บทย่อ
บางครั้งกว่าชีวิตจะลงตัว ก็ต้องผ่านอะไรมากมาย แต่พอถึงที่สุดแล้วมันก็จะทำให้เราได้ยิ้มกว้าง
1 การออกเดินทางเพื่อมองหาสิ่งใหม่
เงาตะคุ่มๆ ภายในร้านกาแฟกรุกระจกสูงจากพื้นถึงเพดานที่ตกแต่งอย่างสวยงามเวลาเที่ยงคืนดูจะไม่ปกติเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่มีใครมาสนใจเพราะเป็นเวลาที่คนส่วนใหญ่จะเข้านอนกันหมดแล้ว หญิงสาวคนหนึ่งเปิดขวดโหลบรรจุเมล็ดกาแฟสีเข้มสามโหลที่มีชื่อชนิดกาแฟต่างกันตามสายพันธ์ จากนั้นเททั้งหมดลงในกะละมังใบใหญ่ แล้วใช้พายพลาสติกผสมเมล็ดทั้งสามชนิดให้เข้ากันก่อนจะตักเมล็ดกาแฟทั้งหมดลงไปในขวดโหลทั้งสามอีกครั้ง แล้ววางให้เข้าที่อย่างเดิมจากนั้นเธอเปิดขวดโหลบรรจุน้ำตาลสีขาวแล้วเทผงสีขาวเล็กๆ ลงไปเพียงเล็กน้อย ต่อด้วยการเขย่าผงสีขาวให้กลืนไปกับน้ำตาล
หญิงสาวร่างสูงระหงคนเดิมเดินไปถอดปลั๊กไฟที่เสียบอยู่กับตู้เย็นและตู้แช่เค้กที่มีเค้กอยู่เต็มตู้ออกอย่างไม่กลัวว่าของที่แช่อยู่ข้างในจะเสีย ใครจะสนกันล่ะในเมื่อพรุ่งนี้คนที่จะต้องรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดไม่ใช่เธออีกต่อไป แฟ้มใส่สูตรชงเครื่องดื่มและสูตรเบเกอรี่รวมถึงสมุดโน้ตปกแข็งสีน้ำตาลที่มีรอยเปื้อนเต็มไปหมด ถูกยัดใส่เป้สีดำอย่างทะนุถนอม จากนั้นเครื่องคอมพิวเตอร์แบบออลอินวันถูกวางคว่ำให้ด้านจอสัมผัสกับพื้น แล้วเธอก็เธอใช้ไขควงเล็กหมุนน็อตออกจากฝาด้านหลังแล้วใช้ปิ๊กกีตาร์ที่เตรียมมาค่อยๆ แทรกเข้าไปที่ฝาด้านหลังพอ ฝาเปิดออกเธอก็ใช้ไขควงอีกอันหมุนเอาฮาร์ดดิสก์ออกไปโดยไม่ลืมที่จะครอบฝาหลังไว้อย่างเดิม นับเป็นโชคดีที่เธอเป็นคนเอาคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ไปซ่อมครั้งที่แล้ว เธอจึงรู้ว่าช่างแกะฮาร์ดดิสก์ออกยังไง และเครื่องที่เคยแกะออกมาซ่อมแล้วครั้งหนึ่งจึงแกะออกอย่างง่ายๆ เวลาเพียงไม่นานทุกอย่างก็เรียบร้อย เธอไม่ใช่ขโมย ทุกอย่างที่เธอทำเป็นสิทธิ์ของเธอโดยชอบธรรมเพียงแต่หญิงสาวไม่คิดว่าวันที่เธอทวงสิทธิ์จะมาถึงเร็วกว่าที่เธอคิดไว้
แจ๊สสีเหลืองสดวิ่งด้วยความเร็วเพียง 60 กิโมเมตรต่อชั่วโมงไปบนถนนพหลโยธินรถทุกคันต่างพากันขับแซงไปคันแล้วคันเล่า แต่คนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยก็ไม่สนใจเลยสักนิดเพราะเมื่อกะระยะเวลาแล้วน่าจะถึงจุดหมายตามเวลาที่ต้องการ พอรถออกจากเขตจังหวัดอยุธยามาได้สักพักหญิงสาวเจ้าของรถก็แวะลงไปเดินยืดเส้นยืดสายที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง แม้ว่าเวลาจะล่วงเข้าวันใหม่แล้วแต่ผู้คนก็ยังเดินกันขวักไขว่ เพราะถนนสายนี้เป็นเส้นหลักที่จะเดินทางไปยังภาคเหนือของประเทศเธอเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าล้างตาเพื่อเรียกความสดชื่น จากนั้นออกมาซื้อกาแฟยังร้านสะดวกซื้อที่อยู่ภายในปั๊ม หญิงสาวไม่ลืมที่จะหยิบขนมขบเคี้ยวสองห่อกับน้ำเปล่าอีกขวด ก่อนจะขับรถไปอย่างช้าๆ เช่นเดิม เธอขับต่อไปอีกราวๆ สองชั่วโมงแสงตะวันก็เริ่มจับขอบฟ้า หญิงสาวมองป้ายข้างทางตอนนี้ถึงเขตจังหวัดนครสวรรค์ เธอแวะปั๊มขนาดใหญ่อีกครั้งหลังจากเติมน้ำมันเต็มถัง เธอก็ขับไปจอดบริเวณหน้าห้องน้ำ มือเรียวเล็กบีบยาสีฟันลงไปในแปรงอย่างเชื่องช้า จากนั้นคล้องผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่คอเพื่อลงไปยังห้องน้ำ เวลาเช้าอย่างนี้ยังไม่ค่อยมีใครมาใช้บริการสักเท่าไหร่เธอแปลงฟันล้างหน้าอย่างใจเย็น จากนั้นสูดอากาศเข้าเต็มปอดอีกครั้ง ร้านอาหารภายในปั๊มยังไม่เปิดให้บริการ ร้านสะดวกซื้อจึงเป็นทางเลือกเดียวสำหรับเธอในเวลาเช้าตรู่เช่นนี้
เธอเลือกเอสเปรสโซ่ร้อนหนึ่งแก้วกับแซนวิชอบร้อนรองท้อง เมื่อทานเสร็จก็เดินกลับเข้าไปบ้วนปากอีกครั้งก่อนขับแจ๊สเหลืองคู่ใจมุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทาง
สองชั่วโมงจากนั้นเธอก็มาถึงวัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร ที่ตั้งอยู่ซ้ายมือเธอขับรถเข้าไปจอดโดยไม่ต้องเสียเวลาวนหาที่จอดรถเลยสักนิด เวลาเช้าๆ อย่างนี้ผู้คนบางตาเธอตรงไปหยิบดอกบัวและธูปเทียนจากนั้นหย่อนเงินจำนวนหนึ่งลงตู้บริจาค ก่อนจะจุดธูปเทียนนำไปวางบนแท่นวางเทียน จากนั้นนั่งสวดบทบูชาพระพุทธชินราชที่ทางวัดเขียนไว้ที่ป้ายหินอ่อน จากนั้นนำดอกไม้ไปวางที่พาน นำธูปไปปักที่กระถาง และไม่ลืมที่จะเข้าชื่นชมความงามและอธิษฐานขอพรอีกครั้งภายในวิหารที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่สวยที่สุดในประเทศไทย
พอออกจากประตูวิหารหญิงสาวเดินอ้อมไปด้านหลัง เพื่อไหว้พระอัฏฐารส พระพุทธรูปยืนปางห้ามญาติ จากนั้นก็นั่งลงบนม้าหินอ่อนที่อยู่บริเวณด้านข้างทางเดิน ความเงียบสงบทำให้เธอนั่งคิดอะไรเพลินอยู่นาน
ติ๊ด...ติ๊ด...ติ๊ด...
เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ดังขึ้น หญิงสาวรีบเอามือล้วงกระเป๋าออกมาทันที
“พุดแกถึงไหนแล้ว” เสียงเรียกอย่างสนิทดังมาตามสายทันทีที่หญิงสาวกดรับ พุดพิชชาคือชื่อเต็มของหญิงสาวที่ถูกเรียกว่าพุด หญิงสาววัย 25 ปี เธอเรียนจบคณะบริหารธุรกิจส่วนเพื่อนที่โทรศัพท์มาตามเธอนั้นชื่อว่าปราณติญาหรือที่เธอเรียกติดปากว่าป่าน หรือป่านแก้วนั้นเป็นเรียนจบคณะคุรุศาสตร์และตอนนี้ก็มาเป็นครูอยู่ที่นี่
“ถึงพิด’โลกแล้ว ไหว้พระพึ่งเสร็จกำลังจะออกจากวัดแล้วล่ะ” หญิงสาวหมายถึงจังหวัดพิษณุโลกซึ่งตั้งอยู่ตอนบนของภาคกลางและตอนล่างของภาคเหนือ
“อ้าว! แทนที่จะมาหาเพื่อนก่อนจะได้ไปไหวพระด้วยกัน” ปราณติญาต่อว่าเพื่อนอย่างไม่จริงจังมากนัก
“ฉันพึ่งมาถึงก็ต้องไปไหว้พระเพื่อเป็นสิริมงคลก่อนสิ ส่วนแกอยู่มาตั้งแต่เกิดจะไปไหว้ตอนไหนก็ได้นี่ป่าน” เธอรีบอธิบาย
“ก็จริงของแกนะ งั้นรีบเข้ามาที่บ้านเลยนะ ฉันอยากเจอจะแย่แล้ว”
“อือ กำลังออกจากวัดแล้ว อีกไม่เกิน 10 นาทีถึงบ้านแกแน่” คนพูดรีบขึ้นรถแล้วขับออกไป เธอเคยมาบ้านเพื่อนคนนี้แล้วหลายครั้งจึงรู้เส้นทางเป็นอย่างดี
ทันทีที่รถสีเหลืองสดจอดที่หน้าบ้าน หญิงสาวที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยก็รีบเปิดประตูออกไปหาเพื่อนซึ่งตอนนี้ก็ออกมายืนรออยู่ที่หน้ารั้วไม้สีขาวเตี้ยๆ ทั้งสองสวมกอดกันด้วยความคิดถึง
“ไม่เจอเกือบปีสวยขึ้นเยอะเลยนะพุด” เจ้าของบ้านทักทายผู้มาเยือนด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอย่างดีใจ ก่อนจะพากันเดินเข้าไปในตัวบ้าน
“ป่านก็สวยขึ้นเหมือนกัน ไม่คิดเลยว่าสาวห้าวอย่างแกจะสวยได้ขนาดนี้” พุดพิชชามองหน้าเพื่อนแล้วก็หัวเราะพร้อมๆ กัน
“เดินทางมาเหนื่อยๆ ไปล้างหน้าก่อนไหม เดี๋ยวจะพาไปหาอะไรกินอร่อยๆ”
“ไม่เหนื่อยหรอกขับมาเรื่อยๆ แล้ววันนี้ป่านมีโปรแกรมทำอะไรไหม ฉันมาทำให้ผิดแผนหรือเปล่า” หญิงสาวอย่างเกรงใจ เพราะเธอไม่ได้คิดมาก่อนว่าจะมาหาเพื่อนที่นี่ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน คนเดียวที่เธอนึกถึงก็คือเพื่อนคนนี้
“ไม่มีอะไรพิเศษ แค่ว่าจะออกไปหาซื้อของใช้สักหน่อย พุดมาก็ดีเลย จะได้ไปช่วยกันเลือก”
“อือ ขอฉันล้างหน้าล้างตาก่อน ป่านกินอะไรหรือยัง” พุดพิชชาถามเพื่อน
“กินกาแฟไปแก้วเดียวตอนเช้า กะว่ารอพุดมาก่อนแล้วไปกินด้วยกันทีเดียว”
“อือ ฉันเลยทำให้แกต้องหิ้วท้องรอ”
“ไม่หรอกวันเสาร์ก็งี้แหละ” ปราณติญาพาเพื่อนเดินไปยังห้องนอนของตัวเอง
“ใช้ห้องฉันไปก่อนนะ แกโทร. มาซะดึก ฉันเลยยังไม่ได้ทำความสะอาดห้อง เอาไว้ไปซื้อของกลับมาค่อยว่ากันอีกที”
“เดี๋ยวฉันทำเองป่านไม่ต้องลำบากหรอก แค่ให้ฉันมาอยู่ด้วยก็ไม่รู้จะขอบคุณแกยังไงดี”
“อย่าคิดมากน่ะ เราเพื่อนกัน” เธอตบบ่าเพื่อนอย่างให้กำลังใจ
ปราณติญาพาเพื่อนมาซื้อของยังห้างสรรพสินค้าที่มีสาขาทั่วประเทศ เมื่อได้ของใช้ครบแล้วก็พากันไปกินพิซซ่ายังร้านที่ในบริเวณเดียวกับห้าง
“ไม่ได้กินมานานมากแล้วนะ นึกถึงสมัยเรียนเนาะพุด” ปราณติญานึกไปถึงวัยเรียนที่เธอกับพุดพิชชามักจะออกไปทานพิซซ่าด้วยกันบ่อยๆ
“อือ นั่นสิ แต่ก่อนเรามักไปกินกันทุกวันหยุด กินเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อและไม่อ้วนด้วย”
“ก็อย่างว่าแหละ แต่ก่อนระบบเผาผลาญยังดีอยู่ แต่ตอนนี้ถ้ากินบ่อยๆ มีหวังได้อ้วนแน่ แต่วันนี้ถือเป็นโอกาสพี่เศษ โอกาสที่เราสองคนจะได้มาอยู่ด้วยกัน”
“ฉันดีใจนะที่ในวัยที่แย่ที่สุดก็มะแกอยู่เคียงข้าง”
“ไหนลองเล่ามาสิ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ฉันรู้ว่าแกรักร้านกาแฟที่แกกับแม่ช่วยกันสร้างมากแค่ไหน อยู่ๆ แกคงไม่ทิ้งร้านมาอย่างนี้แน่ๆ”