ตอนที่ 4
“กูลืมบอกไปว่ากูก็มีปัญหากับเฮดว๊ากด้วย” มันพูดออกมานิ่ง ๆ ขณะเอื้อมมือไปรับจานข้าวจากแม่ค้าพร้อมกับจ่ายตังค์อย่างเฉยชา นี่แหละนิสัยมัน เป็นคนนิ่ง ๆ พูดน้อย เรียบร้อย น่ารัก อย่างหลังนี่คือผมโกหก ที่จริงนิสัยมันก็เป็นคนนิ่ง ๆ นี่แหละ นิ่งจนผมไม่อาจรู้ได้เลยว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่
“ฉิบหายยยยยย!!” ผมตะโกนออกมาดังลั่นโรงอาหารของคณะสถาปัตย์
“มึงจะตะโกนทำไมเนี่ย” มันมองหน้าผมพลางเลิกคิ้วขึ้น
“กูตื่นเต้นน่ะ แล้วไงต่อวะเล่ามาให้หมดดิ” ไอ้ธีถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ อย่างเบื่อหน่ายกับความขี้เสือกของผม
“ค่อยไปเล่าตรงโต๊ะละกัน มึงรีบ ๆ รับจานข้าวจากป้าเขาได้ละ เขาจะแดกหัวมึงอยู่แล้วนั่น” ไอ้ธีพยักพเยิดไปทางแม่ค้าขายข้าว ผมจึงหันกลับไปมอง ก่อนจะเห็นป้าหน้ายักษ์ยืนท้าวสะเอว มืออีกข้างก็ถือจานข้าวกำลังมองผมอยู่ ป้าเขาเหมือนนางในวรรณคดีมากเลยครับ
ไม่ใช่นางเงือกนะ แต่เป็นผีเสื้อสมุทร
“เอ่อ...เท่าไหร่คับป้า” ผมเอ่ยถามป้าหน้ายักษ์แม่ค้าขายข้าวอย่างเกรง ๆ
นี่ผมจะโดนทัพพีขว้างใส่หัวหรือเปล่าวะเนี่ย...
“30 บาท” ผมล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงก่อนจะหยิบเหรียญออกมานับให้ป้าเขา แล้วรีบลากไอ้ธีเดินออกมาอย่างไวเมื่อแม่ค้าเริ่มเคาะทัพพีเป็นสัญญาณเตรียมขว้าง
“กวนตีนนะมึงเนี่ย” ไอ้ธีมันพูดว่าผมออกมาอย่างไม่จริงจัง ขณะที่ผมกับมันกำลังเดินไปที่โต๊ะ ที่ไอ้บิวกับไอ้คิวนั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“กูไม่ได้กวน นั่นมันก็เงินเหมือนกันป่ะ ป้าเขาเรื่องมากเอง” ผมแก้ตัวออกไปข้าง ๆ คู ๆ ก่อนจะวางจานข้าวไว้บนโต๊ะแล้วนั่งลงเมื่อเดินมาถึงแล้ว “เล่ามาเลยไอ้ธี” ผมเร่งมันอย่างอยากรู้
ชาติที่แล้วเกิดเป็นเผือกครับต้องเข้าใจ...
“นี่มึงจะแดกเหล้าแต่หัววันเลยเหรอวะไอ้นิก” ไอ้คิวมันพูดถามออกมาอย่างไม่รู้เรื่อง
“กูหมายถึงเล่า แบบเล่าเรื่องอ่ะ ไม่ได้หมายถึงเหล้าที่เอาไว้แดก” เมื่อผมพูดแบบนั้นไอ้คิวมันก็พยักหน้าอย่างเข้าใจแล้วนั่งกินข้าวในจานของมันต่อ
“ก็คือว่า....” ไอ้ธีมันเริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้พวกผมฟังโดยมีไอ้บิวคอยเสริมทัพ
“ทำไมพวกรุ่นพี่มึงแมร่งโหดกันขนาดนี้วะ มึงน่าจะขอโทษไปเลยให้เรื่องมันจบ ๆ ไม่น่าเดินออกมาเลยว่ะ” ผมพูดออกมาเมื่อมันเล่าให้ผมฟัง ว่าไอ้บิวโดนผู้ชายหน้าเถื่อนในคณะที่หื่นไม่รู้เวล่ำเวลาจับก้น ขณะที่พวกมันกำลังเข้าแถวประชุมกับพวกพี่ว๊ากอยู่
แต่ตอนนั้นไอ้ธีมันยืนอยู่ข้างหลังไอ้บิวพอดีจึงเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเลยตรงเข้าไปต่อยไอ้หื่นนั่น จึงทำให้ปีหนึ่งที่อยู่รอบ ๆ ฮือฮากันจนพวกพี่ว๊ากได้ยิน จึงโดนเรียกไปคุยและโดนด่ายับกลับมาทั้ง ๆ ที่มันก็ไม่ผิดอะไร และเฮดว๊ากก็สั่งให้มันขอโทษเพื่อเรื่องจะได้จบและจะได้ไม่มีปัญหากันทีหลัง แต่มันกลับเดินหนีออกมาจากห้องนั้นอย่างขัดคำสั่ง
ซึ่งผมก็พอเข้าใจเพื่อนอยู่ ว่าคนอย่างมันไม่ชอบก้มหัวให้ใคร...
หลังจากกินข้าวกันเรียบร้อยพวกผมก็พากันแยกย้ายกันไปเรียนตามคณะของตน จนตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมาถึงเวลาเลิกเรียนแล้ว การเรียนตลอดทั้งวันของวันนี้ ผ่านไปโดยที่ไม่มีอะไรได้เข้าไปอยู่ในสมองของผมกับไอ้คิวเลยสักนิด คำที่ผมจะให้สำหรับการเรียนวันนี้ก็คือ 5 ง.
งง งงงวย งงมาก งงอีหลี งงฉิบหายยยย!!
“เลิกเรียนแล้วไปไหนกันดีวะ” ไอ้คิวถามผมขณะกำลังเก็บของใส่กระเป๋า เมื่ออาจารย์บอกเลิกคลาส
“ไปร้านเหล้ากัน ว่าจะพาไอ้ธีไปคลายเครียดหน่อย” มือของผมก็หยิบหนังสือจับยัดเข้าใส่กระเป๋าอย่างลวก ๆ
”พาไอ้ธีไปคลายเครียดหรือมึงกันแน่ที่อยากแดก” ไอ้คิวเดินมากอดไหล่ผม
“ก็ต้องกูอยากแดกสิวะ ฮ่า ๆๆ” ผมหัวเราะใส่หน้ามันดังลั่น มันเองก็ยิ้มขำ ๆ ก่อนจะเดินกอดคอกันออกมาจากห้อง เพื่อนนักศึกษาบางคนก็หันหน้ามามองที่พวกผม สงสัยพวกผมหล่อโดนใจล่ะสิ เปิดเทอมวันแรกก็ไม่มีอะไรครับ ชิล ๆ
แต่สมองนี่ปลิวไปไกลแล้ว
