ตอนที่5.หญิงร้ายชายแรง
“จะรีบไปไหนพี่ต้น” วิชัยร้องถามเมื่อเห็นรุ่นพี่กระโดดคร่อมรถมอเตอร์ไซค์แล้วขับออกไปด้วยความรีบร้อน
“พี่ต้นไปไหนพร” ถามพรพรรณเมื่อต้นหมื่นไม่ตอบคำถาม
“พรได้ยินพี่ต้นคุยโทรศัพท์กับพริก แล้วพี่ต้นก็ออกไปเลย”
“เอาอีกแล้ว เด็กเปรต!” ก่นด่าพิมพ์ศิริเพราะเข้าใจว่าพิมพ์ศิริคงสร้างเรื่องอีกแล้ว จนป่านนี้ยังไม่เอาเมล่อนมาให้คนงานแพ็คใส่กล่อง
“พรถามพี่ต้นแล้ว พี่ต้นบอกว่าไม่มีอะไรค่ะ”
“ทำเหมือนไม่รู้จักนิสัยพี่ต้น เด็กบ้านั่นคงสร้างเรื่องอีกแล้ว เดี๋ยวผมไปดูหน่อยดีกว่า”
“มีอะไรพี่ชัย” วันรุ่งที่เปิดประตูเข้ามาถามเมื่อเห็นวิชัยหยิบกุญแจรถ แล้วรีบร้อนออกไป
“ไอ้พริกโทรมาหาพี่ต้น พี่ต้นก็รีบออกไป ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไร”
“รถเสียหรือเปล่า” วันรุ่งตั้งข้อสังเกต
“เด็กผีนั่นดีแต่อวดเก่ง คอยดูนะถ้ารถและของในรถเสียหาย จะไม่ให้จับรถอีกเลย” วิชัยพูดด้วยความโมโห ก่อนจะเดินออกไปโดยมีวันรุ่งตามไปติด ๆ
“มีอะไรหรือเปล่าผู้จัดการ” ป้านิ่มที่มารอแพ็คผลไม้ใส่กล่องถาม เมื่อเห็นเจ้าของไร่และผู้จัดการรีบร้อนออกไป
“รอแป๊บนะป้า กำลังไปเอาของ” วันรุ่งหันมาตอบ ก่อนจะโดดขึ้นรถที่วิชัยขับออกไปด้วยความเร็วสูง
“สร้างเรื่องอีกแล้วนะอีพริก!” ภายใต้ฉากหน้าที่แสนหวาน พรพรรณก็มีด้านมืดไม่ต่างจากคนอื่น เธอรักต้นหมื่นมานานและหมายมั่นว่าจะต้องได้ต้นหมื่นเป็นสามี พิมพ์ศิริโตขึ้นทุกวัน ถึงจะห้าวแบบทอมบอย แต่เธอก็ไม่ไว้ใจ ยิ่งเห็นต้นหมื่นห่วงใยใส่ใจก็ยิ่งอิจฉา
....................................................................................
“พี่ต้นมาแล้ว!” ทันทีที่รถมอเตอร์ไซค์เวฟ 125i ขับมาจอดหน้าบ้านพิมพ์ศิริก็ร้องออกมาด้วยความดีใจ ก่อนจะต้องหุบยิ้ม เมื่อเห็นรถที่ขับตามมาจอดอีกคัน สายตาทุกคู่มองไปยังรถหรูที่จอดอยู่หน้าบ้าน ก่อนจะมองไปที่พิมพ์ศิริ ที่ชี้นิ้วไปที่รถคันนั้น
“คุณแสนรักบอกว่ามีเรื่องจะคุยกับพี่ต้น” พูดจบก็เดินไปเคาะกระจกฝั่งคนขับ ที่เจ้าของรถนั่งหลบละอองฝนอยู่ในนั้น ทันทีที่ร่างระหงภายใต้เสื้อยืดสีขาวกับกางยีนส์รัดรูปก้าวออกมาจากรถ คนที่มาใหม่ก็อ้าปากค้าง สายตาทุกคู่จับจ้องอยู่ที่ใบหน้าสวย ก่อนจะเลื่อนไปยังหน้าอกอวบอิ่ม ที่ก้อนเนื้อดันเสื้อยืดออกมาจนเห็นเป็นรูปร่าง หนุ่ม ๆ ยืนตาค้างเพราะเพิ่งดูคลิปที่ระบุว่าเธอเป็นนักแสดงมา
“พี่ต้น! พี่ต้น!” พิมพ์ศิริเรียกลูกพี่เมื่อเห็นว่าต้นหมื่นก็เป็นไปกับเขาด้วย การมองของผู้ชายทั้งสามทำให้แสนรักโกรธจนควันออกหู เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่คนพวกนี้ก็ป่าเถื่อนและไร้มารยาทเกินไป
“สวย...สวยมาก...สวยเหมือนนางฟ้า” วันรุ่งหลุดปากออกมาเหมือนคนละเมอ
“นี่! จะมองกันอีกนานไหมห๊ะ!” เมื่อทนไม่ไหว แสนรักก็ตะโกนออกมา ต้นหมื่นที่ดูมีสติมากกว่าคนอื่นสะดุ้งสุดตัว ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะตกใจที่เห็นหน้าเธอ อีกอย่างเขาก็ผู้ชาย มีของสวย ๆ งาม ๆ ให้มองก็ต้องมอง
“พี่ต้น” พิมพ์ศิริเขย่าแขนลูกพี่
“คุณใช่ไหมที่ชื่อต้นหมื่น เจอตัวก็ดี เก็บข้าวของออกไปจากบ้านของฉันซะก่อนที่ฉันจะให้ตำรวจมาลากคอเข้าคุก” ไม่มีการแนะนำตัวใด ๆ เมื่อแสนรักตะโกนออกมาสุดเสียง คำพูดของหญิงสาวสร้างความงุนงงให้กับทุก โดยเฉพาะต้นหมื่นที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้
“ยังจะมองหน้าอีก ฉันสั่งก็รีบทำสิ ก่อนตะวันตกดิน คุณต้องขนทุกอย่างออกไปจากบ้านของฉัน!”
“ผมว่าคุณคงเข้าใจผิด” เมื่อตั้งสติได้ต้นหมื่นก็สวนออกไปทันควัน
“เข้าใจผิดอย่างนั้นเหรอ คุณและคนของคุณกำลังบุกรุกบ้านฉัน จะต้องให้ฉันเอาโฉนดที่ดินมากางให้ดูไหม เห็นว่าเจ้าของไม่มาดูแล เลยคิดจะครอบครองใช่ไหม หน้าด้านที่สุด!”
“ผมว่าใจเย็น ๆ ก่อนนะครับคุณแสนรัก” วิชัยพยายามไกล่เกลี่ย ที่ดินตรงนี้เขาเป็นคนตรวจเอกสารเองกับมือ ต้นหมื่นเป็นเจ้าของที่ถูกต้องแน่นอน แต่ทำไมแสนรักถึงได้มาโวยวาย
“ลืมไปแล้วเหรอว่าคุณขายที่แปลงนี้ให้ผมแล้ว คุณมีโฉนด ผมก็มีเหมือนกัน นอกจากโฉนดผมยังมีลายเซ็นในใบมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประชาชนพร้อมลายเซ็นของคุณ ความจำเสื่อมหรือปัญญาอ่อน! ถึงกลับมาโวยวาย” เมื่อถูกใส่มาเป็นชุด ต้นหมื่นก็ไม่ยอมเช่นกัน ด่ามาด่ากลับไม่โกง
“พูดบ้าอะไร! ใบมอบอำนาจอะไร ใครเซ็น!”
“คือแบบนี้ครับคุณแสน...” วิชัยทำท่าจะอธิบาย แต่แสนรักขัดขึ้น
“หยุดพูดไปเลย ฉันจะคุยกับคนที่ชื่อต้นหมื่นคนเดียวเท่านั้น รวมหัวกันใช่ไหม ได้ งั้นก็เข้าคุกไปหมดนี่แหละ ที่แปลงนี้เป็นของฉัน ฉันเป็นเจ้าของที่ถูกต้องตามกฎหมาย รีบขนของออกไปดีกว่า”
“ปัญญาอ่อนจริง ๆ ด้วย ว่าแล้วเชียวทำไมถึงรีบขาย ผมซื้อที่แปลงนี้ไว้นานแล้ว ป้าคุณเป็นคนเอามาขายให้ผม จะดูเอกสารไหม ไหนล่ะโฉนดของคุณ เอามาเทียบกันเลยดีกว่าว่าของใครจริง ของใครปลอม!”
“ไอ้บ้า! พูดอะไรของคุณ ป้าฉันไม่มีทางทำอย่างนั้น ท่านไม่เอาที่ของฉันมาขายแน่นอน เลวที่สุดใส่ร้ายแม้กระทั่งคนแก่ อยู่มานานใช่ไหมคิดจะใช่ช่องโหว่ของกฎหมายยึดที่ฉันใช่ไหม หน้าด้านที่สุด”
“ผมว่าเราเข้าไปคุยกันในบ้านดีไหมครับ พี่ต้นเชิญคุณแสนเข้าบ้านก่อนสิพี่ พริกไปได้แล้ว คนงานรอเมล่อนอยู่” วิชัยพยายามไกล่เกลี่ยเพราะคิดว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล แสนรักขายที่ไปแล้ว แต่ทำไมถึงทำเหมือนไม่รู้เรื่อง เรื่องนี้น่าจะมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ที่สองคนนี้ไม่รู้
“เปิดบ้านแล้วขนของออกไปเดี๋ยวนี้!” แสนรักออกคำสั่ง แต่ต้นหมื่นยังเฉย ตาคู่คมจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของหญิงสาว แสนก็ไม่ยอมแพ้ จ้องตาเขาเช่นกัน ตาสองคู่สบกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอใบหน้าคมเข้มแบบฉบับชายไทย หน่วยก้านดี แต่ป่าเถื่อนและปากเสียสิ้นดี มีอย่างที่ไหนมาด่าว่าเธอปัญญาอ่อน ถ้าไม่มีหลักฐานเธอคงไม่ถ่อมาถึงที่นี่ คอยดูเถอะจะไม่ได้แม้กระทั่งค่ารื้อถอน
แสนรักสวยมากสมกับที่เป็นเบอร์หนึ่ง แต่ไร้มารยาทสิ้นดี มาโวยวายกล่าวหาสารพัด ไม่ฟังที่เขาอธิบายเลยสักนิด ใครอยากคุยดีด้วยก็เชิญ แต่เขาคงไม่คุย จุดจบของเรื่องนี้ถ้าไม่อยู่ที่โรงพัก ก็น่าจะเป็นกรมที่ดิน แล้วยาวไปที่ศาล เพราะเขาไม่ยอมเธอเองก็คงไม่ยอมเช่นกัน
