บทที่ 4 ความผิดพลาด
บทที่ 4 ความผิดพลาด
ทั้งสองเดินเข้ามาในห้องกินข้าวเห็นแม่สามีนั่งไม่พอใจอยู่ที่โต๊ะอาหารด้วยสีหน้าบึ้งตึง ซูเม่ยหัวเราะคิกคักเข้ามาเห็นถึงกับหุบยิ้มทันที
“นี่ใครบอกให้เธอเป็นคนสั่งพ่อครัวให้นำเป็ดมาทำอาหารรู้ไม่ว่าจะกินเป็ดแต่ละครั้งต้องมีเทศกาลหรืองานสำคัญ ๆ รวมถึงการแสดความยินดีไม่ใช่อยากกินก็จะได้กิน สิ้นเปลืองจริง ๆ”
“เฮ้อ! ถ้าคุณแม่ไม่อยากกินก็ไม่ต้องกินค่ะ ฉันกับอ้ายเยว่จะกินเองทำไมต้องรอวันเวลาเลิกงามยามดีด้วย อยากกินเมื่อไหร่ก็กินสิตายวันไหนใครจะไปรู้ได้ แค่เป็ดตัวเดียวไม่ทำให้ขนหน้าแข้งท่านนายพลหลุดล่วงหรอกใช่มั้ยคะ อ้ายเยว่นั่งลงที่เก้าอี้เร็วสิแม่จะฉีกเนื้อเป็ดให้วันนี้กินเยอะ ๆ นะเข้าใจมั้ย "ซูเม่ยไม่กลัวแถมยังตอบกลับอย่างหน้าตาเฉยจนสาวใช้ที่คอยรับใช้อยู่ในห้องสองคนถึงกับจ้องมองใบหน้ากันอย่างเลิกลัก ชิงเถานั่งตัวสั่นเทากำมือแน่นโมโหลูกสะใภ้มาก ๆ
“ทำมาก็ต้องกินสิ นี่ชักช้าทำไมมาตักข้าวสิอาหารเย็นเดี๋ยวไม่อร่อย” ซูเม่ยแสยะยิ้มในที่สุดแม่สามีก็ไม่สามารถต่อว่าเธอต่อได้
ทั้งสามกินอาหารกันเสร็จ ซูเม่ยพาอ้ายเยว่มาที่ห้องของเธอวันนี้เป็นวันแรกที่เธอทะลุมิติมาที่นี่การนอนคนเดียวในที่ไม่คุ้นเคยจึงเป็นเรื่องยาก จึงให้อ้ายเยว่มานอนด้วยคืนนี้
ฝั่งด้านชิงเถาเธอเดินกลับมาที่ห้องในใจนึกโมโหซูเม่ยยิ่งนัก จู่ ๆ ทำไมเธอถึงเปลี่ยนไปอย่างนี้ ราวกับเป็นคนละคน
“ลูกสะใภ้คนนี้ช่างร้ายกาจหรือว่าที่ผ่านมาเธอแกล้งทำเป็นอ่อนน้อมถ่อมตน แต่ก็ไม่น่าจะใช่แววตาของเธอดูเปลี่ยนไปแต่ก่อนแม้แต่เงยหน้ามองฉันยังไม่กล้า แต่วันนี้ต่างจากเดิมไม่ว่าจะกล้าสบตาโดยตรงไหนจะกล้าขัดคำพูดของฉันเถียงคำไม่ตกฟากต่อหน้าคนใช้อีก ไม่ได้การฉันอุตส่าห์ทำให้จิ่นเฉาจื่อรังเกียจและไม่ชอบเธอมาจนป่านนี้แล้ว ฉันจะไม่ให้แผนของฉันพังทลายหรอก” ชิงเถาบ่นพึมพำกอดอกครุ่นคิดเรื่องราวที่ผ่านมา ลูกชายของเธอไปคว้าเอาซูเม่ยในคืนวันที่มีงานเลี้ยงฉลองด้วยความเมาทำให้เขาพลาดพลั้งได้เสียกับเธอ เธอเป็นลูกสาวชาวบ้านธรรมดามีเพียงแม่ที่เป็นครอบครัวของเธอเพียงคนเดียว ตอนนั้นจิ่นเฉาจื่อยังไม่ได้รับตำแหน่งนายพล เขาเป็นสุภาพบุรุษเมื่อทำสิ่งที่เลวร้ายลงไปจึงน้อมรับความผิดพลาดรับซูเม่ยเข้ามาอยู่ในบ้านฐานะภรรยาของเขา แต่หลังจากที่แต่งงานกันได้เพียงคืนเดียวเขาต้องกลับเข้ากรมทหาร หลังจากนั้นไม่กี่เดือนซูเม่ยได้ตั้งท้อง ตอนแรกชิงเถายืนยันที่จะไม่รับเธอเป็นลูกสะใภ้แต่เมื่อได้ยินว่าเธอมีหลานจึงยอมให้เธอเข้ามาอยู่ในบ้านแต่ความเกลียดชังยังคงมีอยู่เต็มอกเธอเพราะคนที่เธอหมายตาเอาไว้เป็นลูกสะใภ้คือลูกสาวของนายอำเภอตงหนาน ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาฐานะทางบ้านหรือแม้กระทั่งการเล่าเรียนเธอดูเป็นผู้หญิงที่เพรียบพร้อมทุกอย่าง ทำให้เธอเสียใจที่ไม่ได้ดั่งใจแต่กลับได้ลูกสะใภ้บ้านนอกไร้การศึกษาไร้เงินทองมาแทน โชคดีที่หลายปีมานี้ลูกชายของเธอนาน ๆ กลับบ้านครั้งเพราะหน้าที่ที่จะต้องรับผิดชอบ การติดต่อจึงทำได้เพียงโทรเลขหากันเป็นครั้งคราว เธอพยายามใส่ความซูเม่ยสารพัดให้ลูกชายตัวเองรังเกียจและเกลียดชังตัวของซูเม่ย กลับมาเมื่อไหร่เขาจะได้หย่ากับเธอ และให้หนูยูร์เหยาลูกสาวนายอำเภอเข้ามาแทนที่เป็นลูกสะใภ้เคียงข้างจิ่นเฉาจื่อไม่ว่าจะเดินเคียงคู่ออกงานใดทั้งสองคงเหมาะสมกันน่าดู
ฝั่งด้านนายพลจิ่นเฉาจื่อ
เขายืนจ้องมองดวงจันทร์บนท้องฟ้าคืนนี้ดวงดาวรายล้อมดวงจันทร์เต็มไปหมด สายลมพัดผ่านเอื่อย ๆ มือข้างซ้ายจับบุหรี่ออกมาก่อนที่มือขวาจะหยิบไฟแซ็กมาจุดเพื่อสูบระบายอารมณ์
“คืนนี้ท้องฟ้าแจ่มใสจริง ๆ สายลมก็เย็นสบายดีจัง ท่านว่าอย่างนั้นมั้ยท่านนายพล” เสียงทุ่มต่ำเอ่ยขึ้น สองเท้าค่อย ๆ เดินมาใกล้ชายที่เป็นนายพลใหญ่ที่ชานเรือนด้านนอก
“ฮึ ฮึ เวลานี้เป็นนอกเวลางานไม่ต้องเรียกฉันว่านายพลก็ได้ ส่วนดวงจันทร์คืนไหนก็เหมือนกันหมดไม่แตกต่างกันสักนิด” เขาพูดจบคีบบุหรี่เข้าปากสูดลมเข้าปอดเฮือกใหญ่ก่อนจะพ่นควันออกมา คนมาเยือนคือเพื่อนสนิทของเขาที่เป็นทหารมาพร้อมกันแต่ตอนนี้เขากลับมียศสูงกว่า
“นายนี่ไม่เปลี่ยนไปสักนิด เอามาสูบบ้างสิ” ตงฉวนยื่นมือไปคว้าบุหรี่ของจิ่นเฉาจื่อมาสูดทันที
“มีเรื่องอะไรปกตินายไม่ค่อยสูบไม่ใช่เหรอ?”
“ฉันคิดถึงบ้านนะสิ คิดว่าวันหยุดใกล้จะถึงจะกลับไปหาแม่ที่บ้านสักหน่อยไม่รู้ป่านนี้จะเป็นอย่างไร ติดต่อกันทางจดหมายแม่ก็ไม่สามารถติดต่อกลับมาได้เพราะอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ ยิ่งโทรเลขยิ่งยากไปกว่าเดิม ว่าแต่นายเถอะตั้งแต่แต่งงานมาไม่กลับไปบ้านเลยไม่คิดถึงลูกถึงภรรยาเลยหรือไง ป่านนี้คงโตแล้วน่ารักน่าชังแน่ ๆ เลย หากฉันเป็นนายคงจะกลับทุกวันหยุด” ตงฉวนรู้เพียงแต่ว่าเพื่อนของเขาแต่งงานก่อนเข้ามากรมทหารและรู้ว่าตอนนี้เขามีลูกชายที่น่ารักหนึ่งคนเพราะคุณแม่ของเขามักจะโทรเลขมาบ่อย ๆ
“บ้านเหรอ! ไม่รู้สิไม่ค่อยอยากกลับเท่าไหร่”
“อะไรกัน..ไม่คิดถึงลูกชายหรือไงตอนนี้ 5 ขวบแล้วกำลังพูดกำลังจานายนี่ช่างเป็นนายพลที่ไร้ความรู้สึกอย่างที่พวกทหารว่ากันจริง ๆ ”
“ใช่!! ฉันเป็นนายพลไร้ความรู้สึก นายทหารตงฉวนนายไปวิ่งรอบสนาม 50 รอบนี่คือคำสั่งของนายพลใหญ่” ตงฉวนหัวเราะคิกคักก่อนจะวิ่งหนีจากไป พร้อมหันมาโบกมือให้แก่เขา
“นายบอกเองนะว่าเวลานี้ไม่ใช่เวลางานอย่างนั้นฉันไม่ทำตามคำสั่ง ขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะครับท่านนายพล” จิ่นเฉาจื่อส่ายหน้าไปมาในความทะเล้นของเพื่อนสนิทของเขา ก่อนจะหันไปจ้องมองท้องฟ้าอีกครั้ง พรางคิดถึงคำพูดของตงฉวน
“คิดถึงบ้านเหรอ ...เฮ้อ!! แค่คิดถึงใบหน้าผู้หญิงคนนั้นฉันก็ไม่อยากกลับไปที่บ้านเลย เริ่มแรกแค่คิดจะรับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไปแต่ไม่คิดเลยว่าเธอจะเป็นคนที่ชั่วร้าย” เขาบ่นพึมพำพรางดูดบุหรี่ต่อ เขาไม่อยากกลับไปเจอหน้าเธอเลยยิ่งคุณแม่โทรมาบอกว่าระหว่างที่เขาไม่อยู่หลังจากคลอดลูกชายของเขา เธอแสดงตัวตนที่แท้จริงไม่ว่าจะเกียจคร้านวัน ๆ เอาแต่นอนสบาย ๆ ลูกก็ไม่เคยเลี้ยงดูออกไปแต่งสวยที่ร้านเสริมสวยทุกวัน หากกลับไปครั้งนี้ไม่แน่เขาอาจจะหย่ากับเธอและจ่ายเงินที่เธอเสียหายและใช้เวลาอยู่ในครอบครัวของเขามา 5 ปี ในเมื่อความสัมพันธ์ของเขากับเธอไม่ได้เริ่มจากความรักอย่างนี้ไม่ยากที่จะให้เธอยอมหย่ากับเขา
“เห็นทีวันหยุดที่จะมาถึงฉันคงต้องกลับบ้านสักหน่อยแล้ว อ้ายเยว่ที่ได้ยินแต่เสียงตอนนี้จะได้เห็นหน้ากันสักทีหน้าตาจะเป็นอย่างไรนะ!” เขาทิ้งบุหรี่ลงที่เขี่ยบุหรี่ก่อนจะเดินเข้าไปพักผ่อนพร้อมครุ่นคิดเรื่องการเดินทางกลับบ้าน