บทย่อ
"เป็นตัวประกอบอยู่ดี ๆ ลืมตามาอีกทีทะลุมิติกลายมาเป็นภรรยาของนายพลแถมมีลูกชายที่น่ารักอีกหนึ่งคนแต่เรื่องที่น่าปวดหัวที่สุดคือสามีทั้งเกลียดทั้งชังแล้วอย่างนี้ฉันจะทำอย่างไรต่อไปชีวิตถึงจะสงบสุข" แนะนำเรื่อง หมิงลู่นักแสดงสาวตัวประกอบนั่งรอเวลาเข้าฉากจนเกิดอุบัติเหตุในกองถ่ายทำให้เธอได้รับบาดเจ็บจนหมดสติ ตื่นมาอีกทีเธอกลายเป็นภรรยาของท่านนายพลไร้ใจไปเสียแล้ว ที่น่าตกใจยิ่งกว่าเธอยังมีลูกชายที่แสนน่ารักอีกหนึ่งคน ชีวิตของตัวประกอบอย่างหมิงลู่เปลี่ยนไปทันที ตอนนี้เธอกลายเป็นซูเม่ยภรรยาที่สามีชังแม่สามีไม่ชอบใจแถมยังหาผู้หญิงอื่นเข้ามาอยู่ในบ้านเพื่อทำให้ทั้งสองหย่ากัน ซูเม่ยเธอพยายามหลายครั้งที่ขอหย่าแต่ทำอย่างไรจิ่นเฉาจื่อนายพลไร้ความรู้สึกกลับไม่สนใจในสิ่งที่เธอพูดและไม่ยอมหย่าให้เธอเสียที จนตอนนี้อ้ายเยว์อายุ 5 ขวบ ซูเม่ยต้องทนอยู่ในบ้านหลังนี้ด้วยความทุกข์ทรมานใจ จนกระทั่งหมิงลู่เข้ามาอยู่ในร่างเธอจะไม่ทนอย่างซูเม่ยคนเก่า ในเมื่อแม่สามีอยากจะได้ลูกสะใภ้คนที่เธอชอบใจ ได้!! ซูเม่ยคนนี้จะจัดการให้เอง และเธอจะเรียกร้องค่าเสียหายที่สามีนอกใจเมื่อนั้นเธอจะฟ้องหย่าและเรียกร้องเอาเงินเพื่อพาอ้ายเยว์ออกไปจากบ้านที่น่าเบื่อหลังนี้เสียที …แต่ทว่าเมื่อพบหน้ากันครั้งแรกทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปไม่เป็นดั่งใจคิด จากสามีที่เคยเกลียดชังไม่สนใจใยดี กลับกลายเป็นว่าเขาไม่ยอมหย่าไม่ว่าเธอจะพยายามอย่างไรก็ไม่สำเร็จสักที แถมเขายังคลั่งรักเธอจนทำให้ใจหวั่นไหว การหย่าครั้งนี้ของเธอจะประสบผลสำเร็จหรือไม่ติดตามต่อได้ในนิยายเรื่องนี้นะคะ ☺️ นิยายเรื่องนี้แต่งตามความเข้าใจของนักเขียนเท่านั้นไม่ได้อ้างอิงตามประวัติศาสตร์โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ขอสงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 วริษา
บทที่ 1 ลืมตามาอีกทีมีลูกชายซ่ะงั้น
บทที่ 1 ลืมตามาอีกทีมีลูกชายซ่ะงั้น
หมิงลู่นักแสดงสาวอายุ 25 ปีนั่งหาวแล้วหาวอีก เธอจ้องมองไปเบื้องหน้าทุกคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองแสงไฟฉากที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้ตัวเอกของละครที่กำลังทำการถ่ายทำ ทำให้เธอรู้สึกอยากจะถูกเอาใจดูแลอย่างนางเอกสาวมี่มี่คนนั้นจัง แต่ทว่าเธอเป็นเพียงแค่ตัวประกอบที่จะได้เข้าฉากเพียงไม่กี่ครั้ง ความฝันของเธอคือการเป็นนางเอก เธอนั่งคอยเวลาเข้าฉากหลายชั่วโมงแต่ก็ยังไม่ถึงเวลาของตัวเองสักที แต่ใครจะไปคิดเมื่อนั่ง ๆ อยู่จะเกิดอุบัติเหตุอุปกรณ์ถ่ายทำหนังตกลงมาใส่เธออย่างจัง ทำให้เธอหมดสติในที่เกิดเหตุทันที เมื่อลืมตาขั้นอีกครั้งเธอต้องตกใจเมื่อจู่ ๆ เธอมาอยู่ในที่ที่ไม่เคยอยู่เลยด้วยซ้ำแถมยังไม่ใช่ที่โรงพยาบาลความเจ็บปวดก่อนที่เธอจะหมดสติกลับไม่รู้สึกด้วยซ้ำไป เธอกวาดสายตามองไปรอบ ๆ เห็น
เด็กชายตัวน้อยอายุราว 5 ขวบจ้องมองใบหน้าของเธอด้วยแววตาสั่นเครือตัวสั่นเทาระริกนั่งกอดร่างกายของเธอแน่น
“นี่เด็กน้อยตอนนี้เรากำลังเข้าฉากอะไรอยู่เหรอ? ทำไมเธอแต่งตัวแปลก ๆ อย่างนี้ล่ะ” หลิงมู่ขยับแขนแตะที่ตัวของเด็กน้อยเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะสถานที่ไม่เหมือนโรงพยาบาลแม้แต่น้อย เธอจำได้ว่าเมื่อครู่เธอกำลังนั่งรอเข้าฉากแล้วเกิดอุบัติเหตุไม่ใช่หรอกหรือ? แล้วทำไมเธอถึงมานอนอยู่บนเตียงแถมตอนนี้ยังมีเด็กชายกอดเธอแน่นสะอึกสะอื้นไห้จนเสื้อของเธอเปียกปอนไปหมด หรือจะเป็นฉากไหนในละครกัน?
"คุณแม่ คุณแม่ฟื้นแล้ว แต่ทำไมคุณแม่ถึงถามอ้ายเยว่แบบนั้นครับ หรือว่าคุณแม่จะไม่สบายหนัก อึก อึก อ้ายเยว่จะขอคุณย่าไปตามหมอมาตรวจร่างกายแม่ที่บ้านนะครับ” ดวงตาของเด็กชายแดงก่ำน้ำตาเริ่มไหลรินจ้องมองเธอด้วยความเป็นห่วง ยิ่งทำให้หมิงลู่งงงวยไม่เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ตรงหน้า
“นี่เด็กน้อยฉันไม่ได้เป็นอะไรมากเสียหน่อย เธอจะร้องทำไมอีกอย่างฉันไม่ใช่แม่ของเธอหรอกนะ!! หรือว่าตอนนี้เรากำลังแสดงละครกันอยู่เหรอ? แต่เดี๋ยวสิฉันไม่เคยรับละครเล่นเป็นแม่คนเลยนะ” หมิงลู่ยันกายลุกขึ้นจ้องมองเด็กชายด้วยความสงสัย แต่ทว่าเมื่อเด็กชายได้ยินอย่างนั้นยิ่งร้องไห้หนักมากกว่าเดิม
“แง้ ๆ คุณแม่ไม่รักอ้ายเยว่ขนาดไม่อยากได้อ้ายเยว่เป็นลูกเลยเหรอครับ ผมสัญญาต่อจากนี้จะไม่ดื้อเชื่อฟังคำพูดของคุณแม่ทุกอย่าง อย่าพูดแบบนี้กับผมอีกเลยนะครับ” เด็กชายที่แทนตัวเองว่าอ้ายเยว่โผล่เข้ากอดหมิงลู่แน่นมากกว่าเดิม ร่างกายสะอื้นไห้หนักกว่าเก่าเธอทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว จึงยกมือแตะหลังของเด็กชายเบา ๆ เพื่อปลอบให้เขาหยุดร้องไห้และเงียบเสียงลงแต่แล้วสายตาของเธอได้เหลียวไปสบตากับกระจกสะท้อนให้เห็นหน้าของเธอตอนนี้ ดวงตาของเธอเบิกโพลงโตอ้าปากค้างก่อนจะกรี้ดร้องออกมาด้วยความตกใจ
“กรี๊ด!! นั่นใครในกระจกกัน” อ้ายเยว่ตกใจเสียงกรี้ดร้องของแม่จนเงียบสนิทผละออกจากกายของเธอพร้อมมองดูด้วยความสงสัย
“คุณแม่ คุณแม่เกิดอะไรขึ้นกรี้ดร้องทำไมหรือครับ” เธอชี้นิ้วไปยังไปกระจกที่ตั้งอยู่ปลายเตียงให้เด็กชายได้เห็นผู้หญิงในกระจกเช่นเดียวกับเธอแต่เมื่ออ้ายเยว่จ้องมองไปยังปลายนิ้วเห็นแม่ของตัวเอง เขายิ่งไม่เข้าใจไปใหญ่
“นั่น! นั่นใครกัน”
“นั่นคุณแม่ของอ้ายเยว่นะสิครับ ทำไมคุณแม่ถึงเปลี่ยนไปอย่างนี้จำไม่ได้แม้แต่ใบหน้าของตัวเองเหรอเนี่ย!” เด็กน้อยคิ้วขมวดเข้าหากันครุ่นคิดอาการของแม่ที่เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน
ส่วนหมิงลู่ตอนนี้เธอสติหลุดลอยไปแล้ว...เธอใช้มือทั้งสองข้างแตะที่ใบหน้าของตัวเองก่อนจะตบเบา ๆ เพราะคิดว่าตัวเองกำลังฝัน แต่เมื่อโดนตบเข้าที่หน้าจริง ๆ ความเจ็บแสบได้วาบผ่านความรู้สึกทำให้เธอได้รู้ว่าเรื่องทั้งหมดไม่ใช่ความฝัน
‘นี่มันเรื่องบ้าอะไร ฉันจำได้ว่าตัวเองเจออุบัติเหตุในกองถ่ายจนสลบไปไม่ใช่เหรอ? อย่าบอกนะว่าฉันทะลุมิติมาอยู่ในร่างของผู้หญิงคนนี้แล้วร่างเดิมของฉันล่ะ หรือว่าฉันจะตายไปแล้ว แต่สวรรค์สงสารเลยส่งฉันมาอยู่ในร่างนี้??? หมิงลู่เธอต้องตั้งสติสอบถามเด็กน้อยคนนี้ให้รู้เรื่องว่าเธอเป็นใคร เป็นอะไรกับเด็กคนนี้แล้วที่นี่ที่ไหนกัน! ฉันจะต้องเอาตัวรอดในมิตินี้ให้ได้ สวรรค์กลั่นแกล้งฉันมากจริง ๆ ฉันไม่เคยมีความรักไม่เคยมีแฟนด้วยซ้ำความฝันที่จะได้เป็นนางเอกก็ยังไม่ได้ทำเลย โธ่!! ชีวิตที่น่าสงสารของหมิงลู่’ เธอคิดในใจก่อนจะตั้งสติสงบสติอารมณ์จับแขนของเด็กน้อยให้หันมองมาที่เธอเพื่อที่จะถาม
“นี่เด็กน้อย เมื่อครู่เธอว่าฉันเป็นใครนะแล้วตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหน”
“คุณแม่ก็เป็นแม่ของผมอย่างไรครับ แม่ชื่อว่าซูเม่ยเป็นภรรยาของคุณพ่อที่เป็นทหารและมีอ้ายเยว่เป็นลูกชาย คุณแม่ทำไมจำไม่ได้หรือว่าไข้จะขึ้นสมองผมจะแอบโทรเลขไปหาคุณพ่อให้ได้ คุณแม่วางใจนะครับผมจะให้คุณหมอรักษาแม่ให้หายเอง” เด็กชายทำท่าจะลุกขึ้นเดินจากไปแต่ก็ถูกหมิงลู่ดึงแขนเอาไว้ก่อน
“ไม่ต้อง ๆ อีกไม่นานความทรงจำคงกลับมาเอง ตอนนี้ช่วยเล่าเรื่องที่ผ่านมาให้ฉันฟังได้มั้ย” อ้ายเยว่พยักหน้ายอมนั่งลงเล่าเรื่องทุกอย่างให้แก่เธอได้ฟังเท่าที่เด็ก 5 ขวบจะรู้เรื่อง
‘อะไรน่ะ!! ฉันทะลุมิติมาที่นี่มีลูกและสามีอย่างนั้นเหรอ ให้ตายสิสวรรค์ได้ยินสิ่งที่ฉันคิดเมื่อครู่จนดลบันดาลมาให้หรือไงกัน เฮอะ!!’