียเงินเท่าไรนางก็ยอม เพื่อให้ได้รักษาชีวิตน้อย ๆ อยู่กับสองแฝด