กลับมาได้ยังไง
"พี่อนณให้เอมซิ่วเถอะนะ เอมไม่อยากไปเรียนแล้ว" เอมบอกกับพี่ชายเสียงเศร้า หลังจากที่เธอกลับมาบ้าน เธอก็เล่าเรื่องทุกอย่างให้พี่ชายฟัง ก่อนที่พี่ชายจะรู้จากปากของคนอื่น และเธอมีเรื่องอะไร เธอก็มักจะมาเล่าให้พี่ชายคนนี้ฟังเสมอ
"ทำไม!! มึงกลัวอะไร เรื่องแค่นี้เอง มึงก็บอกกูเองไม่ใช่เหรอเอม ว่าไม่ได้ตามตื้อ ถึงภาพมันจะออกมาแบบนั้นก็เถอะ" พี่ชายพูดพร้อมกับลูบหัวของน้องสาวไปด้วย เขาเชื่อที่น้องสาวพูด เพราะว่าน้องสาวมีอะไรก็จะมาเล่าให้เขาฟังทุกอย่าง ขนาดความฝันยังมาเล่าให้เขาฟังเลย และวิธีที่จะย้ายที่เรียนเพื่อแก้ปัญหา เขาไม่เห็นด้วยเด็ดขาด เพราะว่าถึงจะย้าย แต่ความรู้สึกที่เสียไปแล้ว มันก็ตามไปกับเจ้าตัวด้วยอยู่ดี เพราะว่าเรื่องราวมันยังไม่ได้ถูกแก้ไข
"เอมรู้สึกเสียหน้าอ่ะ เอมอ่านคอมเม้นแล้วเอม..."
"เอม...มึงอ่านทุกคอมเม้นเลยนะ อ่านให้มันเข้าไปในสมองของมึง ให้มันซึมเข้าไปในเส้นเลือดของมึง อ่านให้มันด้านชาไปเลย แล้วพอพรุ่งนี้มึงไปเรียนนะ มึงทำเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น..."
"แต่ถ้ามีคนพูด..."
"มึงก็ทำเป็นหูหนวกสิ แล้วถ้ามึงเจอไอ้คนที่อยู่บนรถ มึงก็ทำเป็นมองไม่เห็นมัน หรือว่าทำเป็นจำมันไม่ได้ แล้วที่สำคัญ มึงอย่าไปสบตากับมันอีก เดี๋ยวมึงจะแพ้มัน กูไม่น่ารีบจบมาเลย ไม่งั้นกูจะ..."
"เอมเหมือนตัวคนเดียวเลยนะพี่อนณ เพื่อนทุกคนคิดว่าเอมเป็นเหมือนอย่างในคลิป มีพี่คนเดียวที่เชื่อเอม ขอบคุณนะ ที่พี่เข้าใจเอม" ไม่พูดเปล่า เอมกอดเอวของพี่ชายเอาไว้แน่นด้วยความรัก เพราะว่ามีพี่ชายคนเดียวที่เข้าใจเธอ และเชื่อมั่นในตัวเธอ
"ก็กูเลี้ยงมึงมาไงเอม กูถึงรู้ว่ามึงไม่ใช่คนแบบนั้น เพื่อน...ถ้ามันคบกับมึงมาตั้งแต่มัธยม แล้วพวกมันยังไม่รู้จักนิสัยของมึงอีก ก็ปล่อยแม่งมันเถอะ" พี่ชายพูดพร้อมกับลูบหัวของน้องสาวด้วยความสงสาร
"แต่เอมไม่..."
"มึงไม่ใช่คนที่อ่อนแอ แล้วก็ขี้ขลาดแบบนี้นะ..."
"ก็เอมไม่เคยเจอเรื่องใหญ่แบบนี้หนิพี่อนณ เรื่องน่าอายด้วย ทั้งมหาวิทยาลัยเลยนะ เข้าไปเรียนยังไม่ถึงอาทิตย์เลย" เอมพึมพำอยู่กับหน้าท้องของพี่ชาย เธอกอดพี่ชายเอาไว้แน่น เหมือนกับคนที่ต้องการกำลังใจ ที่จะไปต่อสู้กับวันพรุ่งนี้ หรือไม่คืนนี้ เธออาจจะนอนไม่หลับก็ได้
"เอม...มึงฟังพี่นะ ถ้ามึงย้ายที่เรียน มึงจะเสียดายมาก เพราะว่าเรื่องที่มันไม่จริง มึงยังไม่ได้แก้ไขมัน มึงต้องกลับไปแก้ไขมันให้มันถูกต้องก่อน ด้วยการทำเป็นไม่สนไม่แคร์คำพูดของคน แล้วทำเป็นไม่สนใจไอ้ผู้ชายคนนั้นด้วย มึงเป็นตัวเองอย่างที่มึงเคยเป็น แล้วก็อย่าให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นอีก ไม่งั้นกูจะให้ไอ้โอมไปรับไปส่งมึง ปัญหาเรื่องของผู้ชายจะ..."
"ไม่เอา!! ถ้าพี่โอมไปรับไปส่งนะ ยิ่งจะเป็นหนักเข้าไปอีก ทุกคนจะคิดว่าเอมบ้าผู้ชาย" เอมร้องห้ามเสียงหลง เพราะว่าโอมที่พูดถึง คือเพื่อนของพี่ชาย ที่หน้าตาหล่อที่สุดในกลุ่ม แล้วถ้ามีเรื่องอะไรในกลุ่ม พวกเขาก็จะช่วยเหลือกัน แล้วเอมก็สนิทกับเพื่อนของพี่ชายทุกคน และทำไมต้องเป็นโอมที่ต้องไปรับเธอ เพราะว่าเพื่อนของพี่ชาย ทุกคนมีแฟนหมดแล้ว เหลือแค่โอมคนเดียวที่ยังไม่มีแฟน โอมมีแต่คนคุยแต่ไม่ได้คบใครจริงจัง
"ก็ถ้ามึงไม่ยอมไปเรียน กูก็จะให้ไอ้โอมมันไปรับไปส่งมึง แล้วก็ไปดูหน้าของไอ้นั่นด้วย มันกับไอ้โอมใครจะหล่อแล้วก็รวยกว่า..."
"โห๊ะ!! พอเถอะพี่อนณ เอมไปเรียนแล้ว ไม่ต้องให้ใครไปส่งทั้งนั้นแหละ แล้วเอมก็จะทำให้ทุกคนเห็นเอง ว่าเอมไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนคิด" เอมรีบบอกกับพี่ชาย เธอกลัวว่าพี่ชายจะส่งเพื่อนไปตามที่พูดจริงๆ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ทีนี้แหละงามไส้ของจริงเลย เธอจะดูบ้าผู้ชายไปเลยในสายตาของทุกคน
"ก็แค่เนี่ย แล้วมึงอย่ามาทำตัวอ่อนแอให้กูเห็นอีกนะ ไม่งั้นกูจะส่งไอ้โอมให้ไปรับไปส่งมึงแน่ ช่วงนี้มันยิ่งว่างๆอยู่" พี่ชายพูดขู่น้องสาวด้วยนํ้าเสียงที่จริงจัง
"ไม่อ่อนแอหรอก ไม่ต้องส่งใครมานะ"
"เดี๋ยวๆเกือบลืมเลย เงินที่มึงเอาไปเมื่อเช้า เอาคืนมา เหลือมาเท่าไหร่" พี่ชายถามพร้อมกับกระดิกนิ้วเรียกเงินคืนจากน้องสาวไปด้วย
"อ่ะเอาคืนไปเลย"
"อ้าว...แล้วมึงยังไม่ได้ใช้เลยเหรอ" อนณถามน้องสาวด้วยความแปลกใจ หลังจากที่เขานับจำนวนเงินแล้ว เงินยังอยู่ครบ ที่เขารู้ว่าเงินหายไปเท่าไหร่ เพราะว่าเขานับยอดเงินแล้วเมื่อเช้า ก่อนที่น้องสาวจะมือไวหยิบไป
"ยังไม่ทันจะได้ใช้ ก็เกิดเรื่องขึ้นก่อน" เอมเงยหน้าขึ้นไปบอกกับพี่ชายเสียงอ้อน
"นี่มึงเครียดถึงขนาดไม่ยอมกินข้าวเลยเหรอวะ" พี่ชายถามน้องสาวด้วยความเป็นห่วง
"ก็เรื่องมันไม่ได้น่าสนุกเลยนะพี่อนณ ในคลิปเอมดูตามตื้อผู้ชายอย่างน่าไม่อาย เอมดูบ้าผู้ชายไปเลยนะ"
"หายเศร้าแล้วใช่ไหม"
"หายแล้ว"
"ถ้าหายแล้วก็ลงไปช่วยงานที่ร้านไป พ่อกำลังเตรียมของที่จะขายพรุ่งนี้อยู่ มึงอย่ามานั่งเศร้าซึมให้กูเห็น ไม่งั้นกูจะให้ไอ้โอม..."
"ไปแล้วๆ ไม่เศร้าแล้ว โห๊ะ!! ขู่ตลอดเลย" เอมมองค้อนพี่ชาย ก่อนที่เธอจะรีบออกจากห้องนอนส่วนตัว เพื่อที่ออกไปช่วยพ่อเตรียมของที่จะขายพรุ่งนี้ พ่อของเธอจะจ้างแค่พนักงานเสิร์ฟกับพนักงานล้างจานเท่านั้น ส่วนอื่นๆ พ่อกับพี่ชายแล้วก็เธอ ก็จะช่วยกันทำเอง เพื่อลดค่าใช้จ่าย
...
"มาแล้วน้องคนเมื่อวาน คอยดูว่าวันนี้จะตามตื้อพี่ยูอีกไหม"
"อย่าพูดเสียงดัง เดี๋ยวเขาก็ได้ยินหรอก"
"ดูหน้าสิ มั่นหน้ามาก ไม่มีความอายให้เห็นเลย"
"ถ้าไม่มั่นหน้าขนาดนี้ แล้วจะกล้าไปตามตื้อผู้ชายแบบนั้นเหรอ"
"หน้าตาก็น่ารักอยู่หรอก ไม่น่าตามตื้อผู้ชายก่อนเลย"
เสียงซุบซิบกันเบาๆในขณะที่เอมเดินผ่าน
"อื้ม..." เอมครางในลำคอเบาๆอย่างคนที่พยายามตั้งสติของตัวเองให้ได้ เธอได้ยินแทบจะทุกคำ ถึงจะไม่ชัดนัก แต่ก็พอที่จะเดาได้ ว่าพูดเรื่องอะไรกันอยู่ แต่คำนินทาบวกกับคอมเม้นที่ด่าเธอเป็นร้อยๆคำนั้น มันกลายเป็นพลังให้เธอทำหน้าให้นิ่งเฉยได้ เธอจะต้องแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานให้ได้ แล้วเธอก็จะไม่เศร้าไปกับมันด้วย เพราะว่าถ้าเธอเศร้า พี่ชายจะเข้ามาจัดการให้เธอเอง ซึ่งเธอคิดว่ามันดูเป็นเด็กน้อยที่ไม่รู้จักโตยังไงก็ไม่รู้
"วันนี้ขึ้นรถไฟฟ้มาเหรอเพื่อน หน้าผมมาสวยเชียว" กรีนทักพร้อมกับสังเกตหน้าของเพื่อนไปด้วย ว่าอยู่ในอารมณ์ไหน เพราะเธอรู้สึกได้ว่าเพื่อนดูนิ่งๆ
"พี่อนณจะไปทำธุระ แล้วผ่านมาทางนี้พอดี เอมก็เลยอาศัยมาลงที่หน้ามออ่ะ แล้วนี่กินข้าวเช้ากันมาแล้วเหรอ" เอมถามเพื่อนทุกคนพร้อมกับยิ้มหวานให้ ในขณะที่เพื่อนๆมองหน้าของเธอนิ่งอยู่อย่างพิจารณา
"ยัง ว่าแต่ว่าวันนี้เอมมาเร็วนะ แถมยังแต่งหน้ามาสวยอีก แสดงว่ายังไม่ได้อ่านคอมเม้นหรือว่า..."
"อ่านมาหมดแล้ว ที่คนนินทาก็ได้ยินมาหมดแล้ว แล้วไงอ่ะ ดรีมจะให้เอมเดินร้องไห้มาเรียนหรือไง" เอมถามก่อนที่ดรีมจะพูดจบ พร้อมกับยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยไปด้วย
"ไม่ใช่อย่างนั้นสะหน่อย ไม่ร้องไห้ก็ดีแล้วหนิ เอมคนเดิมกลับมาแล้ว ใช่ไหม..."
"กลับมาได้ยังไง ก็ในเมื่อเอมไม่ได้ไปไหนสะหน่อย เมื่อวานก็แค่เกิดอุบัติเหตุขึ้น แล้วภาพมันบังเอิญออกมาเป็นแบบนั้น แล้วเอมก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ ถ้าเกิดว่าเพื่อนที่คบกันมาตั้งนาน จะไม่เชื่อใจเอม แล้วก็ไม่เชื่อที่เอมพูด แต่เชื่อในสิ่งที่เห็นไกลๆ กับคลิปที่คนอื่นถ่ายมามากกว่า" เอมพูดพร้อมกับยักไหล่ทั้งสองข้างอย่างไม่แคร์ ในขณะที่เพื่อนๆพากันนั่งอ้าปากค้างอยู่ เพราะไม่คิดว่าเอมจะพูดออกมาตรงๆแบบนี้ ถึงคำพูดของเอม จะเป็นตัวของตัวเองมากก็เถอะ เพราะว่าเอมเป็นคนพูดขวานผ่าซากอยู่แล้ว
"ไม่ใช่ไม่เชื่อเอมนะ ก็...ก็ภาพมัน..."
"ก็ภาพมันฟ้อง บวกกับคำนินทาของคนอื่น ทำให้ไม่เชื่อใจคนที่คบกันมาตั้งนานใช่ไหม ไม่เป็นไรหรอกนะ เอมเข้าใจ เพราะถ้าเป็นเอม เอมก็คงจะเชื่อภาพที่เห็น มากกว่าคำพูดของเพื่อนที่คบกันมานาน ที่เอมพูด เอมไม่ได้โกรธนะ แต่เอมแค่อยากจะบอกให้ทุกคนรู้ ว่าเอมเข้าใจความรู้สึกของทุกคน เพราะถ้าเป็นเอม เอมก็คงจะคิดแบบเดียวกับทุกคน" เอมบอกกับเพื่อนทุกคนยิ้มๆ ที่เธอพูดแบบนี้ เธอไม่ได้โกรธเพื่อนจริงๆ แต่เธอโคตรจะเข้าใจเพื่อนๆต่างหากล่ะ แต่ที่เธอพูดออกมาตรงๆแบบนี้ เพราะว่าเธออยากจะเคลียร์ใจกับเพื่อน เพื่อไม่ให้มีอะไรมาติดค้างอยู่ในใจของเธอ แล้วเธอก็ไม่อยากจะมึนตึงกับเพื่อนด้วย เธอก็เลยเลือกที่จะพูดออกมาตรงๆ ดีกว่างอนแล้วเงียบมึนตึงใส่กัน เคลียร์กันให้มันจบๆในวันนี้ จะได้คบกันไปนานๆ
"เอม...ไข่หวานขอโทษ ที่ไม่ถามเอมก่อน แต่ดันไปเชื่อในคลิปที่เห็นมากกว่า" ไข่หวานดึงมือของเอมมาจับกุมเอาไว้อย่างรู้สึกผิด เพราะว่าเอมพูดถูก พวกเธอควรที่จะถามเพื่อนก่อน ว่าเรื่องราวมันเป็นมายังไง แต่นี่พวกเธอกลับปล่อยให้เพื่อนกลับบ้าน โดยที่พวกเธอไม่ได้ถามไถ่อะไรเลย
"ขอโทษนะ พวกเราคบกันมาตั้งนาน แต่ดัน..."
"ไม่ต้องคิดมากหรอก เพราะว่าวินาทีแรกที่เห็นคลิป เอมก็คิดเหมือนกัน เป็นอันว่า เอมไม่ได้ตามตื้อพี่คนนั้น เอมแค่ตกใจ ที่เอมส่องกระจกอยู่ดีๆ แล้วพี่เขาก็ลดกระจกรถลงมา ถ้าการที่คนเราจะตามตื้อใครสักคน เราต้องเคยเจอกัน แล้วก็ได้พูดคุยกัน แล้วเราก็จะต้องรักเขามากๆ เราถึงจะตามตื้อเขาได้ แต่นี่เอมเพิ่งจะเห็นหน้าพี่เขา ก็ตอนที่พี่เขาลดกระจกรถลงมาแค่นั้น เข้าใจกันแล้วใช่ไหม" เอมถามเพื่อนๆ พร้อมกับยิ้มหวานให้ เพื่อไม่ให้เพื่อนๆรู้สึกผิดกับเธอ
"โอเคเข้าใจแล้ว ดรีมก็ขอโทษด้วยก็แล้วกัน ที่พูดไม่ดีกับเอม ทั้งที่เอมก็วางตัวดีมาตลอด" ดรีมเอื้อมมือข้ามโต๊ะไปบีบแขนของเอมเบาๆ อย่างรู้สึกผิด
"มาแล้วๆ" ปีใหม่ก้มหน้าแล้วบอกกับเพื่อนๆเสียงกระซิบ
"มาแล้วอะไรปีใหม่" กรีนถามพร้อมกับมองหาไปด้วย
"ก็กลุ่มของพวกพี่ยูไง เหมือนจะเดินมาทางนี้ด้วยอ่ะ" ปีใหม่ก้มหน้าตอบเพื่อนๆ แต่สายตาของเธอเหลือบไปทางด้านหลังของเอม ที่นั่งคู่อยู่กับไข่หวานแล้วก็กรีน ในขณะที่เธอคู่อยู่กับดรีม
"อย่าไปสนใจเลย เรื่องเมื่อวานมันก็แค่อุบัติเหตุ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป" เอมบอกกับเพื่อนยิ้มๆ ในขณะที่กลุ่มของยูกำลังจะเดินผ่านกลุ่มของพวกเธอไป
"เริ่ดมากเพื่อน คุณได้ไปต่อ" ดรีมพูดพร้อมกับยกนิ้วให้เพื่อนอย่างชื่นชม โดยที่เธอไม่สนใจกลุ่มของยู ที่หันมามองการกระทำของเธอเลย