บทที่ 3 ข้อเสนอ
บทที่ 3 ข้อเสนอ
“แกเป็นใครวะ”
หัวหน้าของพวกอันธพาลถามพลางหรี่ตามองสหรัฐอย่างพินิจพิจารณา ร่างสูงไม่ตอบอะไรแต่เดินเข้ามาพร้อมยื่นนามบัตรของตนให้
“ไปที่เกาะมุกดา แล้วฉันจะจ่ายเงินสิบล้านนี้ให้แกเอง”
“คะ...คุณเป็นใครครับ”
เสียงแหบพร่าตามประสาคนสูงวัยเอ่ยถาม ‘พศิน’ บิดาของพิมพ์พธูจ้องมองผู้มาเยือนรายใหม่ด้วยความฉงน ต่างจากหญิงสาวที่แน่นิ่งไปราวกับวิญญาณหลุดออกจากร่างไปแล้ว
นี่กำลังฝันอยู่ใช่ไหม...
“ผมคือคนที่จะมาซื้อที่ดินตรงนี้ทั้งหมด รวมถึงที่ดินของคุณครับ ยังไง...เราไปคุยกันที่เกาะมุกดาดีมั้ย ส่วนพวกคุณที่มาทวงเงิน จะไปด้วยกันเลยก็ได้นะ”
“ถ้าอย่างนั้นต้องรบกวนด้วยนะครับ”
พวกทวงหนี้มีท่าทีเปลี่ยนไปเมื่อเห็นนามบัตร เขาคือเจ้าของโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในเกาะมุกดาและทะเลแถบนี้
“นายหัวครับ เรือพร้อมแล้วครับ”
ทะนงวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาตามเขา ก่อนจะพูดต่อเมื่อนับจำนวนคนที่จะขึ้นเรือกลับไปที่เกาะมุกดาด้วยสายตา
“เอ่อ...แต่ถ้าผู้โดยสารจะเยอะขนาดนี้ เกรงว่าเรือจะไม่พอนั่งนะครับ”
“เอาแบบนี้ พวกแกรอฉันอยู่ที่นี่ทั้งหมดนั่นแหละ เดี๋ยวฉันไปเอง”
เสียงของหัวหน้าแก๊งทวงหนี้ เอ่ยบอกลูกน้อง
“ครับลูกพี่”
พวกลูกน้องรับคำ เมื่อลดจำนวนผู้โดยสารลงได้จึงเตรียมเคลื่อนย้ายทุกคนไปยังท่าเรือ หญิงสาวกอดแขนบิดาแน่นด้วยไม่รู้ว่าชายหนุ่มจะมาไม้ไหน
มาดีหรือมาร้าย...
แปดปีที่ไม่ได้เจอและติดต่อกันอีกเลย ทำให้หล่อนไม่รู้ว่าสหรัฐเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน ทว่าดูจากแววตาแล้วมันชัดเจนมากถึงความแค้นที่เขามีต่อเธอ
มันก็สมควรแล้ว...พิมพ์พธู
“เชิญครับ”
ร่างสูงผายมือให้หล่อนกับพ่อเดินไปก่อน เขาทำเหมือนไม่รู้จักกันทั้งที่พิมพ์พธูมั่นใจว่าอีกฝ่ายจำตนได้แน่ จังหวะจะผ่านหน้าเขาไป ดวงตาคู่สวยสั่นไหวแอบเหลือบเห็นมุมปากของสหรัฐยกยิ้ม
มันเป็นยิ้มที่ดูเลือดเย็นมากกว่าเป็นมิตร!
ทะนงเดินนำหน้าสุดต่อด้วยหัวหน้าแก๊งทวงหนี้ พิมพ์พธูกับบิดาและปิดท้ายที่สหรัฐ เขาตามมาเงียบ ๆ ทว่าหญิงสาวรู้สึกได้ถึงสายตาเย็นยะเยือกที่จ้องมองจนรู้สึกเสียวสันหลัง เวรกรรมอันใดพัดพาให้ต้องมาเจอกับเขาอีกกันนะ อุตส่าห์วาดหวังว่าเขาคงมีชีวิตที่ดีหลังจากเลิกรากัน
แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นแบบนั้น....
สีหน้าคับแค้นใจและแววตากระหายการเอาคืนมันฉายชัดออกมาจากตัวเขา และเธอก็มั่นใจว่าเธอคิดไม่ผิด
หลังจากที่ทุกคนขึ้นมาบนเรือ โดยทะนงทำหน้าที่เป็นคนขับ สายตาคมของสหรัฐยังคงจับจ้องไปที่พิมพ์พธู และอาการกระสับกระส่ายของหญิงสาวที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็เป็นความตั้งใจของเขาทั้งสิ้น พิมพ์พธูยังคงลอบมองชายหนุ่มเป็นระยะ ๆ และทุกครั้งที่ยกเปลือกตาขึ้นมอง สายตาของอดีตคนรักก็ยังคงมองมาที่เธอไม่ละไปไหน
“ไม่เป็นไรนะลูก ถ้าเราขายที่ได้สิบล้าน ทุกอย่างก็จะจบแล้ว”
“จ้ะพ่อ”
แม้บิดาจะบอกออกมาแบบนั้น หากแต่หล่อนรู้สึกได้เลยว่ามันจะไม่จบลงง่าย ๆ
สหรัฐไม่เบนสายตาไปทิศทางอื่นเลยนอกจากมองพิมพ์พธู ราวกับกลัวว่ามันจะเป็นเพียงความฝันที่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง แปดปีก่อนเธอทำเรื่องเลวร้ายไว้กับเขาแล้วเหลือทิ้งไว้เพียงความเจ็บปวดฝังแน่นลึกจนกลายเป็นแผลเป็นในหัวใจ มาวันนี้สวรรค์ก็ส่งหล่อนกลับมาในอุ้งมือของเขาอีกครั้ง
ไม่มีทางที่ชายหนุ่มจะปล่อยให้เธอหลุดลอยไปเป็นครั้งที่สอง!
ใช้เวลาเพียงสิบนาทีจากฝั่งมาถึงเกาะมุกดา ทะนงเข้าจอดเทียบท่าหน้าบ้านของสหรัฐแทนการไปจอดฝั่งโรงแรมด้วยรู้ใจผู้เป็นเจ้านายดีว่าไม่ต้องการให้คนนอกเข้าไปรบกวนแขกที่มาพัก ร่างสูงกระโดดลงจากเรือไปก่อนแล้วยื่นมือมารอรับพศินกับพิมพ์พธู
ผู้เป็นพ่อจับมือเขาเพื่อประคองขึ้นท่าเรือ ขณะที่หญิงสาวคือคนต่อไปแต่เธอกลับลังเลอยู่นานสองนาน เพราะเขาไม่ใช่คนเดิมที่หล่อนเคยรู้จักอีกแล้ว
“มาสิ”
“ขอบคุณค่ะ”
หญิงสาวยอมส่งมือให้ ฝ่ามือใหญ่บีบมือเล็กแน่นจนเธอรู้สึกเจ็บแต่ทำได้เพียงแค่กัดกรามแน่น ตลอดทางที่มาที่นี้ได้แต่คิดเขามีจุดประสงค์อะไรกันแน่ถึงได้ปรากฏตัวออกมาช่วยเธอกับพ่อ
“ตามมาครับ”
“อะ...อ้าว แล้วผมล่ะ”
หัวหน้าแก๊งที่ส่งมือมาเก้อรีบตะโกนถาม ทว่าไม่มีใครอยู่รอช่วยพาเขาลงจากเรือเลยสักคน จึงต้องกระโดดข้ามช่องว่างเล็ก ๆ ระหว่างเรือกับท่าด้วยตนเองจนพลาดล้มกลิ้งไปบนซีเมนต์แข็ง ๆ แต่ก็ไม่มีใครคิดสนใจมองกลับไปสักคน
“โอ๊ย!”
พิมพ์พธูและบิดาเดินตามสหรัฐกับคนของเขาเข้าไปถึงห้องรับแขกภายในบ้าน เหมือนว่าบ้านนี้จะไม่มีใครอยู่นอกจากเขาเพราะเป็นบ้านท้ายเกาะซึ่งอยู่ตรงข้ามกับฝั่งโรงแรม และไม่ได้มีอาณาเขตมากมายนัก
เมื่อแปดปีก่อนสหรัฐหอบกายใจที่บอบช้ำจากกรุงเทพกลับมาที่แผ่นดินของแม่ เพื่อหวังเยียวยาหัวใจของเขาเองที่นี่ ขณะที่พ่อของเขาหลังจากแต่งงานใหม่ไปได้หลายปีแล้ว พักอาศัยอยู่ที่คฤหาสน์บนฝั่งแผ่นดินใหญ่
“เชิญนั่งครับ จะได้พูดคุยกัน”
เขาผายมือให้หล่อนกับพศินนั่งลงบนโซฟาฝั่งตรงข้าม
หญิงสาวลอบมองเขาก่อนจะพบว่าสหรัฐมีสีผิวเข้มขึ้นกว่าเมื่อก่อน อาจเพราะเขาอยู่เกาะทุกวัน เจอกับลมแดดลมทะเลจนผิวเกรียมเปลี่ยนเป็นสีแทน แต่ผิวพรรณของเขายังคงเรียบเนียนสะอาดสะอ้าน มีมัดกล้ามเนื้อที่เห็นได้ชัดขึ้นกว่าสมัยมหาวิทยาลัยเยอะ หน้าตาคมเข้มชัดเด่นด้วยหนวดเคราจาง ๆ ทำให้ชายหนุ่มดูดุดันขึ้นกว่าเดิม
และเขายังคงทำให้เธอเผลอลอบมองได้อีกครั้ง
“ทะนงไปเอาสัญญาซื้อขายกับสมุดเช็กมา”
“ครับนาย”
ทะนงรับคำแล้วรีบไปเตรียมทุกอย่างตามคำสั่ง พศินมองไปรอบ ๆ บ้านหลังใหญ่ชั้นเดียว แต่กินพื้นที่ที่ดูกว้างขวางสำหรับการจะอยู่ลำพังไม่น้อย
“คุณเป็น...เจ้าของที่นี่เหรอครับ”
บิดาของพิมพ์พธูเอ่ยถามเขา
“ครับ ผมเป็นเจ้าของโรงแรมที่เกาะมุกดา และกำลังจะขยับขยายสาขาไปทำบนฝั่ง เลยต้องการพื้นที่แถวนั้นทั้งหมดเพื่อสร้างโรงแรม”
“ถึงได้อยากได้ที่ดินของผมสินะครับ แต่ว่าที่ดินตรงนั้นไม่ได้มากมายอะไร ผมไปตระเวนขายมาเยอะราคาเต็มที่ยังไม่ถึงสามล้านเลยนะครับ”
เพราะแบบนี้จึงยังตัดสินใจขายไม่ได้เสียที ด้วยราคามันน้อยเกินกว่าจะเอามาใช้หนี้ได้
“ครับ ราคาที่ดินของคุณกับจำนวนแปลงที่ได้มามันไม่มีทางถึงสิบล้านอยู่แล้ว ต่อให้คุณเร่ขายไปทั่วประเทศ สูงสุดก็คงสามล้านห้า”
“ถ้าอย่างนั้นทำไม...”
พศินมองเขาด้วยความสงสัย ในเมื่อที่ดินตรงนั้นราคาถูกกว่าที่เขาเสนอให้มากกว่าครึ่ง แล้วเพราะอะไรชายหนุ่มจึงยอมขาดทุนควักเนื้อตนเองแบบนี้
“ผมมีข้อเสนออื่นควบคู่กับการซื้อที่ดินผืนนั้น”
“ข้อเสนออะไรครับ”
สหรัฐเหยียดยิ้มมุมปาก แววตามาดร้ายจดจ้องไปยังพิมพ์พธูที่เริ่มรู้ชะตากรรมของตนเองแล้ว
“ลูกสาวของคุณ!”
“...”
“ผมต้องการแต่งงานกับเธอ!”
“....”
“เงินสิบล้าน..จะเป็นของคุณทันทีที่คุณตอบตกลง!”