4
อาหารสามอย่างอยู่ตรงหน้าเซียวอ๋อง ทำให้เขาอยากจะกินมาก แต่ทว่า นางยังยืนอยู่ จือหรานทำกุ้งสามรส น้ำซุปหมาล่า เนื้อผัดน้ำมันหอย
"ข้าขอตัวเจ้าค่ะ" นางทำอาหารกว่าจะเสร็จใช้เวลาครึ่งชั่วยาม ในใจนึกห่วงสองแฝดกลัวจะออกมาจากห้อง
"อยู่รับใช้ข้า" เซียวอ๋องอยากจะแกล้งนาง จึงให้นางอยู่ต่อ จือหรานต้องอดทนกับเขาอย่างมาก อาหารก็ทำให้กินแล้ว เหตุใดต้องรั้งนางด้วยเล่า
เซียวอ๋องคีบเนื้อผัดน้ำมันหอยเข้าปาก รสชาติเนื้อกลมกล่อมเมื่อเข้ามาในปากของเขา อีกทั้งเขายังคีบกุ้งสามรส นางทำอร่อยมาก
จือหรานต้องเติมข้าวให้เขาทั้งหมดห้าชาม อีกทั้งอาหารทั้งหมดสามอย่างหมดเกลี้ยงไม่เหลือสักชิ้น จือหรานรินน้ำเปล่าให้เขา อีกจอกน้ำน้ำชา ชายหนุ่มอิ่มอย่างมาก
"คุณหนูเจ้าคะ นายอำเภอหนานเซียง มาขอพบท่านอ๋องเจ้าค่ะ"
เซียวอ๋องนั่งในห้องรับรองมองนายอำเภอ หนานเซียงยังไม่แก่เท่าใดนัก น่าจะอายุราว ๆ สามสิบปี ใบหน้านายอำเภอยิ้มแย้มมาก ให้กับท่านอ๋อง แต่ทว่าสายตามองจือหรานอย่างหวานเยิ้ม
"ท่านอ๋องข้าน้อยสมควรตายเสียจริง ที่ไม่ออกมาต้อนรับท่าน" นายอำเภอหนานเซียงเอ่ยขึ้น เซียวอ๋องนึกด่าทอนายอำเภอในใจ เมื่อวานขบวนทหารม้าของเซียวอ๋องเข้ามาในเมืองออกจะใหญ่โต หนานเซียงไปมุดหัวอยู่ที่ใด
เซียวอ๋องรู้ดีว่านายอำเภอคนนี้ ชอบสุราเคล้านารีอีกทั้งการพนันอีกด้วย เขาจะต้องหาทางปลดนายอำเภอคนนี้ก่อนกลับเมืองหลวงให้ได้
"มิเป็นไร" น้ำเสียงห้วนบอกอย่างไม่ใส่ใจยิ่งนัก
"ขอรับ" จือหรานมองที่จอกน้ำชาของนายอำเภอ เหตุใดเขากระหายน้ำนักเล่า พูดกับท่านอ๋องก็จิบชาเสียแล้ว กระนั้นจือหรานทำหน้าที่รินน้ำชา เพราะเซียวอ๋องไล่อาหลินออกไป
ในระหว่างที่นางกำลังรินน้ำชาอยู่นั้น มือหนาใหญ่รีบจับมือนาง แต่ทว่าหญิงสาวรีบหดมือกลับมา ทำให้น้ำชาจากกาไหลไปโดนนายอำเภอ เขาร้องอย่างแรง น้ำชาร้อน ๆ รดที่เป้ากางเกงนายอำเภออย่างจัง
"สารเลวนัก เป็นแค่สาวใช้กล้าเสียมารยาทกับข้า" นายอำเภอรีบลุกขึ้นกุมเป้าทันที เขารู้เพียงว่าสตรีนางนี้ คือสาวใช้ของท่านอ๋องไม่รู้ว่าผิดกฎอันใดในจวนอ๋องที่เมืองหลวง ถึงได้เนรเทศมาเฝ้าจวนอยู่ที่เมืองจิน กระนั้นหนานเซียงจึงคิดไม่ซื่อต่อจือหราน
นางรีบถอยไปหลบด้านหลังเซียวอ๋องทันที
เซียวอ๋องมองสตรีเจ้าเล่ห์คนนี้
"ท่านอ๋องช่วยข้าน้อยด้วย นางทำร้ายข้าท่านอ๋องก็เห็น"
"เจ้ากลับไปเถอะ เรื่องนี้ข้าจะจัดการเอง" นายอำเภอทั้งโกรธทั้งอายทั้งเจ็บ เขาทำได้เพียงรับคำท่านอ๋องแล้วเดินออกไปอย่างเชื่อช้า
จือหรานกลั้นหัวเราะไม่ไหวจริง ๆ ผู้ใดใช้ให้เขามาจับมือนางกันเล่า แม้นางจะมาจากอีกภพ แต่นางก็ถือตัวเช่นกันนะ
เซียวอ๋องได้ยินเสียงหัวเราะของนางนึกหมั่นไส้เสียงจริง ร้ายกาจมาก ทำร้ายคนอื่นยังมาหลบอยู่ที่ข้างหลังเขาอีก
นายอำเภอจะจับมือนาง เขาก็เห็นกำลังจะอ้าปากห้าม แต่ไม่ทันเสียแล้ว
"คุกเข่าลง เจ้ามีความผิดรู้ตัวรึไม่" จือหรานเดินมาตรงหน้าเขาแล้วคุกเข่าลง เซียวอ๋องมองใบหน้างามไร้เลือดฝาดของนาง ช่างร้ายเสียจริง
"เจ้าค่ะ" จือหรานหลุบตาลงต่ำ ไม่กล้าสบตาเขา
"เจ้าเลือกที่จะไม่ให้น้ำชาโดนเขา แต่เจ้าไม่ทำ เจ้าคิดร้ายต่อขุนนางราชสำนัก มีโทษประหาเชียวนะ"
"ท่านอ๋อง ข้าผิดรึ ข้าชักมือกลับ มันเป็นอุบัติเหตุ ข้าไม่ได้ตั้งใจ" จือหรานมองใบหน้าน้ำแข็งพลันปีของเขาแล้ว นึกด่าจือหรานคนเดิม ตาบอดรักได้อย่างไร ไปรักคนเยี่ยงนี้ รักเขาแล้ว เขารักเรารึไม่
"ยังจะมาเถียงข้าอีก ห้าปีมานี้ เจ้ามาใช้ชีวิตในเมืองจินไม่สำนึกเลยรึ"
จะให้นางสำนึกอันใดเล่า นางไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย บิดาก็ตายไปหมดแล้ว คนทั้งตระกูลเหลือนางเพียงคนเดียว จือหรานไม่เชื่อเป็นอันขาด ว่าบิดาเจ้าของร่างเดิมจะทำเรื่องชั่ว
"ท่านจะให้ข้าสำนึกอันใด"
เซียวอ๋องนึกโมโหนาง ที่นางกล้าเถียงกับเขา ไม่ยอมลดละให้เขาเลย
"ไปคุกเข่าหน้าเรือน" เซียวอ๋องนึกโมโหนาง สตรีที่วางแผนเพื่อให้ได้เขา เหตุใดเขาถึงไม่สังหารนางเล่า
"เจ้าค่ะ" จือหรานรีบเดินออกไปหน้าเรือน แม้ยามนี้หิมะจะตกโปรยปรายลงมาอย่างช้า ๆ อาหลินรอหน้าเรือนตกใจ ได้ยินทุกคำพูด หากคุณหนูคุกเข่านานอาจจะเป็นลมไปได้ ร่างกายของจือหรานอ่อนแอตั้งแต่ห้าปีที่แล้ว ตอนที่นางคลอดสองแฝด
จือหรานคุกเข่าบนพื้นหิมะ นางหันหน้าเข้าไปในเรือน ชุดที่นางสวมใส่คืออาภรณ์ที่หยาบกระด้างอีกทั้งมีความบาง เมื่อทำให้โดนหิมะยิ่งทำให้หนาว
จือหรานได้แต่สาปเเช่ง เซียวอ๋องในใจ
ไอ้บุรุษเฮงซวย !!!
นางจะไม่มีวันให้เขาได้รู้เด็ดขาด ว่ามีสองแฝดมิเช่นนั้น ความสุขของนางทั้งชีวิตจะหายไป จือหรานอยู่ได้เพราะสองแฝดเติมเต็มชีวิตให้นาง
อาหลินไม่ยอมให้เจ้านายตากหิมะ นางหาเสื้อคลุมขนสัตว์ตัวเขามาสวมให้เจ้านาย
"คุณหนู ไม่หนาวแล้ว" นางรู้สึกอุ่นขี้นมาบ้าง เซียวอ๋องทำเป็นไม่เห็น หนึ่งชั่วยามผ่านไป อาหลินรู้ว่าเจ้านายของนางเริ่มไม่ไหวแล้ว
"ท่านอ๋องอย่าให้นางคุกเข่าเลยเจ้าค่ะ ร่างกายนางไม่สบายหลายปีมานี้"
"อาหลินอย่า ข้าทนได้"
เซียวอ๋องหมายจะให้นางพัก แต่ทว่าได้ยินนางปากแข็งเช่นนี้ เขาเลยไม่พูดอันใด ใช้สายตาน้ำแข็งพันปี มองจือหรานต่อไป อาหลินจนปัญญาแล้ว