บทย่อ
"ดูน้องปีหนึ่งคนนั้นสิ ตามตื้อพี่ยูได้น่าเกลียดจริงๆ" "ดีเนาะ ไม่อายดี เราก็อยากทำแบบนั้นบ้าง แต่เราหน้าไม่หนาพอ" "กล้าไปยืนเกาะรถของผู้ชายขนาดนั้นได้ยังไงก่อน" "เข้าใจอยู่ว่าชอบ แต่ก็น่าจะมีความเขินอายบ้าง" "แต่พี่ยูเขาก็ดูใจดีนะ ไม่ไล่หนี มิน่าล่ะ สาวๆ ถึงได้ชอบพี่เขา พี่เขาอ่อนโยนแบบนี้นี่เอง" "มองตามเหมือนหมาโดนเจ้าของทิ้งเลยอ่ะ ไม่อายบ้างเลยเหรอ" "แกเปรียบเทียบสะดูน่าสงสารเลยอ่ะ"
สติจ๊ะ
("ทำไมคืนนี้มันเงียบจังวะ หมูป่าสักตัวก็ไม่มีมาให้เห็น" พรานเทืองบ่นเบาๆ
"ก็นั่นน่ะสิ ข้าไม่น่าตามเอ็งมาเลยพรานเทือง" ขาวหันไปมองค้อนพรานเทือง หลังจากที่เขาพูดจบแล้ว เพราะว่าเขานั่งจนเขาจะหลับอยู่แล้ว ยังไม่เห็นจะมีสัตว์สักตัวเดินผ่านมาให้เห็นเลย เขาเพิ่งจะหัดล่าสัตว์จริงจังได้ไม่นาน จะเรียกว่าหัดก็ไม่เชิงนัก เพราะว่าเขาก็เข้าป่ามาตั้งแต่เด็ก แต่เหมือนกับว่าเขาจะเข้าป่าไปเที่ยวเล่นตามประสาผู้ชายสะมากกว่า ไม่ได้เข้าป่าเพื่อที่จะล่าสัตว์เป็นอาชีพอย่างตอนนี้ เขาคิดที่จะยึดอาชีพพรานป่าอย่างจริงจัง แต่เขาก็ยังฉายเดี่ยวไม่ได้ วันนี้เขาก็เลยต้องมานั่งคู่กับพรานเทือง ที่เป็นเพื่อนรุ่นพี่ของเขาที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ปกติเขาจะทำสวนทำไร่ แล้วก็กินเหล้ากับเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่ง แต่ถ้าจะให้กินเหล้าทุกวันมันก็ไม่ไหว เพราะว่าเงินมันหมด เขาก็เลยอยากจะเข้าป่า มาหาล่าสัตว์ป่าเอาไปขาย เพื่อเอาเงินไปซื้อเหล้ากิน หรือไม่ก็หากับแกล้มเอาไปกินคู่กับเหล้าของเพื่อนๆ
"มึงจะบ่นทำไมวะไอ้ขาว นี่แหละเป็นพรานป่าล่าสัตว์ มันไม่ได้ง่ายอย่างที่มึงเดินเที่ยวเฉยๆเหมือนเคยทำมานะเว้ย" พรานเทืองบอกกับเพื่อนรุ่นน้องเบาๆ สายตาก็มองไปรอบๆ เผื่อว่าจะมีฝูงของหมูป่าเดินมาบ้าง คืนนี้เป็นคืนที่พระจันทร์เต็มดวง ก็เลยสามารถมองเห็นอะไรได้ชัดเจน
"พรานเทือง!! นั่น...นั่นมันงูหนิ ตัวโคตรใหญ่เลย ทำกับแกล้มอิ่มกันทั้งวงเลยนะนั่น เอ๊ะ!! มีสองตัวหนิ ไม่ใช่ตัวเดียว อย่าบอกนะ ว่ามันกำลังพลอดรักกันอยู่" ขาวบอกให้พรานเทืองดูไม่พอ เขาเล็งปลายกระบอกปืนไปที่งูตัวดำทมิฬสองตัวใหญ่ ที่เหมือนกับว่าพวกมันกำลังพลอดรักกันอยู่อย่างนั้นแหละ
"ไอ้ขาวอย่า!! ปล่อยมันไป มันเป็นงูเจ้าที่" พรานเทืองร้องห้ามเสียงหลง แต่ทว่า...
ปัง!! ปัง!!
"ห่าเอ้ย!! โดนตัวเดียว อีกตัวมันหายไปไหนแล้ววะ เร็วจริง ฝีมือของกูตกนะเนี่ย" ขาวบ่นเบาๆ โดยที่เขาไม่สนใจหน้าของพรานเทืองที่ตอนนี้นั่งหน้าขาวซีดอยู่
"มึง...มึงยิงงูทำไม งูตัวดำใหญ่ขนาดนั้น มันไม่ใช่งูธรรมดาแน่ๆ" พรานเทืองพึมพำเบาๆอย่างคนที่พูดอะไรไม่ออกไปมากกว่านี้แล้ว
"ไม่ธรรมดาอะไร ก็แค่งูจงอางมันออกมาพลอดรักกัน เดี๋ยวพรุ่งนี้ข้าจะลงไปดูสิ ว่าเป็นตัวผู้รึว่าตัวเมียที่ตาย" ขาวหาสนใจไม่ เขายังพูดอย่างภูมิใจในตัวเอง ที่เขาสามารถยิงงูตายได้ ทั้งที่พวกเขานั่งอยู่บนต้นไม้
"เช้าสะที กลับกันเลยนะ" พรานเทืองบอกกับขาว ก่อนที่เขาจะปีนลงจากต้นไม้นำไปก่อน โดยที่มีขาวปีนตามลงมาอย่างรีบร้อน
"อย่าเพิ่งกลับสิ พรานเทืองลืมรึ ว่าเมื่อคืนข้ายิงงูเอาไว้ นั่นไงมันยังอยู่ โชคดีที่ยังไม่มีสัตว์ตัวไหนมาลากมันไปกินก่อนเรา" ขาวพูดพร้อมกับรีบวิ่งไปที่ซากงู ที่เขายิงเอาไว้เมื่อคืน
"ไม่ดู...กูจะกลับแล้ว มึงก็ไม่ควร..."
"ตัวเมียว่ะที่ตาย เอ๊ะ...พรานเทืองดูสิ ตัวผู้มันต้องบาดเจ็บแน่ๆ มีคราบเลือดของมันไปทางนั้น เราไปตามมันดีกว่า ตัวเดียวกินไม่อิ่ม..."
"มึงไปคนเดียวเถอะ กูไม่ไปกับมึงหรอก แล้วกูก็ไม่กินงูกับมึงด้วย กูจะกลับ คราวหน้ามึงไม่ต้องมากับกูอีกแล้วนะ" พรานเทืองบอกกับขาว ก่อนที่เขาจะรีบเดินออกจากป่าไปอย่างรวดเร็ว
"พรานเทืองเดี๋ยวสิ นั่นไง มันไปนอนนิ่งอยู่นั่นไง ไม่ตายง่ายๆใช่ไหม" ขาวกัดฟันพูดด้วยความมันเขี้ยว พร้อมกับเล็งปลายกระบอกปืนไปที่งูตัวผู้ที่นอนนิ่งอยู่
ปัง!!)
"โอ้ย...ย!! ฝัน!! ฝันอีกแล้วเหรอวะเนี่ย ทำไมฝันแบบนี้บ่อยจังวะ แถมฝันเหมือนจริงด้วยสิ" ชะเอม หรือเอมที่เพื่อนๆหรือคนในครอบครัวชอบเรียกกัน เธอสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมกับลูบไปที่ลำคอทางด้านหลังของตัวเอง เหมือนกับเธอโดนยิงที่คอสะเองอย่างนั้นแหละ ทั้งที่ในความฝัน งูตัวดำทมิฬน่ากลัวตัวนั้น โดนนายพรานป่ายิงอย่างเลือดเย็น ในขณะที่มันกำลังพลอดรักอยู่กับคู่รักของมัน
"กี่โมงแล้ววะเนี่ย ตายแล้วๆ จะสายแล้ว" เอมบ่นพึมพำพร้อมกับก้าวขาลงจากเตียงอย่างรีบร้อน ก่อนที่เธอจะรีบเดินเข้าห้องนํ้าไป ไปเรียนสายไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าพี่ชายหรือว่าพ่อขึ้นมาตามนี่สิ คือเรื่องใหญ่ เพราะว่าเธอจะโดนบ่นจนหูชา จนกว่าเธอจะออกจากบ้านเลยทีเดียว เธออยู่กับพ่อแล้วก็พี่ชายอีกคนหนึ่ง ครอบครัวของเธออยู่ด้วยกันสามคน แม่ของเธอเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ ตั้งแต่ที่เธอเรียนอยู่มัธยมต้นแล้ว ส่วนพี่ชายของเธอเรียนจบแล้ว แต่ก็ไม่ได้ไปทำงานที่ไหน เพราะว่าต้องช่วยพ่อขายของที่ร้านอาหารตามสั่ง ที่อยู่หน้าปากซอยที่เป็นชุมชนแออัด ก็เลยมีลูกค้าเยอะตลอดแทบจะทั้งวัน ทำให้พี่ชายทิ้งพ่อให้อยู่กับคนงานตามลำพังไม่ได้
"มึงตื่นสายอีกแล้วนะเอม เห็นว่าบ้านอยู่ใกล้..."
"นี่คือข้าวของเอมใช่ไหมพี่อนณ ขอบคุณค่ะ" ไม่พูดเปล่า เอมรีบเข้าไปนั่งอย่างรวดเร็ว เพื่อให้พี่ชายหยุดบ่น
"แล้ววันนี้มึงจะกลับกี่โมง ห้ามไปหาเรื่องใครเขาล่ะ" อนณบอกกับน้องสาวพร้อมกับนั่งคิดบัญชีไปด้วย เพราะว่าเขามีหน้าที่ทำบัญชีของร้าน แล้วก็เป็นคนซื้อของเขาร้านให้พ่อ รวมทั้งดูแลเรื่องพนักงานให้พ่อด้วย จะเรียกว่าเขาเป็นผู้จัดการร้านก็ว่าได้ ถึงจะเป็นแค่ร้านอาหารตามสั่งก็เถอะ แต่มันก็ไม่เล็กนัก เป็นอาคารพาณิชย์สามคูหาสองชั้น ชั้นบนใช้เป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัว แล้วที่ร้านก็มีลูกค้าเข้าออกร้านแทบจะทั้งวัน ถึงจะไม่รวย แต่ก็ทำให้พ่อส่งเขากับน้องสาวเรียนได้มาจนถึงทุกวันนี้
"เอมไม่ใช่เด็กนะพี่อนณ เออ...เมื่อคืนเอมฝันอีก..."
"หยุด!! ตอนกินข้าวเขาห้ามพูดเรื่องความฝัน เดี๋ยวมันจะกลายเป็นเรื่องจริง" พี่ชายห้ามให้น้องสาวพูดด้วยท่าทางที่จริงจัง เพราะน้องสาวเล่าความฝันให้เขาฟัง ว่าฝันซํ้าเรื่องเดิมมาหลายคืนแล้ว เขาก็เลยกลัวว่าจะเป็นเรื่องจริง ส่วนจะจริงได้ยังไงนั้น เขาเองก็ยังไม่รู้เหมือนกัน
"โบราณว่ะ ไม่พูดก็ได้" เอมว่าให้พี่ชาย ก่อนที่เธอจะรีบกินข้าวต่อ
"ไอ้เอม...มึงอย่าห้าวให้มันมากนัก พูดจาไม่น่ารักเลย ผู้หญิงอะไรวะ สมควรแล้วที่ไม่มีแฟนกับเขาสักที" พี่ชายว่าให้น้องสาวด้วยนํ้าเสียงที่หมั่นไส้
"มีได้เหรอ พูดเหมือนกับยอมให้มีอย่างนั้นแหละ" น้องสาวเองก็เถียงพี่ชายกลับไปอย่างไม่ยอมเช่นกัน เพราะว่าที่ผ่านมา พ่อกับพี่ชายหวงเธอมาก แล้วอีกอย่าง จะให้เธอพูดเพราะพูดจาหวานหูได้ยังไง เธออยู่แต่กับพ่อกับพี่ชาย แล้วก็เพื่อนของพี่ชายเป็นกลุ่มใหญ่ ผู้ชายทั้งนั้น ทุกคนล้วนแต่พูดจาหยาบคาย แถมพูดจาทะลึ่งทะเล้น แทบจะไม่เรียกชื่อกันเลยด้วยซํ้า ใช้สรรพนามอื่นแทนตลอด ทั้งสัตว์นํ้าสัตว์บกเรียกมาใช้งานหมด
"อย่าเถียงมากได้ไหม รีบกินข้าวไป ตื่นสายแล้วยังจะมานั่งเถียงอีก เดี๋ยวก็เข้าเรียนไม่..."
"ถ้าเอมขึ้นรถไฟฟ้าไปคงจะไม่ทันแล้วล่ะ ไปพี่วินดีกว่า พี่อนณนั่นแหละชวนคุย ไปแล้วๆ จุ๊บ ไม่ต้องโทรตามนะ กลับตอนไหนก็เห็นตอนนั้นแหละ..."
"ไอ้เอม!! มือไวจริงๆ เอาไปกี่พันวะนั่น ไอ้น้องคนนี้ มือเร็วจริงๆเลยว่ะ" พี่ชายตะโกนตามหลังของน้องสาวไปด้วยความมันเขี้ยว ไม่ใช่เพราะว่าเขารักน้องสาวมากนะ แต่เป็นเพราะว่าน้องสาวเดินเข้ามาหอมแก้มของเขา แล้วมือไวหยิบเงินที่เขากำลังนับอยู่ไปเป็นกำเลย จะไม่ให้เขาตะโกนตามหลังไปได้ยังไงล่ะ
...
"นั่งพี่วินมาอีกแล้วใช่ไหมเอม ผมเผ้ามาอย่างสวยเลยเพื่อนรัก" กรีนทักเพื่อนพร้อมกับยิ้มขำไปด้วย เพราะว่าเป็นภาพที่เธอเห็นเป็นประจำตั้งแต่ที่เรียนมัธยมต้นมาด้วยกันแล้ว ในขณะที่เอมเอามือสาวผมแบบลวกๆเดินเข้ามาหาพวกเธอ
"วันนี้มีรับน้องด้วยนะ พวกเราจะเข้าร่วมกับพวกเขาไหมอ่ะ" ไข่หวานถามเพื่อนๆ ที่นั่งกันอยู่ครบทีม แต่ไม่ค่อยจะได้เงยหน้าขึ้นมาคุยกันนัก เพราะว่าเล่นมือถือกันอยู่ บ้างก็เติมแต่งหน้าทาปากกันอยู่ กลุ่มของพวกเธอมีกันอยู่ห้าคน มีกรีน เอม ดรีม ปีใหม่ รวมทั้งเธอด้วยเป็นห้าคน
"ไม่อยู่รับน้องก็ได้ไม่ใช่เหรอ เขาไม่ได้บังคับหนิ เอมไม่อยากกลับบ้านช้า ขี้เกียจฟังพี่อนณบ่น..."
"หรา...!!"
เพื่อนทุกคนต่างก็เงยหน้าขึ้นมาถาม พร้อมกับทำหน้าว่าเอือมระอากับคำพูดของเอมไปด้วย
"อะไร ก็เอมพูดจริง..."
"พี่อนณบ่นจริง แต่คนอย่างเอมไม่เคยสนใจจ๊ะ ที่ไม่อยากอยู่รับน้องจะไปไหนเหรอจ๊ะเพื่อนรัก" ดรีมถามเพื่อนพร้อมกับมองเพื่อนอย่างรู้ทัน
"อย่าบอกนะว่าจะไปบ้านดรีมอ่ะ ไม่สิ ไปหาพี่ชายของดรีมใช่ไหมล่ะ" ปีใหม่ถามเพื่อนอย่างรู้ทัน
"แสนรู้นะเพื่อน" เอมว่าสวนกลับไปอย่างเร็วทันใจเช่นกัน
"ไม่ใช่หมาเว้ย เชอะ!!" ปีใหม่พูดแล้วมองค้อนเพื่อน ก่อนที่เธอจะแต่งเติมหน้าของเธอต่อ
"นี่เอมยังแอบชอบพี่ดีนอยู่อีกเหรอ ดรีมก็แปลก เพื่อนแอบชอบพี่ชายของตัวเองก็ไม่ยอมบอก ปล่อยให้เพื่อนแอบชอบอยู่ได้ตั้งหลายปี" กรีนพูดด้วยความไม่เข้าใจดรีม เพราะว่าเอมแอบชอบพี่ชายของดรีมตั้งแต่มัธยมต้น จนตอนนี้พวกเธอเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว เอมยังอยู่ในฐานะแอบชอบเหมือนเดิม โดยที่ดีนพี่ชายของดรีมไม่เคยรู้เลย
"ก็เอมไม่ให้บอก..."
"บอกเพื่อ? เอมแอบชอบคนที่เขามีแฟนอยู่แล้ว แค่ชอบก็พอแล้วไหม ก็แค่ชอบ ไม่ได้หวังจะได้ครอบครองหนิ" เอมยักไหล่อย่างไม่แคร์
"แอบชอบอย่างเดียวที่ไหน ไปแอบเฝ้ามองเขาที่บ้านด้วย แถมไปนั่งดูเขาหวานกับแฟนของเขาอีก" ไข่หวานพูดด้วยความไม่เข้าใจเพื่อน
"แต่ดรีมอยากบอกให้พี่ดีนรู้นะ ดรีมอยากให้เอมมาเป็นพี่สะใภ้สะยังจะดีกว่าพี่เกล พี่เกลไม่ได้มีพี่ดีนคนเดียวสะหน่อย วันก่อนดรีมยังเห็นพี่เกลไปกินข้าวกับเพื่อนที่คณะที่ชื่อยูเลย พี่ดีนเรียนหนัก ไม่มีเวลาให้แฟน เรียนคนละคณะ จะไปสู้คนที่เขาเรียนคณะเดียวกันได้ยังไง" ดรีมพูดด้วยนํ้าเสียงที่เจ็บใจเล็กน้อย ที่พี่ชายของตัวเองโดนผู้หญิงหลอกคบซ้อนแบบนี้ เธอบอกกับพี่ชายแล้ว แต่พี่ชายของเธอบอกว่าพวกเขาเป็นแค่เพื่อนกัน พี่ชายของเธอไว้ใจแฟนของตัวเองมากจนเธอไม่รู้จะทำยังไงดี
"หือ...เรื่องจริงเหรอดรีม ทำไมพี่เกลทำแบบนั้นล่ะ ถ้าเป็นแบบนั้น พี่ดีนจะไปสู้กับคนที่อยู่ใกล้ชิดกันได้ยังไง เอมอยากเห็นหน้า..."
"เอมเพื่อนรัก สติจ๊ะ เอมอยู่ในฐานะที่แอบชอบ เอมไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งกับเรื่องของพวกเขา" กรีนพูดพร้อมกับยกนิ้วชี้ขึ้นส่ายไปมาว่าห้าม
"แม้...กรีนอ่ะ" เอมมองค้อนเพื่อนที่ห้ามเธอ ทั้งที่เธอยังพูดไม่จบเลย