บท
ตั้งค่า

7 พบเจอ

พุดพิชชาล้างและหั่นผักระหว่างรอแกงเขียวหวานเดือด พอเสร็จเธอก็แบ่งแกงใส่ชามให้คุณป้าข้างบ้านแต่เธอไม่รู้ว่าบ้านนั้นอยู่กันกี่คน จะโทรไปถามปราณติญาก็กลัวว่าเพื่อนจะกำลังสอนอยู่ หญิงสาวเลยเตรียมไว้สำหรับพอทานสามคน เธอเตรียมทั้งแกง ขนมจีน ผัก รวมไปถึงไข่ต้มสำหรับทานกับขนมจีนแกงเขียวหวาน และเมื่อเตรียมทุกอย่างเสร็จก็อาบน้ำสระผมก่อนที่จะไปทำความรู้จักกับคุณป้าข้างบ้าน

หญิงสาวกดออดที่หน้าประตูเพียงไม่นานก็มีเด็กสาวอายุประมาณ 15 ที่พูดภาษาไทยค่อนข้างชัดแต่ก็ยังติดสำเนียงต่างด้าวอยู่บ้าง เด็กสาวพาเธอไปยังห้องรับแขกที่มีหญิงสูงวัยท่าทางใจดีนั่งรออยู่แล้ว

“สวัสดีค่ะคุณป้า” พุดพิชชายกมือไหว้ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้บุนวมตัวใหญ่

“ไหว้พระเถอะ มานั่งตรงนี้สิ จะได้คุยกันใกล้ๆ”

“ค่ะ”

“เป็นเพื่อนหนูป่านเหรอจ้ะแล้วชื่ออะไรล่ะ”

“ใช่ค่ะ หนูเป็นเพื่อนป่านแก้วชื่อพุดค่ะ มาจากพุดพิชชาค่ะ”

“อ๋อ ดอกพุดพิชชานี่เอง ป้าชื่อลดา หนูเรียกป้าดาก็ได้ แต่ก่อนป้าอยู่กรุงเทพฯ ไม่ค่อยได้มาอยู่ที่นี่แต่จากนี้ป้าคงย้ายมาอยู่ที่นี่อย่างถาวร หนูพุดแวะมาคุยกับป้าได้ตลอดนะลูก” ลดารู้สึกเอ็นดูหญิงสาว

“ได้ค่ะคุณป้า ช่วงนี้พุดยังว่างจะมาคุยกับป้าบ่อยๆ”

“แล้วหนูพุดทำงานอะไร เป็นครูอย่างหนูป่านแก้วหรือเปล่า”

“เปล่าค่ะ พุดกำลังจะเปิดร้านขายชานมไข่มุกค่ะ”

“ขายที่ไหนละจ้ะ” หญิงสาวบอกกับผู้หญิงสูงวัยอย่างละเอียด เธอรู้สึกอบอุ่นที่ได้คุยกับป้าลดา แต่ก็ต้องรีบขอตัวกลับเพราะยังต้องเอาแกงเขียวหวานไปให้ปราณติญาที่โรงเรียนด้วย

การทำสัญญาเช่าเป็นไปได้ด้วยดี พุดพิชชาตรวจสอบสัญญาเช่าและใบเสร็จรับเงินอย่างละเอียด จากนั้นเธอก็โอนเงินให้กับกับของร้านเดิม พอตกบ่ายก็ไปร้านทำป้ายที่เพื่อสั่งทำป้ายไวนิลชื่อร้านแปะทับป้ายเดิมหน้าและธงญี่ปุ่นพร้อมขาตั้งมาตกแต่งหน้าร้าน ก่อนกลับก็แวะไปร้านขายเครื่องเขียนเพื่อซื้อกระดาษสำหรับปริ้นใบปลิวแนะนำร้านรวมถึงโปรโมชั่นที่เธอจะจัดในช่วงแรกของการเปิดร้าน

“พุด ครูที่โรงเรียนชมกันใหญ่เลยว่าแกงเขียวหวานของแกอร่อยมาก ถ้าแกจะเปลี่ยนใจมาเปิดร้านอาหารก็ได้นะ” ปราณติญารีบบอกเพื่อนเมื่อกลับมาถึงบ้าน

“ร้านอาหารฉันคงทำไม่ไหวหรอกแก ตอนนี้เอาแค่ร้านชาให้รอดก่อน”

“แกสนใจทำข้าวกล่องไหม ฉันจะรับออเดอร์ครูที่โรงเรียนให้”

“ก็สนใจนะ แต่ไม่ยากให้แกลำบาก”

“ไม่ลำบากเลย บางทีกินอะไรเดิมๆ มันก็เบื่อ”

“อ๋อ อยากหาอะไรอร่อยๆ ทานก็ไม่บอก เอาอย่างนี้ไหม ฉันจะทำไลน์กลุ่มสั่งอาหาร ครูคนไหนอยากซื้อก็ให้แจ้งไว้แกจะได้ไม่ต้องวุ่นวาย แต่คงรับนานๆ ครั้ง เพราะถ้าเรากินอะไรติดๆ กันก็มักจะเบื่อและมักจะบอกว่าไม่อร่อย”

“แต่ช่วงแรก คงยังไม่เบื่อหรอกน่า เอาไว้เบื่อๆ แล้วจะบอกนะ”

“อย่างนั้นก็ได้แต่รออีกสักพักนะ รอร้านชาเข้าที่เข้าทางก่อน” แม้จะอยากมีรายได้แต่เธอก็กลัวถ้าทำสองอย่างพร้อมๆ กันเธอจะทำไม่ทัน

“แล้วที่ร้านมีอะไรให้ช่วยไหม เสาร์นี้ฉันว่าง”

“ดีเลยป่าน ฉันอยากให้ไปช่วยตกแต่งร้านหน่อย เพราะร้านเดิมไม่ค่อยสดใส แกว่าทาสีใหม่หรือซื้อวอลเปเปอร์ลายสวยๆ มาติดดี”

“วอลเปเปอร์ดีไหม เดี๋ยวฉันพาไปดูที่ร้าน” หญิงสาวรีบบอกเพื่อน เพราะเองก็พึ่งไปซื้อของที่ร้านนี้มาตกแต่งผนังในห้องนอน

“ป่าน แกรู้จักป้าดาไหม” พุดพิชชานึกได้ก็รีบถามเพื่อนถึงเพื่อนบ้านที่เธอเองได้รู้จัก

“ป้าดา บ้านหลังใหญ่ใช่ไหม รู้จักสิ ทำไมเหรอ แกเจอป้าดาเหรอพุด”

“อือ ฉันกำลังทำแกงเขียวหวาน ป้าแกบอกว่าได้กลิ่นหอมไปถึงบ้านแก ฉันเลยแบ่งแกงเขียวหวานกับขนมจีนไปให้”

“ป้าดาแกใจดีฉันเคยเจอนานแล้วตอนที่มาอยู่ใหม่ๆ แต่แกก็ย้ายไปอยู่กับลูกที่กรุงเทพฯ”

“อือ วันนี้ป้าดาบอกว่าจะย้ายกลับมาอยู่ที่นี่ เลยชวนให้ฉันไปคุยด้วยบ่อยๆ”

“ดีแล้ว ป้าแกคงเหงา ฉันก็พึ่งรู้พรุ่งนี้เย็นคงต้องไปทักทายเสียหน่อย แกก็ไปด้วยกันไหม”

“ได้สิ”

เย็นวันพุธ สองสาวก็พากันทาทักทายป้าดาที่กำลังเดินออกกำลังกายเบาๆ ที่สนามหญ้าหน้าบ้าน พอหญิงสูงวัยหันมาเห็นสองสาวข้างบ้านก็ยิ้มดีใจ

“สวัสดีค่ะป้าดา” สองสาวเอ่ยทักทายพร้อมยกมือไหว้

“ไหว้พระเถอะหนูป่าน หนูพุด”

“ป้าดามาอยู่นี่ได้กี่วันแล้วคะ ป่านไม่ยักรู้ ถ้าพุดไม่บอกป่านก็คงยังไม่ได้มาสวัสดีป้าดา”

“มาได้หลายวันแล้ว ป้าเองก็ไม่ได้ไปทักทายหนูป่านเหมือนกันเพราะหนูป่านออกบ้านแต่เช้า กลับเข้ามาอีกทีก็เย็นแล้ว ป้าเลยว่าจะรอไปทักทายวันเสาร์”

“ป่านไม่ได้ว่าอะไรป้าดานะคะ ป่านแค่คิดถึง” ปราณติญาทำเสียงอ้อน

“ปากหวานอีกแล้วหนูป่าน แล้วทานอะไรกันมาหรือยังล่ะ”

“ยังเลยค่ะ ว่าจะมาชวนป้าดาไปทานข้าวด้วยกัน วันนี้พุดทำปลาทับทิมนึ่งกับแกงเลียงกุ้งสดแล้วก็มีน้ำพริกกะปิชะอมทอดอีกอย่างค่ะ ป้าดาไปทานด้วยกันนะคะ” พุดพิชชาบอกรายการอาหารที่เธอทำไว้ให้กับป้าลดาฟัง

“จะดีเหรอ ป้าเกรงใจ”

“ดีสิคะป้า พุดทำกับข้าวอร่อยค่ะ รับรองป้าดาต้องติดใจแน่ๆ”

“ป้าเชื่อจ้ะ เพราะวันก่อนแกงเขียวหวานก็อร่อยถูกใจป้ามาก”

“ไปกันเลยไหมคะ” ปราณติญาชวน

“เดี๋ยวป้าไปบอกเด็กในบ้านก่อน หนูป่านแก้วกับหนูพุดไปรอที่บ้ายเลยก็ได้จ้ะ”

“เดี๋ยวพุดล่วงหน้าไปจัดโต๊ะก่อน ป่านไปพร้อมป้าดาก็ได้” แล้วสาวร่างสูงโปรงก็รีบเดินกลับมายังบ้านหลังเล็กของปราณติญา

รัญภาคย์กลับมาถึงบ้านในเวลาเกือบจะ 6 โมงเย็นทั้งบ้านเงียบเชียบเหมือนไม่มีคนอยู่ พอเดินเข้าไปยังห้องรับแขกที่มักจะเห็นมารดานั่งดูทีวีอยู่ก็ไม่เจอใคร เขาเดินไปดูในครัวก็ยังไม่เจอทั้งมารดาและเด็กสาวที่เขาจ้างให้มาอยู่เป็นเพื่อนมารดา ชายหนุ่มรับวิ่งขึ้นไปยังห้องนอนเพราะคิดว่าบางทีมารดาอาจจะไม่สบายและขึ้นไปนอนพักแต่ห้องนอนก็ว่างเปล่า

“แม่ แม่ครับ” ร่างสูงใหญ่เดินไปรอบๆ บ้านพร้อมตะโกนเรียก

“อ้าวคุณรัญกลับมาแล้วเหรอะคะ” ลียาตกใจที่เห็นเจ้านายหนุ่ม

“ลียา แม่อยู่ไหน” เขาถามเด็กสาวชาวพม่าที่เพื่อนเขาเป็นคนฝากมาให้ทำงานด้วยเมื่อครั้งที่เขาบอกว่าจะมาอยู่พี่พิษณุโลก ลียาเป็นชาวพม่าแต่พูดไทยชัดเพราะมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เด็ก พ่อกับแม่นั้นก็ทำงานที่บ้านของเตวิชเพื่อนของเขาซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันนี้

“คุณผู้หญิงไปทานข้าวที่บ้านนู้นค่ะ” ลียาชี้ไปยังบ้านหลังเล็กที่มีรั้วกำแพงติดกัน

“อะไรนะ แล้วทำไมลียามาตามไป”

“คุณป้าดาเธอบอกว่าไม่ต้องตามไปค่ะ เพราะเดี๋ยวตอนกลับคุณป่านจะมาส่ง”

รัญภาคย์ได้ยินชื่อแล้วก็คลายความกังวล เพราะเขาเคยเจอกับปราณติญาหลายครั้งแล้วตอนที่มาอยู่บ้านหลังนี้ใหม่ เธอเองก็พึ่งย้ายมาอยู่พร้อมกับเขา แต่พอเขาไปอยู่กรุงเทพฯ ก็ไม่ได้ติดต่อกัน

“ลียามาอยู่ที่นี่หลายวันแล้วเป็นยังไงบ้าง เหงาบ้างหรือเปล่า” เขาเข้าใจดีว่าเด็กสาววันนี้กำลังติดเพื่อนเพราะเขามีน้องสาวมาก่อน

“ไม่เหงาค่ะ คุณป้าดาให้หนูเล่นโทรศัพท์และดูทีวีได้ถ้าทำงานเสร็จแล้ว”

“แล้วอยากกลับไปหาพ่อกับแม่บ้างไหม”

“ก็..” เด็กสาวไม่กล้าตอบคำถาม

“คืนนี้จะกลับไปนอนกับพ่อแม่ก็ได้นะ เดี๋ยวฉันดูแลแม่เอง พรุ่งนี้สายๆ ค่อยมาก็ได้” ชายหนุ่มบอกอย่างใจดี

“หนูไปได้จริงๆ เหรอคะ” เด็กสาวถามให้แน่ใจอีกครั้งเพราะกลัวว่าเจ้านายจะแค่ล้อเล่น

“ได้สิ แล้วนี้จะไปยังไง”

“หนูมีจักรยานค่ะ” เด็กสาวชี้ไปที่โรงรถ เขาก็เห็นรถจักรยานคันเล็กๆ พิงอยู่

“งั้นก็รีบไปเถอะ นี่ก็จะมืดแล้ว” ชายหนุ่มรีบบอก

“ค่ะคุณรัญ ขอบคุณมากๆค่ะ” ลียายกมือไหว้ชายหนุ่ม

เมื่อลียากลับไปแล้วรัญภาคย์ก็อาบน้ำแล้วลงมานั่งรอมารดาที่ห้องรับแขก รัญภาคย์มองนาฬิกาบนผนัง ตอนนี้เวลาเกือบสามทุ่มแล้วแต่มารดาของเขายังไม่กลับมาจากบ้านของปราณติญา ชายหนุ่มคิดว่าจะให้เวลาอีกสิบนาทีแล้วเขาจะไปตามมารดาให้กลับมาพักผ่อน แล้วเสียงคนคุยกันแว่วมาแต่ไกล รัญภาคย์รีบเดินออกไปที่หน้าประตูทันที

“อ้าวรัญ แม่นึกว่ายังไม่กลับ” ลดาแปลกใจที่เห็นลูกชายกลับมาบ้าน เพราะคิดว่าเขาคงจะไปดื่มต่อกับเพื่อนๆ

“กลับมานานแล้วครับ นี่กำลังจะไปตามแม่อยู่เลย”

“แม่คุยเพลินไปหน่อยดูนาฬิกาอีกทีก็สามทุ่มแล้ว หนูพุดนี่ลูกชายป้าเอง ส่วนหนูป่านแก้วคงเคยเจอกันแล้ว” เธอรีบแนะนำลูกชายให้กับหญิงสาวข้างบ้าน

“สวัสดีค่ะ” สองสาวเอ่ยทักทาย

“สวัสดีครับ ไม่เจอกันนานเลยป่านแก้ว สบายดีใช่ไหม” รัญภาคย์ทักทายหญิงสาวเพื่อนบ้านที่เคยเจอกันเมื่อครั้งที่อยู่ที่นี่ตอนแรก ส่วนหญิงสาวอีกคนนั้นเขาพึงเห็นเป็นครั้งแรก

“ป่านสบายดีค่ะ พี่รัญล่ะคะ”

“สบายดีครับ พี่ขอบคุณนะครับ ป่านทำให้แม่พี่หายเหงาได้เยอะเลย แล้วก็ขอบคุณสำหรับแกงเขียวหวานด้วยอร่อยมาก พี่ไม่ได้กินแกงเขียวหวานอร่อยแบบนี้นานแล้ว” เขาชมอย่างจริงใจ

“ขอบคุณผิดคนแล้วค่ะ คนทำไม่ใช่ป่านค่ะเพื่อนป่านเป็นคนทำค่ะ” ปราณติญารีบแก้ไขความเข้าใจผิดของชายหนุ่ม

“อ้าวเหรอ พี่นึกว่าป่านทำ ถ้าอย่างนั้นขอบคุณมากนะครับ” เขากันไปบอกกับหญิงสาวอีกคน เธอเป็นหญิงสาวรูปร่างสูงโปรงแต่ก็ดูบอบบางผมยาวตรงมัดไว้เป็นหางม้า ในหน้าหวานมีดวงตากลมโตแม้ว่าจะมองในความมืดก็ยังเห็นความสวยงามอย่างลงตัวบนใบหน้าเรียวนั้น

“ค่ะ” พุดพิชชาตอบรับสั้นๆ เพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับเขา

“ดึกแล้วป้าว่าเราแยกย้ายกันดีไหม”

“ค่ะป้าดา พุดขอตัวกลับเลยนะคะ” พุดพิชชายิ้มให้กับคนสูงวัย

“ป่านไปก่อนนะคะพี่รัญ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel