บทย่อ
คำโปรย : เธอทิ้งเขาไปไม่ไยดี เมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เขาจึงตามเอาคืนให้สาสม…. “จำเอาไว้! ชีวิตเธอ ร่างกายเธอ ทุกอย่างของเธอเป็นของฉัน ฉันจะปล่อยเธอให้เป็นอิสระตอนไหน ก็ขึ้นอยู่กับฉันเท่านั้น!!" การจดทะเบียนสมรสไม่ต่างอะไรกับการเอาห่วงโซ่มาคล้องคอตัวเอง ในเมื่อตัวของพิมพ์พธูตั้งใจไว้แล้วว่าหากชดใช้ให้เขาจนหมดหรือจนชายหนุ่มพอใจไม่อยากจะแก้แค้นอะไรแล้ว เธอก็จะหนีหายไปจากชีวิตของเขาและทุกคนที่นี่ แต่ถ้าทำแบบนี้...ใบทะเบียนสมรสก็จะทำให้เธอไปไหนไม่ได้ "คุณแน่ใจแล้วเหรอคะ ที่จะทำแบบนี้?" "เธอจะถามหลายรอบให้มันได้อะไรขึ้นมา ฉันบอกว่าแน่ใจก็แน่ใจสิ" "แต่ว่า..." "มีหน้าที่จดก็จดไปเถอะ ถ้าฉันอยากหย่าเมื่อไหร่ฉันจะบอกเอง" "แล้วถ้าฉันเป็นคนอยากหย่าล่ะคะ" "เธอไม่มีสิทธิ์ จำเอาไว้ชีวิตเธอ ร่างกายเธอ ตัวเธอ ทุกอย่างของเธอเป็นของฉัน ฉันจะปล่อยเธอให้เป็นอิสระตอนไหนก็ขึ้นอยู่กับฉันเท่านั้น" "ค่ะ…เข้าใจแล้วค่ะ" ตัวละคร สหรัฐ (พี่รัฐ) อายุ 30 ปี ชายหนุ่มผู้อยู่กับความทรงจำอันเจ็บปวด ตลอดแปดปีที่ผ่านมาเขาเฝ้าถามตัวเอง ว่าเขาทำผิดอะไรหรือทำอะไรพลาดไป หญิงสาวผู้เป็นรักแรกและรักเดียวถึงทอดทิ้งไปอย่างไร้เยื่อไย และเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง ความรักที่เคยให้มันเปลี่ยนเป็นความแค้นที่พร้อมเอาคืนอย่างสาสม พิมพ์พธู (พิมพ์) อายุ 28 ปี หญิงสาวที่โชคชะตาเล่นตลก เธอได้เจอกับความรักที่เป็นเหมือนทุกอย่างในชีวิต แต่แล้วเธอก็เลือกทิ้งให้ชายหนุ่มผู้เป็นรักแรกต้องตายทั้งเป็น เพื่อเส้นทางเดินใหม่ของตัวเธอเอง แต่แล้วโลกก็เหวี่ยงให้เธอกลับมาอยู่ในอุ้งมือเขาอีกครั้ง
บทนำ รักแรก
บทนำ รักแรก
บนดอยแห่งหนึ่งทางภาคเหนือของประเทศไทย กลุ่มนักศึกษาของมหาวิทยาลัยได้รวมตัวกันจัดตั้งค่ายอาสาเพื่อน้อง ตระเวนไปยังดอยต่าง ๆ ที่ขาดแคลนสิ่งของ เพื่อสร้างห้องสมุด และบริจาคอุปกรณ์การเรียนที่จำเป็นทุกอย่าง
หลังจากเปิดรับบริจาค ในทุก ๆ หกเดือน อย่างเช่นวันนี้...
‘พิมพ์พธู’ วัยสิบเก้า เธอกำลังช่วยทาสีชั้นวางของ เธอเพิ่งเข้าเรียนปีหนึ่งได้ไม่นานก็เลือกเข้าชมรมอาสา จนมีโอกาสได้มาออกค่ายหลังจากเปิดเทอมได้เพียงเดือนเดียว
ตุ้บ!
“โอ๊ย! ฮึก...ฮือ” เด็กชายวัยประถมต้นคนหนึ่ง วิ่งหกล้มต่อหน้าต่อตา เสียงร้องของเขาทำให้หญิงสาวรีบวางแปรงทาสีลง แล้วลุกขึ้นเดินเข้าไปดูด้วยความเป็นห่วง
“เป็นอะไรมากมั้ยจ๊ะ”
“เป็นอะไรมั้ยครับ?”
รุ่นพี่คนหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์เหมือนกัน ก็รีบปรี่เข้ามาดูด้วย ทั้งคู่ย่อตัวลงช่วยกันประคองเด็กชายขึ้นพร้อมกัน ทำให้มือของเขาแตะทับบนมือของหญิงสาว
กลายเป็นว่าทั้งสองคนจับมือกันโดยไม่ได้ตั้งใจ
“โอมเพี้ยง ความเจ็บปวดจงหายไป”
พิมพ์พธู ห่อปากเป่าลมลงบนแผลถลอก ตรงหัวเข่าให้เด็กชายที่ยังสะอึกสะอื้นไม่หยุด การกระทำแสนอ่อนหวานของเธอเรียกรอยยิ้มและสายตาเอ็นดูจากรุ่นพี่คนนั้นได้ในทันที
‘สหรัฐ’ วัยยี่สิบเอ็ด มองหญิงสาวตรงหน้าไม่ละสายตา ขณะที่เธอพยายามพูดคุยจนกระทั่งเด็กหยุดร้อง ก่อนที่แม่ของเด็กชายจะมาอุ้มออกไป
เมื่อเหลือกันเพียงสองคน...
“สวัสดีครับ พี่ชื่อสหรัฐนะ เรียกพี่รัฐก็ได้ พี่อยู่ปีสาม แล้วน้องล่ะ?”
“พิมพ์ชื่อพิมพ์ค่ะ พิมพ์พธู อยู่ปีหนึ่งค่ะ”
เธอแนะนำตัว เมื่อครู่มัวแต่สนใจเด็กชาย จนไม่ทันได้สังเกตใบหน้าของสหรัฐให้ดี พอได้มาเห็นจังๆ แบบนี้แล้ว..เขาก็หน้าตาดีไม่น้อยเลย
“ชื่อแปลกจัง แปลว่าอะไรเหรอ”
“พิมพ์ก็คือพิมพ์ค่ะ ไม่มีความหมายอะไร พ่อบอกว่าแม่ชื่อพิมพิลาไลย ก็เลยอยากให้พิมพ์มีชื่อตัวหน้าเหมือนแม่เลยเอามาตั้งให้ ส่วนพธู...แปลว่าเจ้าสาวหรือภรรยาค่ะ”
พิมพ์พธูอธิบายให้ชายหนุ่มรุ่นพี่ฟัง ความหมายของชื่อคงเป็น... ‘พิมพ์ เจ้าสาวหรือภรรยาของใครสักคน’ ล่ะมั้ง
บางทีบิดามารดาอาจอยากให้เธอได้เป็นเจ้าสาวของผู้ชายแสนดีสักคนบนโลกก็ได้
“ลึกซึ้งดีนะ ชื่อพี่สิ เป็นคนไทยแท้ๆ พ่อตั้งสหรัฐซะงั้น ความหมายคงเป็นเรื่องทางเศรษฐกิจแน่ๆ”
“รุ่นพี่ล่ะก็...” คนตัวเล็กหัวเราะออกมาอย่างขำขัน ในมุกตลกของชายหนุ่ม รอยยิ้มหวานแต่งแต้มอยู่บนใบหน้าสวย สะกดสายตาคนมองให้ตกอยู่ในภวังค์
“แล้วพิมพ์กำลังทำอะไรอยู่เหรอ”
“อ๋อ พิมพ์กำลังทาสีชั้นวางของค่ะ”
เธอชี้ไปยังชั้นที่ทาสีค้างเอาไว้ ร่างสูงตรงไปทางนั้นแล้วหยิบแปรงมาจุ่มสีช่วยอีกฝ่าย พิมพ์พธูตามมานั่งลงข้างๆ เขา
“จุ่มสีแบบนั้นเดือนหน้าก็ไม่เสร็จหรอก ทำแบบนี้ไปเลยจะได้ไวขึ้น ปาดขึ้นปาดลงอย่างนี้”
“รุ่นพี่ทำแล้วดูง่ายจังเลยนะคะ”
ทำไมตอนเธอทำมันถึงยากนักนะ ฝึกระบายสีไม่ให้ออกนอกกรอบตอนอนุบาลยังง่ายกว่าเยอะเลย
“ลองดูมั้ย?”
“ค่ะ”
หญิงสาวพยักหน้าพร้อมรับแปรงทาสีต่อจากเขา คนตัวสูงกว่าเขยิบเข้ามาใกล้ก่อนจะจับมือหญิงสาวข้างที่ถือแปรงเอาไว้อีกทอดแล้วพาไปจุ่มสี ต่อด้วยบรรจงปาดลงไปตรงที่ว่างของชั้นวางของ
พิมพ์พธูแอบยิ้มกับตนเอง มองมือที่ถูกเขาจับเอาไว้ด้วยหัวใจที่เต้นแรง เธอไม่รู้มาก่อนเลยว่าในชมรมของเรา จะมีรุ่นพี่แสนอบอุ่นอย่างสหรัฐอยู่ด้วย
ใจเจ้ากรรม..ทำไมเต้นโครมครามแบบนี้..
“เก่งมาก หัวไวเหมือนกันนะ”
ไม่พูดเปล่า เขายังยกมือขึ้นลูบหัวหญิงสาวประกอบคำชมอีกด้วย นอกจากบิดาแล้ว ก็เพิ่งจะมีเขาคนนี้นี่แหละที่อ่อนโยนต่อเธอ...
“งั้นพิมพ์ทาต่อเลยนะคะ”
“เอาสิ พี่จะคอยดูเอง”
สหรัฐทำตามที่พูด เขานั่งมองเธอทาสีไปด้วย ชวนคุยเพื่อทำความรู้จักไปด้วย จนทั้งสองคนเริ่มรู้จักกันและกันมากขึ้น เสียงหัวเราะที่ดังขึ้นของพิมพ์พธู บ่งบอกได้ว่าเขาทำให้หญิงสาวมีความสุขได้มากกว่าปกติจริงๆ
และสำหรับเขาเธอเหมือนแรงดึงดูดที่มองไม่เห็น
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ เริ่มต้นจากความประทับใจตั้งแต่แรกพบ ไปสู่การตกหลุมรักเมื่อได้เรียนรู้ว่าอีกฝ่ายมีเสน่ห์ตรงใจแค่ไหน การเปิดโอกาสให้หัวใจถูกเติมเต็มจึงเป็นสิ่งที่ควรทำ และเขา...ก็ไม่ลังเลที่จะสานต่อ
‘เป็นแฟนกับพี่นะครับ’
ไม่กี่เดือนหลังจากนั้น... คู่รักคู่ใหม่ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น